SHORT CUT
นัดสามพันมาสามสิบ! ม็อบเมียนมาประท้วงแบนสินค้าไทย โต้กลับตัดก๊าซ-น้ำมัน ทำเมียวดีวุ่น รองฯ BGF วอนไทยสงสารชาวบ้าน
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ที่เมืองเมียวดี เมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ชาวเมียนมาจำนวนประมาณ 30 คนเดินขบวนประท้วงที่ไทยตัดการส่งไฟฟ้าและน้ำมันไปยังเมียนมา ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 1
โดยมีนายอูตู่เหร่งมินทุน อายุ 44 ปี และ นายอูจ่อจ่อ อายุ 45 ปี แกนนำจัดชุมนุมเดินขบวน ได้แสดงความคิดเห็นอย่างสันติของประชาชนในตัวเมืองเมียวดี โดยได้ไปรวมตัวกันที่สวนสาธารณะส่วยเมียะสั่นดี่ หมู่ 4 เมืองเมียวดี และเริ่มเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปทางสะพานมิตรภาพไทย เมียนมา แห่งที่ 1
ต่างตะโกนว่า “จงปิดสะพานการค้าชายแดนไทย-เมียนมา 1 และ 2 , จงปิดท่าต่างๆ ผิดกฎหมายพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา จงอย่าใช้สินค้าไทย”
ซึ่งผิดกับรายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่ระบุว่ามีการทำเอกสารแจ้งการชุมนุมว่าจะมีการรวมมวลชนกว่า 3,000 คน และจะกดดันไปถึงพื้นที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ด้วย
การรวมตัวชุมนุมในเมียนมา เป็นสิ่งผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทำให้หลายฝ่ายมองว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการจัดตั้งของฝ่ายที่เสียผลประโยชน์และใกล้ชิดกับรัฐบาลทหารเมียนมาและกลุ่มสีเทา มี ซอเมี๊ยะอู้ มุขมนตรีรัฐกะเหรี่ยง ผู้ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลพม่า อยู่เบื้องหลังการนัดชุมนุมนี้
เพจเฟซบุ๊ก อรรวี แตงมีแสง เจ้าของเพจ "Natty loves Myanmar" ระบุว่า การชุมนุมนี้เน้นไปที่เรื่องการตัดก๊าซและน้ำมัน ไม่พูดถึงการตัดไฟฟ้าและอินเตอร์เน็ต ชาวเมียนมาทั่วไปเรียกม็อบเหล่านี้ว่า 5,000 จ๊าด คือจ่าย 5,000 จ๊าดก็มาร่วมชุมนุมแล้ว
ขณะที่พันโทหน่ายหม่อง โซ รองผู้บังคับกองพัน BGF (กองกำลังพิทักษ์ชายแดน) ประจังหวัดจำเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมาตรงข้าม อ.แม่สอด จังหวัดตาก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การตัดกระแสไฟฟ้า และการห้ามน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปประเทศเมียนมา ของทางรัฐบาลไทย ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวเมียนมาอย่างรุนแรง ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ในเมียนมาขึ้นราคา และกำลังจะเกิดภาวะการขาดแคลนน้ำมันอีกไม่นานนี้ จากสถานีน้ำมันเชื้อเพลิง 13 แห่ง
เช่นเดียวกับทางโรงพยาบาลเมียวดี ที่เป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุด และมีผู้ป่วยมากที่สุดไม่มีไฟฟ้าใช้ และกำลังขาดออกซิเจนที่ให้กับผู้ป่วยที่ติดขัดระบบการหายใจ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้แก้ปัญหาจากการไปซื้อออกซิเจนจากเขตไทยในขณะนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ป่วย
ผู้นำ BGF เปิดเผยอีกว่า วอนรัฐบาลไทยอย่าหักด้ามพร้าในทีเดียว น่าจะมีมาตรการที่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้ การตัดไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซ ทหารคนจับอาวุธอย่างพวกเขายังพอรับมือได้ แต่กับชาวบ้านนั้นหมดโอกาส ต้องทนรับสภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว ไทยใช้ยาแรงเกินไป