"อนาคตอีสาน โอกาสประเทศไทย” ทักษิณโชว์วิสัยทัศน์พัฒนาอีสาน

วันนี้ (20 ธันวาคม) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายพิเศษ ในการสัมมนา ''ISAN NEXT: พลิกเศรษฐกิจไทย ฝ่าวิกฤตโลก'' ในหัวข้อ ''อนาคตอีสาน โอกาสประเทศไทย'' ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยเห็นว่า ''ความกันดาร'' คือ สินทรัพย์ ซึ่งในพื้นที่ภาคอีสานมีความกันดารมาก่อน ก่อนที่จะมีการพัฒนาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งความกันดารนั้น ทำให้คนอีสานมีความแข็งแรง เพราะต้องดิ้นรนในการเอาตัวรอด สร้างองค์ความรู้ต่าง ๆ และต้องอดทน เข้มแข็ง สร้างวัฒนธรรมนักสู้ด้วยความอดทน และค้นหาภูมิปัญญาใหม่ ๆ แต่หวังว่า คนอีสานจะหมดความลำบากที่ยาวนานนี้ และพลิกฟื้นอีสานให้ได้

และหวังว่า จะสามารถสร้างคนอีสานให้เข้มแข็ง มีความสมัยใหม่ เรียนรู้ และเป็นคนที่สามารถควบคุม AI ได้ เข้าใจเทคโนโลยี และใช้ประโยชน์จากภูมิความรู้เดิมมาเพิ่มพูนรายได้ของคนอีสาน จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาช่วยกัน เพื่อให้คนอีสานมีรายได้ ที่สูงกว่าแรงงานขั้นต่ำ และตนจะพัฒนาโอทอป เพื่อให้โอทอป สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวอีสานได้

นายทักษิณ ยังเห็นว่า ในพื้นที่ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่มีพื้นที่มากที่สุด และยังมีประชากรมากที่สุด มีวัฒนธรรมที่เก่าแก่ จึงจำเป็นจะต้องสร้างความแข็งแกร่งให้ประชาชนชาวอีสาน โดยเริ่มจากการพัฒนา Soft Power ซึ่งเดิมที่มีอยู่แล้ว อย่างเช่น เซฟอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ หรือเชฟไทยในต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นชาวอีสาน ที่ได้รับการอบรม และฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องใช้คุณสมบัติของชาวอีสานที่มีอยู่เดิมมาต่อยอด หรือแม้แต่นักกีฬา ก็มีนักกีฬาหลายคนที่เป็นชางอีสาน ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องพัฒนาชาวอีสาน 

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงวัฒนธรรมคนไทย ต้องการเห็นบุตรหลานได้รับใบปริญญา ซึ่งเป็นการการันตีความรู้ แต่ปัญหา คือ แม้บางคนจะจบการศึกษา แต่ไม่ได้ความรู้ และไม่ได้ปัญญา หรือจบมามีประกาศนียบัตร แต่ไม่มีความรู้ ซึ่งขึ้นแล้วแต่บุคคล จึงทำให้คนส่วนหนึ่งเห่อใบปริญญา จนละเลยความรู้ และปัญญา ดังนั้น สังคมไทยจึงคาดหวังความรู้ และปัญหา และโลกก็ให้ความสำคัญกับ ''ทักษะ'' เพราะปัจจุบัน มีเทคโนโลยีมากมาย แต่คนที่มีปัญหา สามารถสั่งเครื่องจักรกลต่าง ๆ ให้ทำงานแทนคนได้ ดังนั้น จากนี้ คนอีสานจะต้องได้รับการผสมผสานเทคโนโลยีเข้าไปในชีวิตประจำวัน และใช้ประโยชน์บุคลากรในวงการศึกษาและมหาวิทยาลัยให้เป็นประโยชน์ในการสร้างคนอีสาน พัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ และโอทอป ที่ต้องมีการออกแบบใหม่ ๆ 

