ภูมิธรรม” โต้ จัดฉาก เยี่ยม 40 อุยกูร์ ปลอดภัย ร้ำไห้ดีใจได้กลับบ้าน ลั่นอย่าด้อยค่าความจริง ทำยันโปร่งใส หากกังขาหาล่ามมาแปลได้
วันนี้ (20 มี.ค. 2568) ที่ประเทศจีน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวสรุปภาพรวมวันแรกของการเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจีน ว่า วานนี้จากการลงพื้นที่ เห็นได้ว่าแต่ละจุดเดินทางลำบาก อยู่ในพื้นที่ห่างไกล แยกไป 3 เมืองใหญ่ของคานซือ ซึ่งอยู่ในมณฑลซินเจียง ห่างกัน 400-500 กิโลเมตร ถือว่าได้ข้อมูลพอสมควร สำหรับวันนี้จะไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ใช้เวลาเดินทางไปกลับ 5-6 ชั่วโมง
นายภูมิธรรม ชี้แจงกรณีความจำเป็นต้องให้สื่อนำเสนอข่าวด้วยการเบลอหน้าชาวอุยกูร์ เหตุเขาขอความร่วมมือมา เพราะบางคนไม่สบายใจ เนื่องจากกลับมาแล้วก็ได้ชีวิตใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นอยากอยู่อย่างสงบ ไม่อยากเป็นบุคคลที่ถูกจับตามองจากสาธารณะ
อีกทั้งบางคนเคยถูกชักจูงจากกลุ่มมุสลิมที่ต้องการเปลี่ยนแปลง เขาก็กลัวว่าถ้ากลับมาแล้ว ก็ไม่อยากไปแตะหรือเกี่ยวข้องอีก จึงยินดีให้เราสัมภาษณ์ แต่ขอให้เขาได้ใช้ชีวิตส่วนตัว ซึ่งถือเป็นหลักสิทธิมนุษยชน และสิทธิส่วนตัว ที่พวกเขาสามารถทำได้ ซึ่งสื่อที่มาทำข่าวได้เห็นหน้าจริงๆ ได้เปรียบเทียบว่าเป็นคนที่อยู่ในเครือข่ายและมีชื่อถูกส่งมาจริงหรือไม่
ไม่ควรหยิบมาเป็นประเด็น ด้อยค่าความเป็นจริง เราต้องอยู่กับความเป็นจริง เราเชิญสื่อมวลชนที่มียอดคนดูคนติดตามจำนวนมากเพราะต้องการให้เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ของคนในประเทศ ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ซี่งทุกคนที่มาได้เห็นความจริง และได้เจอความเป็นจริงทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นลงจากรถก็ได้พบพร้อมๆ กัน
ที่สำคัญคือเขาต้องสมัครใจ เราไม่มีสิทธิละเมิดสิทธิ์เขา เรามาไม่ใช่มาเยี่ยมผู้ต้องหา แต่เรามาเยี่ยมเยียนถามสารทุกข์สุกดิบ ถ้าพูดกันตามหลักเรื่องนี้ จบตั้งแต่เขาขึ้นเครื่องบินของประเทศจีนกลับแล้ว ซึ่งเป็นอำนาจอธิปไตยของประเทศเขา ภารกิจของไทยจบแล้ว แต่เราไม่ได้มีภารกิจเพื่อทำแค่นี้ เพราะยังคงมีความกังวลใจต่างๆ ตั้งแต่เราเริ่มต้นตัดสินใจ ซึ่งก็ยากลำบากเพราะเกี่ยวพันกับหลายส่วน และมีมุมมองที่แตกต่างกัน
แต่เราเลือกทางที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุด และทราบว่ายังมีคนห่วงใย เราจึงพยายามเชิญสื่อทุกส่วนมาเห็นจริงๆ ก็ถือว่าจีนอำนวยความสะดวกได้อย่างมาก
นายภูมิธรรม ย้ำว่าเราเปิดกว้าง หากใครคิดว่ามีการจัดฉาก ก็ไปหาล่ามมานั่งดูได้ หรือถ้าคิดว่าจะเอาเรื่องนี้เป็นประเด็นหลัก ก็พิสูจน์ได้ทั้งหมด เพราะเราทำครั้งนี้เราโปร่งใสหมด
สำหรับผลลัพธ์จากการพูดคุย ยิ่งตอกย้ำหรือไม่ว่าเป็นการตัดสินใจถูกต้อง ในการส่งตัวกลับมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดิมตนคิดว่า ได้ตัดสินใจกับคณะที่เกี่ยวข้อง เราพยายามทำดีที่สุดแล้ว ถ้าพูดตามตรงเราไม่อาจรับประกันใครได้ 100% เพราะไม่ใช่ตัวเรา แต่เรามั่นใจในจีน ถือว่าสิ่งที่เขาให้คำมั่นกับเราตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี หรือผู้นำระดับสูงของเขา ก็ให้คำมั่นกับนายกรัฐมนตรีไทย ว่าไม่ต้องห่วง เขาจะดูแลอย่างดี นี่คือผู้นำระดับโลก ก็ควรรับฟังได้ และเราไม่ได้ปล่อยผ่านในรายละเอียด
ขอให้เขาออกแถลงข่าวยืนยัน ซึ่งเขาก็ออกหนังสือสำคัญทางการทูตที่ทั่วโลกรับรองมาว่า เขาจะมารับและดูแลสุขภาพคนเหล่านี้ และก็หางานให้ทำ แต่ก็ยังมีคนตั้งคำถามอีก เราจึงให้คนตามไปทั้ง สมช. และทูตไทย และครั้งนี้ตนก็เดินทางมาเอง ในระดับรองนายกรัฐมนตรี และยังมีรัฐมนตรียุติธรรม พร้อมกับสื่อมวลชนอย่างอิสระ
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ตนก็ได้ขอโทษบางคนด้วยใจจริง เพราะเรารู้สึกว่าเขามีโทษหลบหนีเข้าเมืองแค่ไม่เกิน 2 ปี หรือบางคนก็ 3 เดือน แต่นี่มันหนัก เราจึงรู้สึกและขอโทษที่ทำให้ต้องอยู่ในประเทศของเรา 10 กว่าปี และดีใจแทนที่เขาได้กลับบ้าน ซึ่งตนเห็นแล้วก็สบายใจ เชื่อว่าสิ่งที่ตนและทีมไทยที่จัดการทั้งหมด ก็ฝากประชาชนเป็นคนตัดสินจากความเป็นจริงที่เรานำเสนอโดยสื่อของไทยทุกสื่อ
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่าการเยี่ยมครั้งต่อไปจะใช้ระบบซูม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราต้องเคารพอธิปไตยของจีน เราบอกและเสนอเขาได้ ถ้าเขาอนุมัติก็โอเค แต่ต้องยอมรับว่าคนที่จะมาออกสื่อ ก็อึดอัดใจเหมือนกัน เพราะเขาผ่านอะไรร้ายๆ มาแล้ว ก็อยากใช้ชีวิตปกติกับครอบครัว บางทีการที่เราเอาเขามาออกสู่สาธารณะ แล้วซักถามเหมือนเขาเป็นนักโทษ เราก็คงต้องคิดในแง่ของมนุษยธรรมด้วย เพราะเขาก็เป็นคนเหมือนกัน เขาควรตัดสินใจ ไม่ใช่ให้คนอื่นตัดสินใจหรือกำหนดอนาคตให้ เจาต้องมาตอบคำถามอย่างกับเป็นจำเลยของสังคม มันไม่ใช่
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง