SHORT CUT
สหรัฐฯ สั่งระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนทั้งหมดแล้ว เพียงไม่กี่วันหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ปะทะคารมเดือดกับเซเลนสกี ผ่านสื่อทั่วโลก พร้อมลงนามคำสั่งเก็บภาษีจีนเพิ่มเป็น 20 % และเตรียมเก็บภาษีจากแคนาดา เม็กซิโกในอัตรา 25 %
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สั่งระงับการช่วยเหลือทางการทหารต่อประเทศยูเครน ภายหลังจากที่ทรัมป์และนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ปะทะคารมอย่างดุเดือดในทำเนียบขาวต่อหน้าสื่อ และทำให้การเจรจาเรื่องแร่หายากล่ม
โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลจนกว่าทางยูเครน จะแสดงความตั้งใจที่ดีต่อการเจรจาสันติภาพ พร้อมกล่าวว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวชัดเจนว่าเขามุ่งมั่นกับสันติภาพ และเขาต้องมั่นใจว่าทุกฝ่ายต้องมุ่งมั่นไปยังเป้าหมายเหมือนกัน”
ด้าน Bloomberg รายงานว่ายุทโธปกรณ์ทางทหารของสหรัฐฯ ทั้งหมดที่ยังไม่ได้จัดส่งไปให้ยูเครนจะถูกระงับชั่วคราว รวมถึงอาวุธที่ขนส่งบนเครื่องบินและเรือ โดยทรัมป์สั่งให้รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พีท เฮกเซธ ยุติปฏิบัติการทั้งหมดชั่วคราว
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ทรัมป์และเซเลนสกีมีปากเสียงกันในทำเนียบขาว โดยทางสหรัฐฯ กล่าวหาว่าทางยูเครนไม่เคยขอบคุณสหรัฐฯ พร้อมกล่าวหาว่านายเซเลนสกีกำลังเดิมพันสงครามโลกครั้งที่ 3
อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า เขาไม่ได้พูดคุยเรื่องการระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน แต่เสริมว่าเซเลนสกี "ควรซาบซึ้งมากขึ้น" ต่อการสนับสนุนของสหรัฐฯ
เกือบสามปีหลังเกิดสงคราม ที่สหรัฐฯ ได้บริจาคเงินรวมถึงยุทโธปกรณ์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือยูเครนในสงคราม
มีรายงานจากสำนักข่าว บลูมเบิร์ก (Bloomberg) เปิดเผยว่า ทำเนียบขาวแจ้งว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนแบบครอบคลุมเพิ่ม 2 เท่า เป็น 20 % หลังจากเก็บรอบแรก 10 % เมื่อ 4 กุมภาพันธ์
โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลหลังเที่ยงคืน ในวันที่ 4 มีนาคม ตามเวลาสหรัฐ เนื่องจากจีนไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาการหลั่งไหลของเฟนทานิล ซึ่งเป็นสารตั้งต้นยาเสพติดเข้าสหรัฐ
รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาการตอบโต้สินค้าทางการเกษตรและอาหารของสหรัฐ เพื่อส่งสัญญาณจุดยืนของจีนต่อโลกภายนอก ทั้งนี้จีนได้ตอบโต้การเรียกเก็บภาษีรอบแรกแบบจำกัดโดยเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐในบางรายการ ในอัตรา 10-15 %
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเพิ่มตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคมนี้ โดยการเก็บภาษีแคนาดาและเม็กซิโกใช้ในอัตรา 25% แต่ในส่วนสินค้าพลังงานจากแคนาดาเก็บ 10% ซึ่งถือเป็นการโจมตีคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 2 รายของสหรัฐอย่างชัดเจน และเน้นย้ำถึงความพยายามของสหรัฐในพลิกระเบียบการค้าโลก
การยืนยันเตรียมเก็บภาษีแคนาดาและเม็กซิโกตามกำหนด 4 มีนาคมนี้ เกิดขึ้นภายหลังการบังคับใช้ภาษีนำเข้าจาก 2 ประเทศเพื่อนบ้านถูกเลื่อนไปชั่วคราว เพราะตกลงกับทรัมป์ได้ว่าจะดำเนินมาตรการความปลอดภัยชายแดนที่เข้มงวดขึ้น แต่ล่าสุด ทรัมป์เดินหน้าเตรียมเก็บภาษี โดยให้เหตุผลว่า การหลั่งไหลของเฟนทานิลมายังสหรัฐยังสูงและไม่สามารถยอมรับได้
ย้อนไปก่อนหน้านี้แคนาดาเคยประกาศรายชื่อสินค้า 1,256 รายการ ที่จะเรียบเก็บภาษีจากสหรัฐฯ ในอัตรา 25% ซึ่งรวมถึง ผัก ผลไม้ ชา กาแฟ ผลิตภัณฑ์นม เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระดาษชำระ และเครื่องใช้ในครัวเรือนหลายประเภท คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณกว่า 7 แสนล้านบาท)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง