The People จัดงานฉลองครบรอบ 5 ปี สำหรับสื่อออนไลน์ที่มุ่งหน้านำเสนอเรื่องของ 'คน' โดยมีความเชื่อว่า 'ทุกคนมีเรื่องเล่าเป็นของตัวเอง' โดยในงานครั้งนี้ ได้ผู้ร่วมเสวนาหลากหลายวงการมาแลกเปลี่ยนบทสนทนากันอย่างออกรส
เดินทางมาสู่ปีที่ 5 แล้วสำหรับ The People สื่อออนไลน์ที่เชื่อว่า ‘Everyone has their own story’ ‘เพราะทุกคนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง’ โดยในวันนี้ (9 พ.ย. 66) The People ได้จัดงาน THE PEOPLE TALK: GAME CHANGER FORUM 2023 เพื่อรวบรวมผู้คนในหลาย ๆ สายงานเพื่อมาร่วมสนทนากัน
โดยในงานจะมีผู้นำทางความคิดของประเทศมาร่วมแบ่งปันแนวคิด ประสบการณ์เพื่อเป็นฟันเฟื่องในการช่วยขับเคลื่อนสังคมไปสู่อนาคตข้างหน้า อีกทั้งยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในหลาย ๆ ภาคส่วน
ก่อนเริ่มงาน คุณอนันต์ ลือประดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการอำนวยการของ The People ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ของการจัดงานครบรอบ 5 ปีของสื่อออนไลน์ ‘The People’ ว่าจุดประสงค์แรกเริ่มในการก่อตั้งสื่อออนไลน์อย่าง The People ขึ้นมาคือ ‘ต้องการเปลี่ยนจากการนำเสนอข่าวมานำเสนอคน’
เพราะตัวบุคคลไม่ได้มีแค่ตัวเปล่า ๆ แต่มีกรอบประสบการณ์ให้ได้ขุดค้น และเรียนรู้จากเรื่องราวที่คนเหล่านั้นได้ประสบมา จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องราวดังกล่าวมานำเสนอให้กับชาว The People ได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน
โดยหัวข้อเสวนาที่เป็น Highlight สำคัญถูกจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Visionary Leadership Talk: การถอดบทเรียน ‘คน’ เปลี่ยนเกม ปรับตัว เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อทะยานสู่เส้นทางแห่งอนาคต
ผู้ร่วมเสวนาในหัวข้อดังกล่าวได้แก่
ในช่วงเริ่มต้นเวทีเสวนา นายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ ‘การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง บนโลกที่เปลี่ยนเร็ว’
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กล่าวถึงการเปลี่ยนในสังคมว่า เป็นเรื่องที่สลักสำคัญ และถือว่าท้าทายอย่างมากที่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในโลกที่กำลังวิวัฒน์ไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างวงเสวนา นพ.สุรพงษ์ ได้เล่าให้ฟังถึงบทสนทนาที่เคยพูดคุยกับ นพ.นิตยา รัมภ์พงศ์ ไถ่ถามกันว่า มีความฝันอะไร? หมอสงวนตอบว่า อย่างหนึ่งคือ เรื่องสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ หรือ สสส. และอีกเรื่องคือ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
หมอสงวนอธิบายเพิ่มว่า ตนต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อผลักดันให้ 2 สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จริง และเมื่อทั้ง 2 สิ่งเกิดเป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรมแล้ว นโยบายในฝันของหมอสงวนก็ยืนระยะได้มาถึงทุกวันนี้ ซึ่งหากเราพูดถึงเรื่องนี้ในอดีต หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่มันก็เกิดขึ้นจริง ๆ
แต่เมื่อในยุคปัจจุบัน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว บริบทเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็เพิ่มมากขึ้น เราที่เราเคยมั่นใจเราก็ต้องกลับมาทบทวนอีกครั้ง
“การเปลี่ยนแปลง ถ้าคาดหวังว่าจะได้อะไรจากการเปลี่ยนแปลง เชิงชื่อเสียงมากขึ้น ถูกจารึกในประวัติศาสตร์...อย่าเชื่ออย่างนั้น สิ่งที่เราทำวันนี้ อีกร้อยปีคนลืม ไม่มีใครสนใจ ทำไปเพื่อความเปลี่ยนแปลง โดยมีความรู้สึกว่าอยากทำ เป็นความสุขที่ได้ทำ อย่าคาดหวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ใครจะจดจำ แล้วเราจะผิดหวัง” นพ. สุรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย