สมอ. คว้า “รางวัลเลิศรัฐ” 4 ปีซ้อน การันตีประสิทธิภาพการทำงานเพื่อผู้ประกอบการและปชช.

นายวันชัย  พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่ สมอ. ประสบความสำเร็จในการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการทำงานทุกกิจกรรมครบ 100% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้ประกอบการและประชาชน ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจให้ผู้ประกอบการ ตามนโยบาย Ease of Doing Business ของรัฐบาล ทั้งการยื่นขอใบอนุญาต มอก. ผ่านระบบ e-License การตรวจติดตามผลผู้ได้รับใบอนุญาตผ่านระบบ e-Surveillance และการชำระค่าบริการต่าง ๆ ผ่านระบบ e-Payment ตลอดจนการขออนุญาตนำเข้าสินค้าที่ สมอ. ควบคุม ผ่านระบบ National Single Window หรือ NSW ที่มีการเชื่อมโยงกับกรมศุลกากร เพื่อป้องกันการนำสินค้าไม่ได้มาตรฐานเข้ามาจำหน่ายในประเทศ รวมถึงระบบ e-Accreditation ในการออกใบรับรองระบบงาน ISO ให้แก่ผู้ประกอบการ ทำให้ สมอ. ได้รับ “รางวัลเลิศรัฐ” จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 สมอ. ยังคงคุณภาพการให้บริการ สามารถคว้ารางวัลเลิศรัฐมาครองได้สำเร็จอีกจำนวน 2 รางวัล ดังนี้

1. รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 (PMQA 4.0) ระดับก้าวหน้า (Advance) สะท้อนถึงความสำเร็จในการพัฒนาองค์กรเพื่อมุ่งสู่ระบบราชการ 4.0 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน มุ่งเน้นการทำงานที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นภาครัฐที่เปิดกว้างและเชื่อมโยงกัน และพัฒนาองค์กรให้มีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนจากการใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน โดยดำเนินมาตรการเชิงรุก “Quick Win” สกัดกั้นสินค้าด้อยคุณภาพให้หมดไปจากท้องตลาด โดยนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 จนถึงปัจจุบัน สมอ. ได้ยึดอายัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานแล้ว มูลค่ากว่า 375 ล้านบาท ทั้งนี้ สมอ. เป็น 1 ใน 36 หน่วยงานที่ได้รับรางวัลนี้ จากจำนวนผู้สมัครทั้งสิ้น 197 หน่วยงาน

2.  รางวัลบริการภาครัฐ "ระดับดี" ประเภท "ขับเคลื่อนเห็นผล" ด้านสิ่งแวดล้อม ในผลงาน “ขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมาย การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการพัฒนามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” สะท้อนความสำเร็จของ สมอ. ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สอดคล้องกับบริบทโลกและตอบโจทย์นโยบายสำคัญของประเทศด้านสิ่งแวดล้อมตาม BCG โมเดล โดยนำการมาตรฐานมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพเกี่ยวกับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การกำหนดมาตรฐาน BCG การพัฒนาหน่วยตรวจสอบและรับรองที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมนำมาตรฐานไปใช้พัฒนายกระดับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการขอรับการรับรอง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีการค้าโลก และช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 ตามที่ประเทศไทยได้ให้คำมั่นไว้ในการประชุม COP26 ซึ่ง สมอ. เป็น 1 ใน 76 หน่วยงานที่ได้รับรางวัลนี้ จากจำนวนผู้สมัครทั้งสิ้น 943 หน่วยงาน

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา สมอ. ได้รับรางวัลเลิศรัฐมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปีนี้ โดยที่ผ่านมาคว้ามาแล้ว 5 รางวัล ได้แก่ 1) รางวัลบริการภาครัฐ การยกระดับการอำนวยความสะดวกในการให้บริการ  2) รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ด้านการนำองค์การและความรับผิดชอบต่อสังคม 3) รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) ด้านการวางแผนยุทธศาสตร์และการสื่อสารเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ และ 4) รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) ด้านกระบวนการคุณภาพและนวัตกรรม 5) รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 (PMQA 4.0)   

“ในปีนี้ นอกจาก สมอ. จะได้รับรางวัลเลิศรัฐเป็นเครื่องการันตีคุณภาพการดำเนินงานแล้ว ยังได้รับรางวัลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment Awards: ITA Awards) จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกด้วย โดย สมอ. ได้ 97.17 คะแนน จัดเป็นลำดับที่ 7 ของหน่วยงานระดับกรมทั้งหมด 160 หน่วยงาน และมีคะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของกระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นความภาคภูมิใจของ สมอ. ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติทั้ง 2 รางวัลนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของบุคลากรเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและประชาชน ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ สมอ. ยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านการมาตรฐานให้มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นต่อไป” เลขาธิการ สมอ. กล่าว