ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
บทความนี้คงจะถูกใจคอกาแฟ เมื่อสถาบันทางการแพทย์หลายแห่งได้เผยแพร่รายงายวิจัยถึงผลดีต่อสุขภาพจากการบริโภคกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม และนี่คือ9 เหตุผลว่าทำไมกาแฟถึงดีสำหรับคุณ
1. กาแฟทำให้คุณฉลาดขึ้น
ส่วนประกอบสำคัญของกาแฟคือคาเฟอีน เป็นสารกระตุ้น และเป็นสารที่ส่งผลต่อจิตใจที่มีการบริโภคมากที่สุดในโลก คาเฟอีนจะยับยั้งการทำงานของสารอะดีโนซีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ห้ามการหลั่งของสื่อประสาทในร่างกาย ทำให้สมองหลั่งสารสื่อประสาทอย่างซีโรโทนินิและนอร์เอพิเนฟรินมากขึ้น และเซลล์ประสาทมีความไวมากกว่าปกติ งานวิจัยหลายสำนักระบุว่านอกจากนี้ กาแฟยังช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้นได้ชั่วคราว รวมถึงความจำ ความระแวดระวัง และทำให้การทำงานของสมองโดยทั่วไปดีขึ้นด้วย
2. กาแฟช่วยเผาผลาญไขมัน
คาเฟอีนช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย เป็นอาหารเสริมที่นำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ในด้านการเผาผลาญไขมันมากที่สุด หลักๆเป็นเพราะว่าคาเฟอีนไปกระตุ้นระบบประสาท ที่ทำให้ทั้งเพิ่มการเผาผลาญ เพิ่มปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของกรดไขมัน และช่วยในการเคลื่อนย้ายกรดไขมันจากเนื้อเยื่อไขมันด้วย
3. กาแฟลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
งานวิจัยจากหลายสถาบันทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย เผยว่ากาแฟ (และชาดำ แต่ไม่รวมถึงชาเขียว) มีความเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 แต่จะลดได้มากน้อย มีความผันผวนตามปัจจัยหลายอย่าง จากการเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วมการวิจัยกว่า 450,000 คนในปี 2009 ระบุว่าการดื่มกาแฟวันละ 2 ถึง 3 แก้วต่อวัน สามารถลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวานประเภท 2 ได้ถึง 7 เปอร์เซ็นต์
4. กาแฟลดความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อม
นอกจากกาแฟจะทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้นชั่วคราวแล้ว ยังมีงานวิจัยในปี 2002 ประเทศโปรตุเกส ระบุว่าการบริโภคคาเฟอีน สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และสามารถชะลอความรุนแรงของโรคได้ด้วย
5. กาแฟดีต่อหัวใจ
งานวิจัยปี 2012 สรุปว่าการบริโภคกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม คือประมาณ 2 แก้วต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจล้มเหลวได้ถึง 11 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงงานวิจัยปี 2017 ที่พบว่าการบริโภคคาเฟอีนเป็นผลดีต่อสุขภาพหลอดเลือดหัวใจรวมถึงความดันด้วย
6. กาแฟช่วยผู้ป่วยโรคพาร์กินสันควบคุมการเคลื่อนไหว
งานวิจัยในสหรัฐฯที่ใช้เวลาติดตามผลนานถึง 6 ปี เปิดเผยว่าคาเฟอีนสามารถลดความเสี่ยงการเป็นโรคพาร์กินสันได้ถึง 32 – 60 เปอร์เซ็นต์ และยังช่วยให้ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดีขึ้นด้วย
7. กาแฟดีต่อตับ
กาแฟทั้งชนิดธรรมดาและชนิดดีแคฟมีผลดีต่อตับ งานวิจัยเผยว่าคนที่ชอบดื่มกาแฟเป็นประจำจะมีระดับเอนไซม์ในตับในระดับที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟเลย และกาแฟยังช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคตับแข็งได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ โดยคนที่ดื่มกาแฟถึงวันละ 4 แก้ว จะเห็นผลได้ดี นอกจากนี้ งานวิจัยในญี่ปุ่นและสวีเดนยังระบุว่ากาแฟสามารถลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งตับได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์
8. กาแฟช่วยคุณต่อสู้กับโรคซึมเศร้า
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดในปี 2011 หลังใช้เวลาติดตามข้อมูลถึง 10 ปี ระบุว่าผู้หญิงที่ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วขึ้นไป มีความเสี่ยงมีอาการซึมเศร้าน้อยลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และงานวิจัยในปี 2016 ในจีน ระบุว่าคาเฟอีนในกาแฟมีส่วนทำให้ความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรควิตกกังวล (Anxiety) โดยเฉพาะคนที่มีภาวะตื่นตระหนก(panic disorder) หรือโรคกลัวสังคม (social anxiety disorder) อยู่แล้ว
9. กาแฟมีคุณค่าทางโภชนาการและมีสารต้านอนุมูลอิสระ
สารอาหารในเมล็ดกาแฟดิบยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงตอนที่ถูกแปรรูปมาเป็นเครื่องดื่มแล้ว ซึ่งมีแร่ธาตุละวิตามินหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 ธาตุโพแทสเซียม และธาตุแมงกานีส นอกจากนี้ กาแฟยังเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระอย่างดี มีมากกว่าผักผลไม้หลายชนิดเสียอีก
แม้ว่าการดื่มกาแฟจะดีต่อสุขภาพ แต่การดื่มกาแฟมากเกินไปก็ยังเป็นอันตรายอยู่ดี ถ้าอยากให้กาแฟมีผลดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง ลดการเติมความหวานอย่างน้ำตาลลง และกาแฟมักส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ ดังนั้นไม่ควรดื่มกาแฟช่วงเวลาเย็นๆเป็นต้นไป