ส่องสัญญาณเดือดจากการโหวตนายกฯ ครั้งแรก สู่การโหวตนายกฯ รอบ 2 “พรรคก้าวไกล” พยายามเปิดเกมรุก เปิดแนวรบคู่ขนาน 2 สมรภูมิ แต่แนวโน้มมาสุดทางได้เพียงเท่านี้ ผลการโหวตฯ ครั้งที่ 2 ไม่น่าจะต่างจากครั้งที่ 1 ส่วนครั้งที่ 3 “เพื่อไทย” ขึ้นเป็นแกนนำฯ ส่งชื่อ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ
แม้โอกาสที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล จะได้รับเสียงสนับสนุนถึง 376 เสียง จากการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนได้เป็นนายกฯ จะริบรี่เป็นอย่างมาก แต่ในที่สุด 8 พรรคร่วมฯ ก็มีมิตส่ง “พิธา” ชิงตำแหน่งนายกฯ อีกครั้ง โดยระหว่างวันที่ 13 - 19 กรกฎาคม จากการโหวตนายกฯ รอบแรก สู่การโหวตนายกฯ รอบ 2 มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
หลังจาก “พิธา” ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ในการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้เสียงสนับสนุนไม่ถึง 376 เสียง โดยแบ่งออกเป็นเสียง ส.ส. จาก 8 พรรคร่วมฯ 311 และเสียงจาก ส.ว. เพียง 13 เสียง รวมเป็น 324 เสียง ในค่ำคืนนั้น ก็มีการปล่อยข่าวออกมาว่า ถ้าในการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 หาก 8 พรรคร่วมฯ ยังส่งชื่อ “พิธา” เข้าชิงอีก พรรคร่วมฯ เดิม อาจจะส่ง “บิ๊กป้อม” เข้าชิง แม้จะมีเสียง ส.ส. น้อยกว่า แต่คาดว่าจะได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. อย่างถล่มทลาย
ต่อมาในวันที่ 14 กรกฎาคม จากกรณีที่ “พิธา” ไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ไปได้ “พรรคก้าวไกล” จึงได้เปิดปฏิบัติการปิดสวิตช์ ส.ว. ด้วยการยื่นแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ต่อ “ประธานสภาฯ” เพื่อไม่ให้ ส.ว. มีสิทธิในการโหวตนายกฯ
แต่สังคมก็มองว่า เป็นปฏิบัติการเชิงสัญลักษณ์ที่ไม่ได้หวังผล เป็นเพียงการยื้อเวลา เพราะการแก้รัฐธรรมนูญ ต้องอาศัยเสียงเห็นชอบจาก ส.ว. 1 ใน 3 หรือประมาณ 84 คนขึ้นไป ปฏิบัติการดังกล่าวจึงเรียกได้ว่า ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
สูตรส้มหล่น VS สูตรรักสลับขั้ว สูตรไหนจะเป็นรัฐบาล และใครจะได้เป็น "นายกฯ"
โหวตนายกฯ รอบ 2 วันนอร์ เผย ไร้ข้อสรุป ประชุมวิป 3 ฝ่าย เสนอชื่อพิธาหรือไม่
ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2566 “พรรคก้าวไกล” ก็เดินเกมรุกอย่างต่อเนื่อง เปิดยุทธวิธี 2 สมรภูมิ โดยแนวรบที่ 1 โหวตนายกฯ แนวรบที่ 2 โหวตแก้ ม.272 และประกาศจะไปให้มันสุดทางทั้ง 2 สมรภูมิ แต่ถ้าไม่สำเร็จ ก็จะเปิดทางให้ “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วน วันที่ 16 กรกฎาคม ได้มีกิจกรรมคาร์ม็อบ นำโดย “อานนท์ นำภา” ที่เคลื่อนไหวไปตามจุดต่างๆ แต่ก็ไม่ได้เกิดความวุ่นวายใดๆ ขึ้น
ในวันที่ 17 กรกฎาคม ก็มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น อาทิ “ภูมิธรรม เวชยชัย” แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจ “พรรคก้าวไกล” ที่ได้ยื่นแก้รัฐธรรมนูญ ม.272 เพราะในเวลานี้แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย
และช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ก็ได้มีการเผยแพร่วาระการประชุมของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันโหวตนายกฯ โดยในวันดังกล่าวศาลฯ ได้นัดพิจารณาว่า จะรับคำร้องของ กกต. ปมถือหุ้นสื่อของพิธา หรือไม่
แต่ถึงกระนั้นก็ตามที หลังจาก 8 พรรคร่วมฯ ได้ประชุมกัน ก็ได้มีมติ ส่ง “พิธา” ลงโหวตนายกฯ รอบ 2 แต่หากไปต่อไม่ได้ “พรรคเพื่อไทย” จะขึ้นมาเป็นแกนนำ และในการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 3 จะเสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ
แต่การเสนอชื่อ “พิธา” อีกครั้ง ก็เกิดข้อถกเถียงกันว่า สามารถทำได้หรือไม่ ในวันที่ 18 กรกฎาคม “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาฯ จึงได้เรียกประชุมวิป 3 ฝ่าย ก่อนโหวตเลือกนายกฯ รอบ 2 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้