โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมปลดเจ้าหน้าที่ใน NOAA และจะโอนเป็นของเอกชนเร็ว ๆ นี้

Project 2025 ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดที่จะปรับโครงสร้างรัฐบางกลางสหรัฐฯ หนึ่งใน action plan ที่สำคัญก็คือ จะมีการปรับหน่วยงานด้านสภาพอากาศ ซึ่งเดิมทีเป็น “หน่วยงานราชการ” ให้กลายเป็นเอกชน และมีรายงานว่าตอนนี้ รัฐบาลทรัมป์กำลังจับจ้องไปที่ NOAA

ตอนนี้ ทีมงานของมัสก์ได้แทรกซึมเข้าไปในหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ของ NOAA (ส่วนหนึ่ง) ได้รับคำสั่งให้ยุติการดำเนินการระหว่างประเทศทั้งหมดไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม จุดนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญแสดงความเป็นกังวลอย่างมาก เพราะงานที่ NOAA ทำนั้นมีความสำคัญ ซึ่งเราจะขยายกันในลำดับต่อไป

แต่ประเด็นก็คือ มีรายงานว่า ทรัมป์ 2.0 จะสั่งลดจำนวนพนักงานใน NOAA ลง 50% เพื่อลดงบประมาณ ซึ่งข้อมูลล่าสุดเมื่อปี 2021 เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สำนักงานบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ มีพนักงานอยู่ราว 12,000 คน

ก่อนอื่นเราควรมารับรู้ถึงความสำคัญ ภารกิจ และหน้าที่ของ NOAA กันสักหน่อย เพื่อจะได้ดูว่าหน่วยงานนี้มีคุณูปการต่อชาวอเมริกันอย่างไร

 

NOAA รับผิดชอบ/ดูแลเรื่องอะไร ?

สำนักงานบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ  หรือ NOAA ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1807 ทำงานรับใช้ชาวอเมริกันมาแล้วร่วม 218 ปี หน่วยงานแห่งนี้มีภารกิจหน้าที่หลากหลายอย่างด้วยกัน เราจึงจะขอยกตัวอย่างไว้ด้านล่างนี้

• พยากรณ์สภาพอากาศ - สำนักงานอุตุนิยมวิทยา (National Weather Service
• คาดการณ์ เก็บข้อมูล ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องเฮอริเคน - ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ (National Hurricane Center)
• ดูแลรอบด้านเกี่ยวกับการทำประมง - Marine Fisheries Service
• เก็บข้อมูลจากนอกโลกด้วยดาวเทียม
• เตือนภัยสึนามิ

สื่อต่างประเทศบางหัวเขียนนิยาม NOAA ไว้ว่า “แม้คุณจะไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อพายุเฮอริเคน หรือแม้แต่ไม่ข้องเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวประมง NOAA ก็ยังมีบทบาทสำคัญชนิดที่คุณคาดไม่ถึง”

 

มองฉากทัศน์ถัดไป เมื่อ NOAA กลายเป็นเอกชน

อย่างแรก บรรดาแอปรายงานสภาพดินฟ้าอากาศทั้งหลาย อาทิ Accuweather หรือแม้แต่สำนักข่าวภูมิภาคอย่าง Weather Channel ซึ่งมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก และคอยอัปเดตข้อมูลข่าวสาร จะไม่สามารถให้ข้อมูลได้ดังเดิม หรือไม่ครบถ้วนเท่าเดิม เพราะ 2 อย่างที่ว่ามานี้ อิงอาศัยข้อมูลจาก NOAA เป็นหลัก

อย่างที่ 2 พื้นที่บางส่วนของสหรัฐฯ เช่น พื้นที่ห่างไกล จะไม่มีการคาดการณ์ หรือพยากรณ์อากาศ/พายุ/คลื่นความหนาว ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ให้เป็นหน่วยงานของรัฐ ถ้าเป็นเอกชนพื้นที่เหล่านั้นคุ้มค่าพอที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือไม่

เพราะว่าลงทุนไปหลาย ๆ ล้าน แต่คนรอรับข้อมูลกลับมีไม่เท่าไหร่ ดังนั้น สิ่งนี้อาจถูกมองว่าไม่คุ้มค่าได้ เราจะเห็นว่าเลนส์ในการมองผู้คนกับประชาชนนั้นค่อนข้างแตกต่างกัน

 

ที่มา: Fast Company

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 'โดนัลด์ ทรัมป์' ขึ้นภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม 25% ประเทศไหนกระทบหนักสุด
• ทรัมป์เตรียมสั่งยกเลิกการใช้หลอดกระดาษ ให้ทุกคนกลับไปใช้ 'หลอดพลาสติก'
• ทรัมป์ เตรียมยุบกระทรวงศึกษาฯ หลังรีพับลิกันวิจารณ์หนัก