อัยการเผยเปิด‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ไม่กระทบกับกฎหมายความผิดการพนันเดิม ดำเนินคดีได้เหมือนเดิมหากเล่นนอกสถานที่ที่กฎหมายระบุ นอกจากเเก้กฎหมายนิรโทษ เชื่อไม่มีใครกล้าทำ มีเเต่จะเเก้เพิ่มโทษ
วันนี้ (15 มีนาคม) เเหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุดได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ที่กำหนดกรอบการจัดตั้ง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งกำหนดให้เป็นสถานที่รวมสถานบันเทิงหลายประเภทในพื้นที่เดียวกัน เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สนามกีฬา สวนสนุก ร้านอาหาร ไนต์คลับ พื้นที่ส่งเสริมสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เป็นต้น
โดยทราบว่าร่าง พรบ.ดังกล่าวอยู่ ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นยังไม่ยุติ เเละจะต้องเสนอกฤษฎีกาเเก้ไขอีก ซึ่งก็มีโอกาสที่ร่างดังกล่าวจะถูกเเก้ไขสาระสำคัญได้ ในส่วนความผิดเกี่ยวกับการพนัน เกิดหากสมมุติว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เกิดผ่านเป็นกฎหมายมา จะไม่มีผลเกี่ยวข้องกันกับคดีความผิดฐานเล่นพนันหรือพนันออนไลน์ที่ผ่านมาเเละในปัจจุบัน เพราะถือว่าจบไปเเล้ว ถือเป็นคนละกรณีกัน ไม่ถูกยกเว้นโทษให้
ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เป็นการเปิดให้เล่นตามกฎหมายในเงื่อนไขเเละสถานที่ที่ระบุไว้ การเล่นพนันที่อื่นยังเป็นความผิดซึ่งรวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับการพนันเช่นฟอกเงินด้วย
การที่จะไม่เป็นความผิดทำได้อย่างเดียวคือออกกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไปเเก้กฎหมายมาว่าการเล่นการพนันไม่เป็นความผิด ซึ่งเชื่อว่าคงไม่มีใครกล้าไปเเก้ เเต่ถ้าเเก้กฎหมายเพิ่มโทษก็อีกเรื่องคนอาจจะเชียร์ ว่าถ้าเล่นการพนันโทษจะรุนเเรงขึ้นถ้าอยากเล่นต้องมาเล่น ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
เเต่ในส่วนเรื่องฟอกเงินก็ต้องเเยกไปเพราะเเม้จะมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ก็สามารถมีการฟอกเงินได้ เพราะการฟอกเงินทำได้หมดไม่ใล่เฉพาะการเล่นพนันออนไลน์เท่านั้น ต่อให้สถานที่เล่นการพนันอาจจะถูกกฎหมายเเต่เงินอาจจะผิดก็เป็นได้