SHORT CUT
นวนิยายเรื่อง "กี่บาด" ของ ประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปี 2567.
คณะกรรมการดำเนินงานรางวัลซีไรต์ จัดแถลงข่าวการประกาศผลการตัดสินรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2567 โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานคณะกรรมการดำเนินงานรางวัลซีไรต์ พร้อมด้วยคณะกรรมการตัดสินร่วมงาน ณ C asean ห้องประชุมชั้น 10 อาคาร CW Tower
โดยคณะกรรมการตัดสินมีมติเป็นเอกฉันท์ประกาศผลการคัดเลือกนวนิยายที่ได้รับรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2567 ได้แก่ นวนิยายเรื่อง “กี่บาด” ของประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด สำนักพิมพ์คมบาง ได้รับรางวัลปีนี้
สำหรับปี 2567 เป็นประเภท นวนิยาย มีผู้ส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 69 เรื่อง การพิจารณาแบ่งเป็น 2 รอบ รอบคัดเลือก และรอบตัดสิน คณะกรรมการรอบตัดสิน มี 7 ท่าน ดังนี้
ผู้ประพันธ์ : ประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด
กี่บาด เล่าเรื่องราวของช่างทอผ้า “แม่ญิง” ล้านนา 3 รุ่นที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับการทอผ้าซิ่นตีนจก ซึ่งเป็นศิลปะการทอผ้าพื้นเมืองของล้านนา เส้นสายลวดลายบนผืนผ้าเปรียบเสมือนกับเรื่องราวชีวิตที่มีบาดแผลและความทรงจำอันเจ็บปวดของตัวละคร กี่บาดซึ่งเป็นชื่อนวนิยายเป็นสัญลักษณ์เปรียบได้กับแผลเป็นที่ย้ำเตือนประสบการณ์อันเลวร้ายในชีวิต เป็นการเชื่อมโยงเรื่องราวการทอผ้ากับเรื่องราวชีวิตของตัวละครได้อย่างน่าติดตาม นอกจากนั้นผ้าซิ่นทอในเรื่องยังเป็นสัญลักษณ์ของการส่งต่อ “พลังความเป็นหญิง” ในครอบครัว
เนื้อหาของนวนิยายแบ่งเป็น 3 ช่วงใหญ่ตามเรื่องราวของตัวละครหลัก เล่าด้วยสายตาของผู้รู้ผ่านมุมมองของตัวละครแต่ละรุ่น เริ่มตั้งแต่ส่วนของ “เอวซิ่น” เป็นเรื่องราวของ “แม่หม่อนเฮือนแก้ว” หญิงชราที่เป็นผู้รับและส่งต่อมรดกการทอผ้าจากบรรพบุรุษ ผู้พบกับความรักต้องห้ามในวัยสาวซึ่งต่อมาต้องเผชิญกับความรุนแรงในครอบครัวและเหตุการณ์ที่สร้างบาดแผลในใจตลอดชีวิต
ตามด้วย “ตัวซิ่น” เป็นเรื่องราวของ “แม่อุ้ยนาค” ลูกสาวของหญิงชราที่ถูกมารดาชัง สุดท้าย “ตีนซิ่น” เป็นเรื่องของรุ่นหลานชาย “บ่าหงส์” ผู้เลือกวิถีชีวิตของตนเป็นหญิงขัดกับเพศกำเนิด และเป็นผู้สืบทอดมรดกการทอผ้าในครอบครัวซึ่งตามประเพณีวัฒนธรรมของล้านนาสงวนไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น
ผู้เขียนถักทอเรื่องราวประดุจดังการสอดประสานเส้นใยฝ้ายเป็นลวดลายบนผืนผ้า ผสมผสานข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องการทอผ้าเข้ากับเรื่องเล่าแนวบันเทิงคดีได้อย่างสอดคล้องและแนบเนียน นำเสนอฉากท้องเรื่องที่มีภูมิหลังทางสังคมและบรรยากาศทางวัฒนธรรมของล้านนาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
นอกจากนั้น ยังได้นำเสนอเรื่องราวการกดขี่สตรีเพศในครอบครัว รวมทั้งเรื่องเพศวิถีความเป็นชายและความเป็นหญิงกับการก้าวผ่านข้อห้ามทางประเพณีวัฒนธรรมที่สังคมกำหนด การเล่าเรื่องของนวนิยายเป็นไปอย่างเรียบง่าย งดงาม กระจ่างชัดด้วยการใช้ภาษาพรรณนาอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครอย่างน่าสะเทือนใจ สร้างความรู้สึกร่วมแก่ผู้อ่าน
ด้านศิลปะการประพันธ์ กี่บาด มีทั้งขนบวรรณศิลป์แบบดั้งเดิมประสานกับการสร้างสรรค์ใหม่ โดยใช้ศิลปะการทอผ้าและลวดลายสื่อความหมายและดำเนินเรื่องอย่างมีเชิงชั้น เต็มไปด้วยสีสันท้องถิ่น นำพาผู้อ่านสู่อารมณ์สะเทือนใจ เห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของมนุษย์ แม้จะต้องเผชิญประสบการณ์หรือความทรงจำอันปวดร้าวเพียงไร ชีวิตก็ต้องเดินไปข้างหน้า และถักทอเรื่องราวอันเป็นวัฒนธรรมเรื่องเล่าของมนุษยชาติต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง