เทรนด์ตลาดคริปโทฯ ปี 2024-2025 ยุคทอง Bitcoin ราคาพุ่งทะลุ $100,000 ชี้อนาคต

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี กำลังก้าวเข้าสู่ยุคทองแห่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งผลต่อแนวโน้มนี้มีหลากหลาย ตั้งแต่การลงทุนเชิงกลยุทธ์จากบริษัทชั้นนำ การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ ไปจนถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่สะท้อนถึงพัฒนาการและความท้าทายของตลาดคริปโทฯ

การที่ราคา Bitcoin ที่พุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์ เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัล การเติบโตของบิตคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราว แต่สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคม

ปัจจุบัน Bitcoin ได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะ "ทองคำดิจิทัล" ที่ใช้เป็นสินทรัพย์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

บริษัทขนาดใหญ่และนักลงทุนสถาบัน เริ่มมองเห็นศักยภาพของบิตคอยน์ การเข้ามาของนักลงทุนเหล่านี้ช่วยเพิ่มสภาพคล่องและเสถียรภาพให้กับตลาด ประกอบกับการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain อย่างต่อเนื่อง ยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ, ความปลอดภัย และการเติบโตของ Bitcoin อีกด้วย

MicroStrategy (MSTR) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก กำลังจะเข้าสู่ดัชนี Nasdaq-100

ณ วันที่ 9 ธันวาคม MicroStrategy ถือครอง Bitcoin ถึง 423,650 BTC และนับตั้งแต่ต้นปี ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นสูงเกือบ 600% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อกลยุทธ์การลงทุนใน Bitcoin ของบริษัท

ตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า MicroStrategy จะถูกบรรจุเข้าสู่ดัชนี Nasdaq-100 ซึ่งประกอบด้วยบริษัทชั้นนำ 100 บริษัทในสหรัฐอเมริกา ไม่รวมกลุ่มธุรกิจการเงิน

การเข้าสู่ดัชนี Nasdaq-100 ถือเป็นก้าวสำคัญของ MicroStrategy และเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการยอมรับ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นในวงการการเงินหลัก

MicroStrategy ภายใต้การนำของ Michael Saylor กลายเป็นผู้เล่นหลักในตลาด Bitcoin ด้วยกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก การเข้าซื้อ Bitcoin ครั้งล่าสุดของ MSTR ที่ราคาสูงกว่า 100,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของ Bitcoin และอาจกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ เดินตามรอย

ประกอบกับการบังคับใช้กฎการบัญชีมูลค่ายุติธรรมของ FASB นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความโปร่งใสและมาตรฐานให้กับตลาด Cryptocurrency การรายงานมูลค่า Bitcoin ตามราคาตลาด จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และส่งเสริมการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ในวงกว้างมากขึ้น

วันนี้ (16 ธ.ค.) ราคา Bitcoin พุ่งทะลุ 106,000 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดใหม่ คาดว่ามาจากปัจจัยดังนี้ 

• นักลงทุนจำนวนมาก "กลัวตกรถ" แห่เข้าซื้อ Bitcoin เพราะเห็นราคาพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดแรงซื้อมหาศาล ดันราคาขึ้นไปอีก
• CK Zheng ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ ZK Square มองว่า Bitcoin เข้าสู่โหมด "ซานตาคลอส" แจกกำไรช่วงปลายปี เนื่องจากนักลงทุน FOMO 
• Jack Mallers ผู้ก่อตั้ง Strike คาดการณ์ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อาจใช้อำนาจพิเศษ ประกาศให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองของสหรัฐฯ ทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง (20 ม.ค. 2025)
• Dennis Porter ซีอีโอของ Satoshi Action Fund เผยว่า กำลังมีการเตรียมร่างกฎหมายจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin ฉบับที่ 3 ในระดับรัฐ
• นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Fed อาจลดดอกเบี้ย 0.25% ในวันที่ 18 ธ.ค.
• การลดดอกเบี้ย จะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และนักลงทุนอาจโยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น Bitcoin เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า

นอกจากนี้ในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ยังมีการคาดการณ์ว่า Dogecoin และ XRP จะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ และ 400,000 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ภายในปี 2568 สะท้อนถึงศักยภาพในการเติบโตของ Altcoins ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตนี้

Dogecoin ได้รับความนิยมในฐานะ "meme coin" และถูกนำไปใช้ในการทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น ขณะที่ XRP มีบทบาทสำคัญในระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ ทั้ง Dogecoin และ XRP มีชุมชนผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตและการพัฒนาของเหรียญ

การที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวถึงแผนสำรองคริปโตของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการยอมรับ Cryptocurrency ในระดับรัฐบาล ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนานโยบายและกฎระเบียบที่เอื้อต่อการเติบโตของตลาด

นอกเหนือจาก Bitcoin, Dogecoin และ XRP ยังมีเทรนด์สำคัญอื่นๆ ที่กำลังทำให้อนาคตของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีสามารถเติบโตมากขึ้น ได้แก่

• DeFi (Decentralized Finance) : ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมี Blockchain เป็นพื้นฐาน DeFi เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินต่างๆ เช่น การกู้ยืม การแลกเปลี่ยน และการลงทุน โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง
• NFT (Non-Fungible Token) : โทเคนดิจิทัล NFT ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ศิลปะ เกม และของสะสม การเติบโตของ NFT สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของ Blockchain ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล
• Metaverse : โลกเสมือนจริงที่ผู้คนสามารถมีปฏิสัมพันธ์กัน ทำกิจกรรมต่างๆ และสร้างรายได้ Metaverse กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก และมีศักยภาพในการปฏิวัติวิถีชีวิตของผู้คนในอนาคต
• Web3 : อินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย Web3 มี Blockchain เป็นเทคโนโลยีหลัก และคาดว่าจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานอินเทอร์เน็ตในอนาคต

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามข้อมูลข่าวสาร วิเคราะห์ความเสี่ยง และตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อคว้าโอกาสในยุคทองของคริปโทฯ อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ที่มา : Coin Telegraph, Binance, Coinmarketcap, Coinmarketcap