SHORT CUT
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เผยแผนสร้างกองทุนสำรองเชิงกลยุทธ์โดยรวมสินทรัพย์ดิจิทัลหลัก เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Solana และ Cardano หลังการประกาศ ราคาสินทรัพย์เหล่านี้พุ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตลาดโลก
ในวงการเทคโนโลยีและการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความตื่นตาให้กับตลาดคริปโตทั่วโลกด้วยการประกาศแผนตั้งกองทุนสำรองเชิงกลยุทธ์
โดยจะรวมสกุลเงินดิจิทัลหลักที่มีมูลค่าสูงอย่าง Bitcoin, Ethereum, XRP, Solana และ Cardano ลงใน 'คลังสินทรัพย์ของรัฐบาล'
ทรัมป์ เผยผ่านโพสต์ในแอปพลิเคชัน Truth Social ว่าคำสั่งบริหารในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ จะกำหนดแนวทางสร้างคลังสกุลเงินดิจิทัลเพื่อให้เกิดความมั่นคงและเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี
เมื่อประกาศออกไป ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 11% ขณะที่ Ethereum เพิ่มขึ้นประมาณ 13% ตลาดโดยรวมมีการเคลื่อนไหวที่เห็นถึงความเชื่อมั่นในแผนดังกล่าว
โดยมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นราว 10% หรือมากกว่า 300 พันล้านดอลลาร์ตามรายงานของบริษัทวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า การรวมสินทรัพย์ดิจิทัลในกองทุนสำรองนี้เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่จะผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโตเข้ามามีบทบาทในเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้น
Federico Brokate หัวหน้าฝ่ายธุรกิจในสหรัฐฯ ของบริษัท 21Shares ระบุว่า “การเคลื่อนไหวครั้งนี้สามารถเร่งการนำสถาบันต่างๆ เข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมากและอาจช่วยให้เกิดความชัดเจนในเรื่องกรอบกฎระเบียบ”
นอกจากนี้ ข่าวยังเปิดเผยว่าภายใต้แผนนโยบายของทรัมป์ คณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ได้ถอนการสอบสวนต่อบริษัทคริปโตหลายแห่ง
รวมถึงยกเลิกคดีความกับ Coinbase ซึ่งเป็นการแสดงถึงความตั้งใจที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตในช่วงรณรงค์เลือกตั้งปี 2024
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะมีการจัดงาน White House Crypto Summit ครั้งแรกที่จะรวบรวมผู้บริหารและนักวิเคราะห์ในวงการคริปโตเพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของเทคโนโลยีและนโยบายที่เกี่ยวข้อง
การประกาศครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการผลักดันราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดให้พุ่งสูงขึ้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการยกระดับความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่
นักวิเคราะห์คาดว่า ในอนาคตอาจมีการพัฒนาในด้านกรอบกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นและการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้ในระบบเศรษฐกิจอย่างแพร่หลาย
นอกจากนี้งาน White House Crypto Summit ที่จะจัดขึ้นเป็นเวทีสำคัญสำหรับติดตามการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มใหม่ๆ ในวงการคริปโต ซึ่งทั้งนักลงทุนและผู้สนใจเทคโนโลยีควรจับตาดูต่อไปอย่างใกล้ชิด
ด้วยการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนเทคโนโลยีระดับสูงจากรัฐบาลสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณแห่งอนาคตที่คริปโตและบล็อกเชนอาจก้าวเข้าสู่การใช้งานอย่างแพร่หลายในระบบเศรษฐกิจระดับโลกอีกด้วย
ที่มา : REUTERS