SHORT CUT
กรมสอบสวนคดีพิเศษเปิดเอกสารโพยฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ 2 ชุด พบล็อกเบอร์ให้เลือก 140 รายชื่อจาก 20 กลุ่ม ได้เป็น สว. 138 คนและสำรอง 2 คน
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งรับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษและส่งหลักฐานสำเนาเอกสายโพยฮั้ว สว. ระดับประเทศจำนวน 2 ชุด โดยพบว่า ผู้ที่ดำรงตำแหน่งวุฒิสภา จำนวน 138 คน และเป็นสำรอง 2 คน มีมูลเป็นการทุจริตในการเลือก หรือ รู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น อันทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริต หรือเที่ยงธรรม
มีรายชื่อตามโพยฮั้วที่มีเบอร์ให้เลือก ดังนี้
กลุ่ม 1 ให้เลือกเบอร์ 7 พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์, 111 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี, 84 นายมงคล สุระสัจจะ, 49 นายธวัช สุระบาล, 45 นายวร หินดี, 126 พล.อ.ทัศนา สวัสดิ์, 148 นายอภิชาติ งามกมล
กลุ่ม 2 ให้เลือกเบอร์ 20 พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร, 55 พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย, 110 นายเศก จุลเกษร, 124 นายสืบศักดิ์ แววแก้ว, 136 พ.ต.ท.สุริยา บาราสัน, 129 พล.ต.ต.สุนทร ขวัญเพ็ชร, 18 นายฉลอง ทองนะ
กลุ่ม 3 ให้เลือกเบอร์ 123 นายสามารถ รังสรรค์, 133 นายสุเทพ สังข์วิเศษ, 112 นายสมทบ ถีระพันธ์, 104 นายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว, 51 นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด, 150 นายอัษฎางค์ แสวงการ, 140 นายโสภณ ผาสุข
กลุ่ม 4 ให้เลือกเบอร์ 66 นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล, 47 นางนงลักษณ์ ก้านเขียว, 127 นายสมบูรณ์ หนูนวล, 59 นายบุญชอบ สระสมทรัพย์, 84 นางเพลินจิต ขันแก้ว, 100 นายฤชุ แก้วลาย, 106 นายวันชัย แข็งการเขตร
กลุ่ม 5 ให้เลือกเบอร์ 111 นายสมชาย นุมพูล, 145 น.ส.อมร ศรีบุญนาค, 65 นางปวีณา สาระรัมย์, 125 นายสาลี สิงห์คำ, 108 นายสงบ สุขสำราญ (สำรอง), 118 สมศักดิ์ จันทร์แก้ว, 76 นายพิมาย คงทัน
กลุ่ม 6 ให้เลือกเบอร์ 79 นายยะโก๊ป หีมละ , 77 น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน, 46 นายนิสิทธิ์ ปนกลิ่น, 33 นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว, 152 นายอิสระ บุญสองชั้น, 93 นายวิรัตน์ ธรรมบำรุง, 16 จรุณ กลิ่นตลบ, 91 นายวิถี สุพิทักษ์ (สำรอง)
กลุ่ม 7 ให้เลือกเบอร์ 23 นายชินโชติ แสงสังข์, 9 น.ส.เข็มรัตน์ สุรเมธีมาณพ, 98 น.ส.วิภาพร ทองโสด, 56 นายประกาสิทธิ์ พลซา, 10 นายจตุพรเรียงเงิน, 116 นางสมพร วรรณชาติ, 20 นายชวภณ วัธนเวคิน
กลุ่ม 8 ให้เลือกเบอร์ 10 นายจิระศักดิ ชูความดี, 17 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม, 121 นายสัมพันธ์ ชัยวิเศษจินดา ,83 นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ,47 นายนิรัตน์ อยู่ภักดี ,143 นายอภิชา เศรษฐวราธร ,102 นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์
กลุ่ม 9 ให้เลือกเบอร์ 56 นายนิพนธ์ เอกวานิช, 104 นางวรรษมนต์ คุณแสน, 81 นายพิชาญ พรศิริประทาน, 131 นางสุมิตรา จารุกําเนิดกนก, 121 นาง สมศรี อุรามา, 60 นางเบ็ญจมาศ อภัยทอง, 26 นายชยธช เพราะสุนทร
กลุ่ม 10 ให้เลือกเบอร์ 123 นายโสภณ มะโนมะยา, 80 นายรุจิภาส มีกุศล, 95 พ.ต.ท.สง่า ส่งมหาชัย, 24 นางแดง กองมา, 99 นายสมพาน พละศักดิ์, 109 นายสุนทร เชาว์กิจค้า, 40 นาย นิทัศน์ อารีย์วงศ์สกุล
กลุ่ม 11 ให้เลือกเบอร์ 104 นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร, 10 นายกัมพล สภาแพ่ง ,75 นายพิสูจน์ รัตนวงศ์, 81 น.ส.ภาวนา ว่องอมรนิธิ, 141 นายอัครวินท์ ขําชุด, 130 นายสุวิทย์ ขาวดี, 76 นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์
กลุ่ม 12 ให้เลือกเบอร์ 65 นางรจนา เพิ่มพูล, 52 นายพละวัต ตันศิริ, 47 น.ส.ปุณณภา จินดาพงษ์, 32 นางธารนี ปรีดาสันติ์, 73 นางวราภัสร์ ไพพรรณรัตน์, 19 นายณรงค์ จิตราช, 27 นายธนชัย แซ่จึง
กลุ่ม 13 ให้เลือกเบอร์ 65 นายทองศรี พรเพิ่ม, 111 นายสรชาติ สุวรรณพรหม, 36 นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์, 123 นายสุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา, 39 นายนพดล พริ้งสกุล, 1 นายกัมพล ทองชิว, 9 นายขวัญชัย แสนหิรัณย์
กลุ่ม 14 ให้เลือกเบอร์ 140 นางอจลา ณ ระนอง, 85 นางมยุรี โพธิแสน, 17 น.ส.จารุณี ฤกษ์ปราณี, 148 น.ส.อัจฉรพรรณ หอมรส, 24 นางเจียระนัย ตั้งกีรติ, 21 นางจุฑารัตน์ นิลเปรม และหมายเลข 128
กลุ่ม 15 ให้เลือกเบอร์ 50 นายนิเวศ พันธ์เจริญวรกุล, 3 นายกฤษณุ เหลืองพิบูลกิจ, 58 นาย ประเทือง มนตรี, 6 นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ, 35 นายธนภัทร ตวงวิไล, 116 นายสมดุลย์ บุญไชย, 123 นายสมหมาย ศรีจันทร์
กลุ่ม 16 ให้เลือกเบอร์ 143 นายสุวิช จำปานนท์, 112 นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล, 79 นายพิบูลย์อัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ, 59 นายนฤพล สุคนธชาติ, 109 นายวิเชียร ชัยสถาพร, 69 นายปราณีต เกรัมย์, 148 นายอะมัด อายุเคน
กลุ่ม 17 ให้เลือกเบอร์ 56 นายนิรุตติ สุทธินนท์, 83 นายภาณุพงษ์ เต็งวงษ์วัฒนะ, 130 นายสากล ภูลศิริกุล, 23 นายชาญชัย ไชยพิศ, 117 นายศาลากิจ ศุภโชค, 71 นางประไม หอมเทียม, 132 น.ส.สายฝน กองแก้ว
กลุ่ม 18 ให้เลือกเบอร์ 127 นายสุทนต์ กล้าการขาย, 18 น.ส.คอดียะฮ์ ทรงงาม, 111 นายศุภชัย กิตติภูติกุล, 129 นายสุพรรณ์ ศรชัย, 144 นางอารีย์ บรรจงธุระการ, 37 นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล, 22 นายจำลอง อนันตสุข
กลุ่ม 19 ให้เลือกเบอร์ 3 น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย, 5 นายขจรศักดิ์ ศรีวิราช, 122 นายสิทธิกร ธงยศ, 22 นายโชคชัย กิตติธเนศวร, 2 นายกิติศักดิ์ หมื่นศรี, 152 นายเอนก วีระพจนานันท์, 108 นายสมชาย เล่งหลัก
กลุ่ม 20 ให้เลือกเบอร์ 4, 106 นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์, 144 นายอลงกต วรกี, 85 นายภมร เชาว์ศิริกุล, 91 พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี, 31 นายณัฐกิตติ์ หนูรอด, 4 พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ, 100 นางวลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์
ในการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2568 กกต. มีมติแต่งตั้งข้าราชการจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 42 พ.ร.ป. กกต. เพื่อเดินหน้าคดีฮั้ว สว.
ขณะเดียวกัน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน 7 คน มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับความปรากฏว่า มีการ “ฮั้ว สว.” ระดับประเทศ ประกอบด้วย
1. ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. เป็นประธาน
2. พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจน์นิรันด์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ
3. นางสุทธดา คงเดชา ผอ.สำนักสืบสวน สอบสวน 1 (กกต.)
4. นายชาญชัย สมาคม ผอ.สำนักสืบสวน สอบสวน 2 (กกต.)
5. นายระวี อักษรศิริ ผอ.กองคดีการฟอกเงินทางอาญา (ดีเอสไอ)
6. นายเอกรินทร์ ดอนดง ผอ.ส่วนวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์พิเศษ คดีเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ (ดีเอสไอ)
และ 7.นายประเคียง เพียรดี ผอ.ฝ่ายสืบสวน สอบสวน 5 (กกต.)
อย่างไรก็ตาม ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ข้อบังคับของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ว่าด้วยแนวทางการสอบสวนบุคคลที่เป็นพยานสำคัญในคดีพิเศษ พ.ศ. 2568 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 โดยมีเนื้อหาสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการกันบุคคลที่รู้เห็นการกระทำผิดในคดีพิเศษเป็นพยาน ได้แก่
1. หลักเกณฑ์ในการกันพยาน
• ต้องเป็นบุคคลที่มีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคดีพิเศษ
• การให้ความร่วมมือของพยานต้องมีประโยชน์ต่อการดำเนินคดี
• การพิจารณาว่าจะกันบุคคลเป็นพยานขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
2. การคุ้มครองพยาน
• หากบุคคลที่ได้รับการกันเป็นพยานมีความเสี่ยงต่อชีวิตและความปลอดภัย อาจได้รับมาตรการคุ้มครอง
• มีมาตรการปกปิดข้อมูลพยานเพื่อป้องกันการข่มขู่หรืออันตราย
3. สิทธิและหน้าที่ของพยาน
• พยานมีหน้าที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นความจริง
• พยานอาจได้รับการลดหย่อนโทษหรือได้รับการยกเว้นโทษในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคดี
4. กระบวนการสอบสวนและบันทึกคำให้การ
• การสอบสวนพยานต้องเป็นไปตามกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย
• มีการบันทึกคำให้การอย่างเป็นทางการเพื่อใช้เป็นหลักฐานในคดี
5. ผลกระทบทางกฎหมาย
• หากพยานให้การเท็จ อาจมีโทษตามกฎหมายอาญา
• การกันพยานไม่เป็นเหตุให้พยานพ้นจากความผิดโดยอัตโนมัติ ต้องพิจารณาเป็นรายกรณี
นั่นหมายความว่าหาก สว. หรือ สว. ตัวสำรองที่ผันตัวมาเป็นพยานในคดีนี้ อาจได้รับการคุ้มครองและยกเว้นโทษ หรืออีกความหมายหนึ่งคือ อาจจะไม่ต้องโดยสอยออกจากตำแหน่ง สว. หากย้ายข้างมาเป็นพยานให้กับ DSI
ในเอกสารที่ DSI ได้แจ้งต่อ กกต. ระบุว่านอกจากพฤติการณ์ของการกระทำความผิดฐานอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 แล้ว ยังมีมูลน่าเชื่อว่า เป็นการทุจริตในการเลือกตั้งหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่นอันทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม และเป็นหน้าที่และอำนาจของ กกต. ดำเนินการสืบสวนเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานทั้งคดีอาญา หรือการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกสิทธิเลือกตั้ง ตามนัยมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561
ส่วนการดำเนินคดีพิเศษฐานฟอกเงินที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเป็นการกระทำกรรมเดียวที่ผิดกฎหมายหลายบทและเกี่ยวข้องกับความผิดหลายกรณี รวมถึงฐานอั้งยี่ (มาตรา 209) และความผิดอื่นตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
กรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งถึงประธาน กกต. ว่า ไม่จำเป็นต้องมีการดำเนินคดีหรือคำพิพากษาในความผิดมูลฐานก่อนจึงจะดำเนินคดีฐานฟอกเงินได้ ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2566 และ 2965/2563 DSI ยืนยันว่าการดำเนินคดีฟอกเงินสามารถแยกต่างหากจากความผิดมูลฐานได้