หลังจากที่ ครม. เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งกาสิโนในประเทศไทยแบบถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตามก็มีความเห็นจากหลายภาคส่วนให้หลากหลายมุมมอง SPRiNG จะประมวลความเห็นที่สำคัญ ดังนี้
หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งกาสิโนในประเทศไทยแบบถูกกฎหมาย
โดยหลังจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งไปกฤษฎีกาเพื่อปรับให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายและนโยบายของรัฐบาล ก่อนกลับเข้าสู่ ครม. เพื่อให้ความเห็นชอบอีกครั้ง และส่งไปยังสภาเพื่อพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตามก็มีความเห็นจากหลายภาคส่วนให้หลากหลายมุมมอง SPRiNG จะประมวลความเห็นที่สำคัญ ดังนี้
1. พรรคประชาชน ‘กาสิโน’ ต้องไม่ซ้ำปัญหาเดิม เติมปัญหาใหม่
“พรรคประชาชนมองว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อตอบข้อกังวลของประชาชนว่าการนำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน จะสร้างรายได้ใหม่เข้าประเทศโดยไม่ทิ้งผลกระทบระยะยาวไว้กับสังคม”
เฟซบุ๊คพรรคประชาชนยังระบุด้วยว่า เห็นได้ชัดว่าร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาล ยังมีช่องโหว่ที่อาจยิ่งซ้ำเติมปัญหาเดิมและเพิ่มปัญหาใหม่ โดยเฉพาะปัญหาทุนสีเทาที่สร้างความเดือดร้อนแก่คนจำนวนมากในเวลานี้ ทั้งประเด็นการกำหนดสถานที่ตั้ง ความโปร่งใสของการให้สัมปทาน และมาตรการป้องกันการพนัน
พรรคประชาชนมีข้อเสนอให้รัฐบาลนำไปทบทวนปรับปรุง ด้วยหวังว่าถ้ากาสิโนถูกกฎหมายต้องเกิดขึ้นในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะเกิดขึ้นโดยรัฐบาลได้พิจารณาทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและผลกระทบต่อสังคม ไม่ใช่มองเพียงด้านใดด้านหนึ่ง และเมกะโปรเจกต์นี้ที่รัฐบาลหมายมั่นปั้นมือ จะสร้างประโยชน์แก่ประชาชนคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนเพียงหยิบมือเดียว
ขณะที่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า สิ่งที่เรากังวลใจคือผลกระทบที่เกิดขึ้นทางสังคม และสิ่งที่รัฐบาลอาจจะยังไม่ได้ให้ความชัดเจนมากคือถึงแม้บ่อนการพนันจะมีแค่ 10% จากโครงการทั้งหมด แต่สิ่งที่เรากังวลคือผลกระทบที่ตามมา
ข้อเสนอของเราตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกลคือต้องมีการตรวจสอบเรื่องฐานรายได้ ต้องอยู่ในระบบภาษีเงินได้ เรายังไม่เห็นว่ารัฐบาลมีมาตรการป้องกันอะไร โดยยกตัวอย่าง เรื่องการจัดตั้งกองทุนเพื่อมาเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นในสังคม ก็ยังไม่เห็นความชัดเจนในส่วนนี้มากน้อยขนาดไหน อีกข้อกังวลหนึ่งก็คือเรื่องทุนจีนสีเทาที่นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรค ได้เปิดประเด็นไปเมื่อวานนี้
2. ภูมิใจไทยไม่เอาด้วย
ย้อนกลับไปวันที่ 3 สิงหาคม 2567 นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวในเวลานั้นว่า หลังพรรคเพื่อไทยได้ส่งร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ..... มาให้พิจารณา ในเบื้องต้นจากการพิจารณาไม่เห็นด้วยในสาระสำคัญ 4 ประเด็นคือ
1. ร่าง พ.ร.บ.นี้ ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องการพนันผิดกฎหมาย อาจจะทําให้มีทั้งการพนันบนดิน และใต้ดิน ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาต่อไปได้
2. เรื่องผลประโยชน์ต่อรัฐ และต่อประชาชน ที่ยังไม่ชัดเจน และยังไม่มากพอสําหรับการที่จะลงทุนทําเรื่องนี้
3. เรื่องผลกระทบในเชิงของการขับเคลื่อน และกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าการทํากาสิโนจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทย เนื่องจากเรามีหลายอย่างที่เป็นสิ่งที่ดีกว่า และเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ แต่การพนันก็ไม่ใช่หนึ่งในนั้น
4. ใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ เบื้องต้นไม่เห็นมาตราไหนที่ระบุในเรื่องของการช่วยเหลือหรือดูแลแรงงานไทยในการจ้างงาน ทั้งเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็คงมีการแสดงความคิดเห็นเช่นเดียวกัน ซึ่งต้องรอดูว่ารัฐบาลจะนำประเด็นเหล่านี้ไปพิจารณาอย่างไร
แม้ว่าท่าที่ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะกล่าวเพียงว่า กระทรวงมหาดไทย ทำความเห็นเข้าไปแล้ว โดยหลักการเราไม่มีปัญหา แต่ให้ดูเรื่องข้อกฎหมายต่างๆว่าจะบริหารจัดการอย่างไร
3. พรรคไทยสร้างไทย คัดค้านโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
พรรคไทยสร้างไทยออกแถลงการณ์คัดค้านโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์โดยยก 3 เหตุผลคือ ดังนี้
-เมื่อดูปรากฏการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านที่มีโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา พม่า หรือลาวล้วนเป็นสถานที่ ที่เป็น Hub ของอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นทั้งสถานที่ฟอกเงินของเงินทุนสีเทา ค้ายาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันโดยเฉพาะสถานกาสิโน
-โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ส่อถึงการชี้นำ ของนายทักษิณ ชินวัตร และอาจก่อให้เกิดทุจริตเชิงนโยบายในการดำเนินการต่อไปกล่าวคือ
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 นายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปออกรายการดินเนอร์ ทอล์ค ในหัวข้อ Vision for thailand 2024 ซึ่ง1ใน14 Vision คือโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ กำหนดงบประมาณลงทุนแห่งละ 1 แสนล้านบาท ในกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัด 50,000 ล้านบาท โดยไม่เคยมีอยู่ใน นโยบายหาเสียงมาก่อน
ทั้งนี้ก่อนหน้านั้นในระหว่างวันที่ 29 เมษายนถึง 2 พฤษภาคม 2567 สื่อมวลชนรายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อมาดูโครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ต่อมานางสาวแพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 โดยข้อที่ 7 ระบุว่ารัฐบาลจะส่งเสริมโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งสอดรับกับ Vision ของนายทักษิณ ชินวัตรและการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็รายงานข่าวว่ามีการแบ่งเค้กใบอนุญาตสัมปทานโครงการจำนวน 6 ใบอนุญาต จึงน่าเป็นห่วงว่าจะมีการทุจริตเชิงนโยบายหรือไม่ พร้อมมีรายงานข่าวออกมาว่าทุนใหญ่ต่างชาติและทุนใหญ่ในประเทศ จับมือได้รับการแบ่งเค้กกันล่วงหน้าแล้ว จึงน่าห่วงว่าจะเป็นนโยบายที่เอื้อนายทุนโดยประชาชนเป็นผู้รับผลเสีย นอกจากจะแก้พนันผิดกฎหมาย พนันออนไลน์ไม่ได้แล้ว ยังจะส่งเสริมให้มีการเล่นการพนันมากขึ้น อนาคตเยาวชนของชาติตกอยู่ในภาวะอันตราย ทั้งยาเสพติดที่ยังแก้ไม่ได้ และยังจะถูกมอมเมาจาก พนันออนไลน์ ที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับกาสิโนถูกกฎหมาย
-เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 ได้มี 99 นักวิชาการลงชื่อคัดค้านโครงการ โดยออกแถลงการณ์ มีสาระสำคัญหลายประการ แต่สำคัญที่สุดก็คือในทางเศรษฐศาสตร์ ที่ระบุว่าการพนันไม่ถือเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดผลผลิต การส่งเสริมให้มีกาสิโนเท่ากับเป็นการสนับสนุน ให้กลุ่มทุนดูดทรัพย์เงินจากภาคครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยและชนชั้นล่างของสังคม ยิ่งซ้ำเติมปัญหาสังคมที่มีอยู่แล้วให้มากขึ้น
นอกจากนั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสภาพัฒน์ ซึ่งเป็นหน่วยงาน ที่เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล ล้วนห่วงใยให้ข้อสังเกตต่อโครงการนี้หลายประการ ไม่นับภาคประชาสังคมที่ออกมาคัดค้านโครงการนี้จำนวนมาก
“พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดของประเทศ คือ ความมั่นคงในชีวิต"ของคนตัวเล็กทั้งหลาย เราต้องสร้างระบบที่สามารถดูแลประชาชนตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนถึงสูงวัย ต้องให้พวกเขามีความรู้มีสุขภาพดีมีงานทำมีสวัสดิการที่เหมาะสม ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยได้กำหนดปรัชญา แนวทางยุทธศาสตร์และนโยบายหลักรวมถึงวิธีการนำไปสู่การปฏิบัติไว้ในข้อบังคับพรรคตั้งแต่ตั้งพรรคแล้ว
ความต้องการมีกาสิโนโดยซ่อนไว้ใน เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ไม่อยู่ในความคิดของพรรคไทยสร้างไทย เพราะไม่ได้ช่วยคนตัวเล็กเลย แต่เป็นการช่วยงานพรรคพวกในการหาผลประโยชน์ไม่ก่อให้เกิดผลผลิตใดๆที่เป็นประโยชน์โดยตรงต่อคนตัวเล็ก”
ด้าน ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ระบุว่า สิ่งนึงที่ยังไม่เห็นรัฐบาลแถลงในเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย คือการเก็บภาษี GGR (Gross Gaming Revenue)จากผู้ประกอบการกาสิโน ซึ่งภาษีตัวนี้จะเป็นการช่วยให้เกิดสมดุลระหว่างประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากกาสิโนและความรับผิดชอบต่อสังคม
ซึ่งในสิงคโปร์นั้น ภาษี GGR ถือว่าเป็นแหล่งรายได้หลักที่รัฐบาลสิงคโปร์นำไปพัฒนาบริการสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐาน
โดยการเก็บภาษี GGR นั้นใช้ในหลายประเทศทั่วโลกที่กาสิโนถูกกฎหมาย และมีอัตราการเก็บภาษีที่ต่างกัน เช่นในสหรัฐอเมริกา 15% สิงคโปร์ 15% มาเก๊า39%
กลับมาที่ประเทศไทย หากเรามอบใบอนุญาตกาสิโนให้ Service Operator โดยรัฐได้เงินเพียงแค่ 5พันล้านต่อใบอนุญาต และได้ประโยชน์จากแค่การจ้างงาน และยอดนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเพิ่ม บอกเลยว่า “เสียของมาก”
"โดยผมหวังว่าประเทศไทยจะมีการเก็บภาษี GGR ในอัตราไม่น้อยกว่า 15% จากผู้ประกอบการกาสิโนเสมือนประเทศชั้นนำที่มีโมเดลสำเร็จมาแล้ว เพื่อนำเงินบาปเหล่านี้มาทำสาธารณประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนคนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นครับ"
4. ชาติไทยพัฒนาห่วงกลุ่มเปราะบาง
วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาต่อ ร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ว่า จุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาจะสอดคล้องกับจุดยืนของกระทรวง พม. ที่จะเสนอในครม.เช้าวันนี้ ซึ่งมีจุดยืนอีกมากมาย
“แต่ท่ามกลางความเปราะบางของสังคม ในกลุ่มเปราะบางเราก็มีความเป็นห่วงในส่วนของผู้ที่มีนิสัยติดการพนัน หรือแม้แต่การจะใช้แรงงานจากกลุ่มผู้เปราะบาง ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ที่จะทำงานในระบบดังกล่าว โดยกระทรวง พม.ได้เขียนข้อห่วงใยต่างๆ ไว้”
5. สส. พรรคประชาชาติ ไม่เห็นด้วยเพราะขัดหลักการศาสนา
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ระบุจุดยืนของพรรคประชาชาติว่า สำหรับเรื่องนี้รัฐบาลก็ส่วนรัฐบาล เรื่องของกฎหมายต้องเข้าสภา และเป็นดุลยพินิจอิสระของ สส. หรือของพรรคอยู่แล้ว และทางพรรคได้เรียนกับผู้ร่วมรัฐบาลว่า สส. ของพรรคขอไม่เห็นด้วย เพราะว่าเป็นพื้นที่ของพี่น้องมุสลิม และผิดหลักการของหลักศาสนาอิสลาม
อย่างไรก็ตามพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรครวมไทยสร้าชาติ, พรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้แต่พรรคกล้าธรรม ก็ยังไม่แสดงท่าที่อย่างเป็นทางการต่อเรื่องนี้