‘อองซาน’ ความหวัง สันติของชาวพม่า ส่งต่อถึง ‘อองซาน ซูจี’
‘อองซาน’ ความหวัง สันติของชาวพม่า ส่งต่อถึง ‘อองซาน ซูจี’ จากเอกราชของพม่าสู่วันที่สันติสุขค่อยๆ จางไป แต่หวังในใจยังคงมีอยู่
SHORT CUT
- นายพลอองซาน หรือ โบโชะ อองซาน ถือเป็น บิดาแห่งเอกราชพม่า ท่านเป็นบุคคลสำคัญที่ต่อสู้เพื่อเอกราชของประเทศจากการปกครองของอังกฤษ นายพลอองซานเป็นผู้นำคนสำคัญของ "สมาคมชาวเราพม่า" หรือ "พรรคตะขิ่น" ที่ต่อต้านอังกฤษ โดยมีอุดมการณ์แน่วแน่ในการเรียกร้องเอกราชทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ
- ข้อตกลงปางโหลง หรือสนธิสัญญาปางโหลง เป็นความพยายามของนายพลอองซาน ในการสร้างความปรองดองระหว่างชนเผ่าต่างๆ ในพม่า โดยมีเป้าหมายที่จะรวมชนกลุ่มน้อยเข้ากับพม่าเป็นเวลา 10 ปีก่อน แล้วให้ชนเผ่าต่างๆ เลือกที่จะเป็นอิสระหรืออยู่ร่วมกับพม่าต่อไป สัญญาปางโหลงเป็นสัญลักษณ์ของ ความหวังในการสร้างชาติพม่าที่เป็นปึกแผ่น และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
- แม้การลอบสังหารนายพลอองซาน จะเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ แต่ ความหวังในการสร้างชาติที่เป็นเอกราชและปรองดองยังคงอยู่ อองซาน ซูจี บุตรสาวของนายพลอองซาน ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของบิดาในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสันติภาพในพม่า จิตวิญญาณของนายพลอองซานและความปรารถนาของประชาชนในการมีชีวิตที่ดีขึ้น ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังในการต่อสู้เพื่อสันติภาพและความยุติธรรม ดังคำพูดที่ว่าแม้ในความมืดมิด ความหวังยังคงส่องสว่างอยู่เสมอ
‘อองซาน’ ความหวัง สันติของชาวพม่า ส่งต่อถึง ‘อองซาน ซูจี’ จากเอกราชของพม่าสู่วันที่สันติสุขค่อยๆ จางไป แต่หวังในใจยังคงมีอยู่
หลายคนจินตนาการหากพม่าหรือประเทศเมียนมา ในวันที่ได้รับเอกราชและปกครองโดย นายพลอองซาน โฉมหน้าการเมืองและวิถีชีวิตผู้คนเป็นอย่างไร
ทั้งในแง่ของความสันติภายในประเทศที่แต่ละชนกลุ่มน้อยอยู่กับชาวพม่าอย่างสันติ ไม่เกิดรัฐบาลทหารที่สู้รบกับชนกลุ่มน้อยปราบปรามผู้คน สันติภาพชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านที่อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์ว้าแดงประชิดแดนไทยตลอดจนกรณีทหารพม่ายิงเรือประมงไทยอาจไม่เกิดขึ้น
ประวัติวีรบุรุษที่ชื่อ “อองซาน”
นายพลอองซาน หรือ โบโชะ อองซาน บิดาแห่งเอกราชพม่า เป็นบุคคลสำคัญที่ต่อสู้เพื่อเอกราชของประเทศจากการปกครองของอังกฤษ การลอบสังหารเขาในวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อพม่าอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่พรากชีวิตผู้นำที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ แต่ยังบั่นทอนความหวังของประเทศในการสร้างสันติภาพและความปรองดอง
เส้นทางสู่เอกราชของพม่าเดินไปพร้อมกับนายพลอองซาน
นายพลอองซาน เป็นผู้นำคนสำคัญของ “สมาคมชาวเราพม่า” หรือ “พรรคตะขิ่น” ที่ต่อต้านอังกฤษ เขาเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ในการเรียกร้องเอกราชทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นายพลอองซาน ร่วมมือกับญี่ปุ่นเพื่อขับไล่อังกฤษออกจากพม่า แต่เมื่อญี่ปุ่นแสดงท่าทีต้องการยึดครองพม่า นายพลอองซานจึงร่วมมือกับอังกฤษอีกครั้งเพื่อต่อต้านญี่ปุ่น หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นายพลอองซาน ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อเอกราชของพม่ากับอังกฤษ
สนธิสัญญาปางโหลงความหวังแห่งการอยู่ร่วมกันบนแผ่นดินพม่า
ข้อตกลงปางโหลง หรือสนธิสัญญาปางโหลง เป็นความพยายามของนายพลอองซาน ในการสร้างความปรองดองระหว่างชนเผ่าต่างๆ ในพม่า ข้อตกลงนี้มีเป้าหมายที่จะรวมชนกลุ่มน้อยเข้ากับพม่าเป็นเวลา 10 ปีก่อน แล้วให้ชนเผ่าต่างๆ เลือกที่จะเป็นอิสระหรืออยู่ร่วมกับพม่าต่อไป สัญญาปางโหลงเป็นสัญลักษณ์ของความหวังในการสร้างชาติพม่าที่เป็นปึกแผ่นการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
โศกนาฏกรรมและปริศนา
การลอบสังหารนายพลอองซาน เกิดขึ้นขณะที่เขากำลังเข้าร่วมประชุมเพื่อเตรียมการรับมอบเอกราช ผู้ต้องสงสัยหลักคือ อูซอ นักการเมืองฝ่ายขวาที่ไม่พอใจบทบาทของนายพลอองซาน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบทบาทของอังกฤษในการลอบสังหารครั้งนี้ ความจริงเบื้องหลังการลอบสังหารนายพลอองซาน ยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน
กลายเป็นบาดแผลลึกที่นำไปสู่ความไม่สงบสันติในพม่าเรื่อยมา และทำให้ทหารพม่านับตังแต่นั้นมาเข้ามามีบทบาทในการเมืองอย่างมาก
ความหวังที่ส่องสว่าง
แม้การลอบสังหารนายพลอองซาน จะเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ แต่ความหวังในการสร้างชาติที่เป็นเอกราชและปรองดองยังคงอยู่ อองซาน ซูจี บุตรสาวของนายพลอองซาน ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของบิดาในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสันติภาพในพม่า
การลอบสังหารนายพลอองซาน เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนทางการเมืองและความเปราะบางของสันติภาพ แม้ความหวังจะริบหรี่ลงในวันที่นายพลอองซาน เสียชีวิต แต่จิตวิญญาณของเขาและความปรารถนาของประชาชนในการมีชีวิตที่ดีขึ้น ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังในการต่อสู้เพื่อสันติภาพและความยุติธรรม
ดังคำพูดที่ว่าแม้ในความมืดมิด ความหวังยังคงส่องสว่างอยู่เสมอ
ฉากทัศน์สันติภาพในพม่าที่ส่งผลกระทบต่อไทย
ลดความขัดแย้งบริเวณชายแดน หากพม่ามีสันติภาพภายในประเทศความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับพม่าก็อาจลดลง ส่งผลให้เกิดความมั่นคงและความปลอดภัยในพื้นที่มากขึ้น
สันติภาพในพม่าจะช่วยสร้างเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือให้กับประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านจะได้รับประโยชน์จากการค้าและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น
สันติภาพในพม่าจะช่วยลดความตึงเครียดและความหวาดระแวงระหว่างประเทศในภูมิภาค ไทยและพม่าจะสามารถร่วมมือกันในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
ความขัดแย้งภายในพม่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีผู้อพยพชาวพม่าเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหากมีสันติภาพในพม่าจะช่วยลดจำนวนผู้อพยพและบรรเทาปัญหาที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
