"ภูมิธรรม" เยี่ยมชาวอุยกูร์ถึงบ้าน ขอโทษที่กักตัวนาน 10 ปี ลั่นรัฐบาลตัดสินใจถูกคืนสู่ครอบครัว ยันไม่เคยเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ-ไม่มีประเทศที่ 3 ขอรับตัว
หนึ่งในชาวอุยกูร์ที่ได้รับการส่งกลับเผยว่า ตนเดินทางกลับมาได้กว่า 20 วันแล้ว และรู้สึกดีที่ได้กลับบ้าน หลังจากต้องจากไปนานกว่า 10 ปี บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะรัฐบาลจีนที่ได้สร้างที่อยู่อาศัยใหม่ให้แทนพื้นที่เดิมที่เคยเกิดแผ่นดินไหว
นายภูมิธรรม สอบถามว่า ทำไมถึงตัดสินใจเดินทางไปประเทศไทย ได้รับคำตอบว่า มีผู้ชักชวนมาบอกว่า ถ้าเดินทางไปต่างประเทศแล้วชีวิตจะดีกว่าอยู่ที่นี่ แต่พอไปแล้วรู้สึกเสียใจ เพราะแท้จริงแล้วความสุขอยู่ที่บ้าน
และก่อนกลับมา ก็รู้สึกกังวลกลัวว่าจะถูกคุมตัว แต่เมื่อกลับมาแล้วปลอดภัย จึงขอชื่นชมรัฐบาล เมื่อกลับมาที่หมู่บ้าน ก็ไม่มีใครดูถูก รับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ขณะนี้ได้มาทำหน้าที่พ่อครัวในร้านอาหารของน้องสาว เพราะก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นพ่อครัวมาก่อน ส่วนลูกเมียอาศัยอยู่ต่างเมือง
พร้อมกันนี้ ยังได้โชว์บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ที่ได้รับจากเขตปกครองตนเองซินเจียงกอุยกูร์ และจะได้รับเงินชดเชยเงินเดือนในช่วงที่ผ่านมาด้วย และ ทำให้รู้สึกว่าการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง รัฐบาลตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว ที่ส่งคืนชาวอุยกูร์ กลับสู่ครอบครัวอย่างมีความสุข
นายภูมิธรรมกล่าวแสดงความยินดีที่ชาวอุยกูร์ได้กลับบ้าน พร้อมขอโทษที่ต้องถูกกักตัวนานถึง 11 ปี โดยชี้แจงว่าเป็นเพราะไม่มีประเทศใดทำหนังสือขอรับตัวไป เขายืนยันว่าไทยต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และแม้จะมีเสียงคัดค้านจากบางฝ่ายในไทยและต่างประเทศ แต่รัฐบาลจีนได้ให้คำมั่นว่าพลเมืองของตนจะได้รับความปลอดภัย ซึ่งทำให้ไทยมั่นใจในการตัดสินใจครั้งนี้
จากนั้น นายภูมิธรรมเดินทางไปเยี่ยมชาวอุยกูร์อีกครอบครัวหนึ่ง ซึ่งให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เจ้าของบ้านเผยว่า เมื่อ 10 ปีก่อน ตนถูกกลุ่มหัวรุนแรงชักชวนให้ออกนอกประเทศ แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าถูกหลอก และถูกข่มขู่ไม่ให้เดินทางกลับจีนเพราะอาจถูกดำเนินคดีหรือถึงขั้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เมื่อได้กลับมาแล้วกลับพบว่าสิ่งที่เคยถูกขู่ไม่เป็นความจริง ตนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติและมีความสุขดี
ในช่วงหนึ่งของการสนทนา นายภูมิธรรมสอบถามถึงจดหมาย 3 ฉบับที่เป็นข่าวว่ามีชาวอุยกูร์ร้องขอไม่ให้ถูกส่งกลับจีน ชายคนดังกล่าวปฏิเสธว่าไม่เคยเขียนจดหมายเหล่านั้น มีเพียงความหวังว่าจะได้กลับบ้านโดยเร็ว นอกจากนี้ เขายังยืนยันว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไม่มีประเทศที่สามหรือองค์กรใดเข้ามาช่วยเหลือหรือยื่นเรื่องขอรับตัว มีเพียงทางการจีนที่แสดงความพร้อมรับตัวกลับ
นายภูมิธรรม ยังได้สอบถามถึงความกังวลของบางฝ่ายที่เกรงว่าชาวอุยกูร์อาจถูกทรมานหรือไม่ได้รับความปลอดภัยหลังถูกส่งกลับ ชาวอุยกูร์รายนี้ตอบว่า ก่อนหน้านี้ตนเองก็มีความกลัวเช่นกัน แต่เมื่อกลับมาแล้วก็พบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ในช่วงท้าย นายภูมิธรรม เปิดโอกาสให้ญาติของชายชาวอุยกูร์ กล่าวกับคนไทย โดยน้องสาวขอบคุณที่ส่งตัวพี่ชายคืนสู่ครอบครัว รู้สึกดีใจเหมือนกับตัวเองเป็นนางฟ้าได้รับการติดปีก
ทั้งนี้ ตลอดการเยี่ยมเยียน ทั้ง 2 ครอบครัวมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาเพราะไม่คิดว่า จะได้เจอกันอีก เพราะคิดว่าคงต้องตายอยู่ที่เมืองไทย