นายทักษิณ ยังอยากเห็นคนอีสานได้รับการพัฒนาจากภาครัฐ ให้เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง เพราะคนอีสานจนลงเพราะถูกผูกขาด หรือจนลงเพราะนายหน้า อย่างเช่น ข้าวหอมมะลิ ที่จะต้องผ่านสมาคม ซึ่งหากคนอีสานสามารถใช้ระบบ อี-คอมเมิร์ซ สร้างเว็บไซต์ของตนเอง ขายสินค้าของตนเองไปต่างประเศได้ โดยไม่ต้องพึ่งใบส่งออก ซึ่งในวันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายในการช่วยลดต้นทุน และผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ โดยใช้กลไกภาครัฐให้มีการลงทุนใหม่ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากผ่านการฝึกทักษะผ่านมหาวิทยาลัย 

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงภาคการเกษรในพื้นที่ภาคอีสานว่า เป็นการเกษตรที่ต้องการความแม่นยำมากที่สุด เพราะเกิดน้ำท่วม น้ำแล้ง ดังนั้น การเกษตรแม่นยำ หรือการใช้เทคโนโลยีมาทำนายสภาพอากาศ และตรวจสอบคุณภาพดินให้เหมาะสมกับการเพาะปลูก พร้อมขอให้ชาวบ้านขุดดินจากลำคลองแม่น้ำไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้มีพื้นที่รับน้ำมากขึ้น จึงจะช่วยให้คนอีสานมีรายได้มากขึ้น พร้อมเห็นว่า รถไฟความเร็วสูงจาก สปป.ลาว-กรุงเทพฯ ที่จะผ่านพื้นที่ภาคอีสานหลายจังหวัดด้วยนั้น จะเป็นโอกาสต่อภาคการเกษตรในพื้นที่ภาคอีสานในการส่งออกผลผลิต

นายทักษิณ ยังกังวลถึงคุณภาพของคนอีสาน ที่ถูกมอมเมาจากปัญหายาเสพติด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสนใจ และหวังให้ทุกภาคส่วนจัดการกับปัญหายาเสพติด ไม่ให้เกิดความอ่อนแอในครอบครัว คนกระทบต่อการเงินในครอบครัว ดังนั้น จึงจะต้องปราบปรามอย่างจริงจัง ซึ่งรัฐบาล ก็จะมีการทำแอพลิเคชั่นชี้เบาะแส ก็คาดว่า จะช่วยคนอีสานได้ 

นายทักษิณ ยังเปิดเผยความคืบหน้าภายหลังการใช้เงินส่วนตัวให้นักวิจัยต่างประเทศพัฒนา และปรับปรุงโอทอปไทยโอทอปสมัยใหม่ว่า หลังปีใหม่จะได้รับผลการศึกษาว่า จำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงอย่างไรบ้าง เช่นก่อนหน้านี้ เคยได้รับคำแนะนำในการพัฒนาลายผ้าพันคอแบรนด์เนมที่เป็นลายม้า ก็ได้รับคำแนะนำให้ใช้ลายบ้านเชียง ดังนั้น สินค้าโอทอปไทยหลังจากนี้จะต้องใช้เทคโนโลยี และมีการออกแบบที่เป็นที่ต้องการของต่างประเทศ และมั่นใจว่า พื้นที่อีสานจะเป็นฐานการผลิตโอทอปใหญ่ ที่สามารถขายทั้งโลกได้ โดยไม่ทิ้งวัฒนธรรมไทย 

นายทักษิณ ยังเห็นความจำเป็นที่คนอีสาน ควรจะต้องเรียนรู้ AI เพื่อให้สามารถสั่งการเครื่องจักรกลต่าง ๆ สามารถทำงานได้ โดยใช้มหาวิทยาลัยเป็นแกนกลางในการสอน เหมือนปัจจุบันที่มีโปรแกรม Chat GPT ทำหน้าที่แทน แต่ก็ยังมีความจำเป็นอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับชาวอีสาน จึงขอให้มหาวิทยาลัย เป็นศูนย์กลางในการสอนชาวอีสานทั้งซอฟต์พาวเวอร์ เทคโนโลยี และโอทอปสมัยใหม่ พร้อมยกตัวอย่างสมัยที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ใช้กลไกมหาวิทยาลัยในการดำเนินโครงการกองทุนหมู่บ้าน โดยให้นักศึกษาไปช่วยจัดทำบัญชีให้กับหมู่บ้าน และได้รับหน่วยกิตตอบแทน จึงอาจจะต้องพึ่งมหาวิทยาลัย ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายก อบจ.จังหวัดต่าง ๆ 

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงปัญหาหนี้สะสมของประเทศว่า การกู้เงินมาลงทุนอีกจะไม่สามารถกู้ได้ จึงจำเป็นต้องลดหนี้ เพื่อเพิ่ม GPD ด้วยการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งตนเองพูดหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการคลัง และด้านกฎหมาย ที่ผ่านมาที่รัฐบาล ออกพันธบัตรขายให้กับสถาบันการเงินต่าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจมาก เพราะสถาบันการเงินเก็บไว้เพื่อรับประโยชน์จากดอกเบี้ย แต่เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ เข้าดำรงตำแหน่งและกำลังจะเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบด้วยคริปโตเคเรนซี่ ซึ่งหากไทยจะดำเนินการตาม ก็จะไม่ทันการ และมีความเสี่ยง จึงควรนำพันธบัตรมาขายให้กับบุคคนทั่วไปในราคาที่ประชาชนสามารถซื้อได้ และมีอายุสั้น เพื่อให้หมุนเวียนในตลาด และออกมาในรูปแบบของเหรียญ หรือ คอยน์ ที่สามารถใช้จ่ายได้ หรือออมได้ เพื่อให้เงินหมุนเวียน และมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ทำให้ GDP ของประเทศโตขึ้น 4-5 เปอร์เซ็นให้ได้ รวมถึงเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ภาคอีสานด้วย เพราะในระบบทุนนิยม หากไม่มีทุน ก็ไม่สามารถก้าวหน้าได้ และภาคอีสาน เป็นภาคที่ถูกดูดเงินออกจากระบบมากที่สุด และไม่มีเม็ดเงินในระบบหล่อเลี้ยงเงินในระบบภาคอีสาน เพราะไกลกลับส่วนกลางหมด ดังนั้น การปล่อยพันธบัตรมาหมุนเวียนให้ประชาชนได้ใช้ จะเกิดประโยชน์มากกว่าการปล่อยขายให้กับสถาบันการเงิน 

การสร้างความแข็งแรงในเรื่องของการศึกษานั้น นายทักษิณ ระบุว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี ระบุในการแถลงผลงานรัฐบาลได้เงินสนับสนุนจากโรตารี่ ในการส่งนักเรียนไปศึกษาต่างประเทศ หรือจัดค่ายต่างประเทศ หรือให้อาจารย์ต่างชาติ มาจัดค่ายในภาคอีสาน เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้ และเข้าถึงวัฒนธรรมต่างประเทศ รวมถึงจะต้องมีโรงเรียนต้นแบบ เหมือนในอดีตที่มีโรงเรียนต้นแบบ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนในฝัน ซึ่งอาจจะต้องนำกลับมาดำเนินการอีกครั้ง 

นายทักษิณ ยังเปิดเผยว่า ยังอยากจะให้มีการประกวดคนอีสาน ที่ไม่ผ่านการศัลยกรรม ให้สามารถได้เป็นนางแบบในระดับโลกได้ เหมือนคนผิวสีในแอฟริกามาเป็นนางแบบระดับโลก ซึ่งมีรายดี และผู้หญิงอีสาน ยังเป็นที่ต้องตา และสวยงามในมุมของชาวต่างชาติด้วย