ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เปิดศึกซักฟอกนายกฯ ชี้ดีลแลกประเทศ มีคนได้ประโยชน์ไม่ถึง 1% ทำลายระบบนิติรัฐ-ประชาธิปไตย ทักษิณชี้นำลอยตัว อิ๊งถืออำนาจรัฐแต่ขาดคุณสมบัติ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงเหตุผลของการเสนอญัตตินี้เพราะน.ส.แพทองธาร มีพฤติกรรมไม่ใว้วางใจ ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ขาดวุฒิภาวะขาดเจตจำนงบริหารแผ่นดิน จงใจลอยตัวเหนือปัญหา เพียงเพราะเห็นผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัว น.ส.แพทองธาร เอาเปรียบ เป็นนั่งร้านต่างตอบแทนบุคคลที่เป็นปรปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย และ สมัครใจยินยอมให้คนในครอบครัวครอบงำ ประพฤติตัวเป็นหุ่นเชิด โดยมีคนในครอบครัวเป็นนายกฯตัวจริง
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ดีลแลกประเทศที่พวกตนกล่าวถึงนั้นไม่ใช่แค่เฉพาะพานายทักษิณ กลับบ้าน แต่การเริ่มต้นรัฐบาลแพทองธาร
ทางด้านการเมือง ดูเพินๆ เหมือนประเทศไทยได้หวนคืนระบอบประชาธิปไตยแบบเต็มใบเสียทีได้ออกจากยุครัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ แต่เมื่อดูลงเข้าไปเนื้อในรายละเอียด กลับไม่เป็นอย่างนั้น รัฐบบาลเพื่อไทยทำให้ความเป็นประชาธิปไตยของประเทศทดถอยลง ดัชนีชี้วัดความเป็นประชาธิปไตยตกลงจากปี 2566 จากเดิมได้ที่ 6.35 คะแนน เหลือเพียง 6.27 คะแนน ในปี 2567 ถูกจัดให้อยู่ในประเทศที่มีประชาธิปไตยบกพร่อง มิหนำซ้ำถูกนานาประเทศในกลุ่มโลกเสีรีรุมประนาม กรณีส่งตัวชาวอุยกูร์ จึงทำให้ประชาธิปไตยของประเทศเสื่อมถอยลง ภายใต้เปลือกของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ด้านเศรษฐกิจที่ดูเพินๆเหมือนจะเก่งทางเศรษฐกิจ แต่เมื่อดูแล้วก็ไม่เหมือนที่คุยกันไว้ พายุหมุนทางเศรษฐกิจไม่เคยเกิดขึ้น จากที่เคยคุยไว้ว่าจะได้ 5 % แต่กลับได้แค่ 2.5 % ได้แค่ครึ่งเดียวของคำโฆษณา แต่ทิ้งไว้ด้วยราคาที่สังคมไทยต้องจ่ายอย่างสูง
ในแง่การบริการประเทศ การได้นายทักษิณกลับมาอีกครั้ง ดูเพินๆ เหมือนประเทศไทยจะได้ผู้นำแพ็คคู่ คนหนึ่งดูดีมีประสบการณ์เดินสายทำงานนอกทำเนียบ โชว์วิชันใหม่ได้ทุกเวที ส่วนอีกคนเป็นคนรุ่นใหม่ทำงานในทำเนียบพร้อมประสานการทำงานกับคนรุ่นเก่า แต่ในความเป็นจริงเรากำลังได้ผู้นำนอกระบบที่ทำงานนอกทำเนียบ เป็นคนชี้นำ เป็นคนให้ข้อมูลนโยบายนำหน้ารัฐบาลโดยปราศจาคความรับผิดชอบใดๆ เพราะไม่ต้องถูกถ่วงดุลย์ตรวจสอบ
ขณะเดียวกันเคยบอกจะให้ค่าไฟ 3.50 บาท แต่ก็ไม่เคยเกิดอะไรขึ้น ผ่านมา 2 เดือนบอกว่าจะลดค่าไฟเหลือ 2.5 บาท แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกลายเป็นคนนอกระบบพูดไปเรื่อยไม่ต้องรับผิดชอบ แต่คนที่นั่งอยู่ในสภาแทนที่จะเป็นพลังของคนรุ่นใหม่ แต่กลับขาดวุฒิภาวะ ขาดเจตจำนงทางการเมือง ขาดความรู้ความสามารถ
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตราบใดที่น.ส.แพทองธาร ดำรงตำแหน่งต่อไปประเทศจะต้องแลกมาด้วยอะไรอีกบ้าง เช่น เรื่องค่าไฟฟ้า ที่ประชาชน 21 ล้านครัวเรือนที่ต้องจ่ายค่าไปแสนแพง นี่คือปัญหาที่ประชาชนรอการแก้ไข แต่กลับเราได้เห็นภาพนายกฯตัว จริงออกไปตีกอล์ฟกับกลุ่มทุนพลังงาน เพื่อดีลพลังงานไฟฟ้าหลายแสนล้านบาท สูบเงินชาวนาไปเข้ากระเป๋าเจ้าสัว คือสิ่งเราได้จากดีลแลกประเทศ
เรื่องการปฏิรูปกองทัพ ประชาชนหมดหวังกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะผลงาน 6 เดือนที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพ.ร.บ.ระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่มุ่งหวังให้กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน รัฐบาลเพ่าอไทยก็ถอยไม่เป็นท่า
ต่อมาเรื่องความยุติธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่หลายคนยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ในคดีตากใบ แต่นายกรัฐมนตรีจงใจปล่อยปละละเลยไม่เร่งรัดติดตามจำเลยที่หลบหนีไปต่างประเทศ มาดำเนินคดีเพื่อคืนความยุติธรรม ในขณะที่นายกฯตัวจริงนอกระบบกลับได้รับสิทธิอยู่ในชั้น 14 เหนือกฎเกณฑ์ใดๆ เหนือระบบยุติธรรมในประเทศนี้ที่บุตรสาวรับรู้มาโดยตลอด นี่คือสิ่งที่เราได้จากดีลแลกประเทศ
เรื่อง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็ได้ประโยชน์แค่กลุ่มทุนที่ใกล้ชิดรัฐบาล นี่คือโอกาสที่คนไทยต้องสูญเสียไป จากการที่รัฐบาลคิดไปทำไปผ่านคะแนนซื้อเสียงไปวัน ๆ
จากทั้งหมดที่หยิลยกขึ้นมานี้ ดีลแลกประเทศในครั้งนี้มีเพียงคนไม่ถึง 1% ที่ได้รับผลประโยชน์ แม้จะต้องทำลายระบบนิติรัฐ นิติธรรม และ ระบอบประชาธิปไตย ไปจนถึงประเทศไทยถูกแช่แข็ง เศรษฐกิจล้าหลัง ทิ้งซากปรักหักพังให้กับคน 99 % จึงไม่ไว้วางใจให้น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯต่อ (เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568)