ไทยตัดไฟฟ้าที่ส่งจาก ชายแดน แม่สอด - เมียวดี เพื่อทำให้แก๊งสแกมเมอร์ใช้ไฟฟ้าไทย หลอกคนไทยได้ไหม? ในช่วงที่ผ่านมา เกิดข้อถกเถียงอีกครั้งเกี่ยวกับการตัดไฟฟ้าใน จ.เมียวดี ประเทศพม่า ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นแหล่งสำคัญของธุรกิจสแกมเมอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายไปทั่วโลก
SPRiNG ชวนทำความเข้าใจสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าครั้งนี้ เพื่อตอบคำถามว่าสามารถยกเลิกการส่งไฟฟ้าให้กับ จ.เมียวดี ได้หรือไม่
สัญญาซื้อขายไฟฟ้า กฟภ. กับ จ.เมียวดี
ก่อนอื่นประเทศเมียนมาไม่ได้ปกครองในระบบรัฐเดี่ยวเหมือนประเทศไทย แต่พวกเขาปกครองในระบบสาธารณรัฐ กล่าวคือ มีรัฐบาลหลายระดับทั้งรัฐบาลกลาง และรัฐบาลกลุ่มชาติพันธุ์
สัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่เป็นประเด็นในปัจจุบัน สืบเนื่องมาจากกรณีสแกมเมอร์และพนันออนไลน์ ในเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นพื้นที่ของรัฐกะเหรี่ยง และมี พ.อ.หม่อง ชิตตู่ หัวหน้ากองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) หรือกะเหรี่ยง BGF เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด
สัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ม.ค. พ.ศ. 2561 เฟซบุ๊กเพจ ‘การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA’ ได้โพสต์การทำข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้าระหว่างบริษัท PEA ENCOM บริษัทในเครือ กฟภ. กับบริษัท SMYT (Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited) ที่มี พ.ต.ซอ ติน วิน ผบ.กองกำลังกะเหรี่ยง BGF และลูกน้องคนสนิทของ พ.อ.หม่อง ชิตตู่ เป็นเจ้าของ และเป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานการจัดการไฟฟ้าในเมียวดีจากรัฐบาลกลางเมียนมา
หรือแปลว่า กฟภ.ไทยส่งไฟฟ้าให้ SMYT ไปบริหารจัดสรรในพื้นที่ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา
ข้อถกเถียงดังกล่าวกลับขึ้นมาอีกครั้ง หลัง หมออั้ม – อิราวัต อารีกิจ ออกมาแสดงความเห็นใน X ว่า ข้อเรียกร้องให้ตัดไฟในประเทศเพื่อนบ้านอาจเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ และการตัดสินจะตัดไฟจำเป็นต้องกระทำโดยรัฐบาลของเมียนมาเอง ไม่ใช่ทางการไทย
ข้อมูลจากโฆษกกลาโหม พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง ระบุว่า ไทยเคยมีจุดจ่ายไฟฟ้าข้ามชายแดน แม่สอด - เมียวดีทั้งหมด 4 แห่ง แต่ปัจจุบันตัดเหลือเพียง 2 แห่ง ดังนี้
1. บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2
2. บ้านห้วยม่วง อ.แม่สอด จ.ตาก
3. บ้านแม่กุใหม่ ต.ท่าสองยาง อ.แม่สอด จ.ตาก (ระงับการจ่ายไฟ)
4. บ้านวังผา อ.แม่ระมาด จ.ตาก (ระงับการจ่ายไฟ)
โดยกรณีที่ระงับการจ่ายไฟเกิดขึ้นในเดือน พ.ค. พ.ศ. 2566 โดยเริ่มต้นจากทางการเมียนมาได้แจ้งยกเลิกสัมปทานจัดการไฟฟ้าที่ให้กับบริษัท SMYT ทำให้มีหนังสือมาถึง กฟภ.ให้ยกเลิกการจ่ายไฟฟ้าไปยังเมียวดี โดยทั้งสองพื้นที่ที่ถูกตัดไฟตั้งอยู่ใกล้เคียงกับ เมืองชเวโก๊กโก๋และเมืองเคเค ปาร์ก สองเมืองสแกมเมอร์สำคัญตามรายงานของ Justice for Myanmar
หลังจากนั้นได้มีข้อเรียกร้องให้ตัดไฟฟ้าที่ส่งไปเมียวดีอีกครั้ง แต่ทางฝ่ายรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีมหาดไทยได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ รับรองว่า กฟภ.ขายไฟฟ้าให้กับบริษัทที่ผ่านการตรวจสอบโดยหน่วยงานไทย
“เขาจะนำไฟฟ้าไปทำอะไรต่อเป็นกฎหมายของเขา แต่ไม่มีที่ กฟภ.จะไปขายไฟให้กับบริษัทที่ทำสแกมเมอร์ แบบนี้ไม่มี พูดง่าย ๆ คือการไฟฟ้าไทยขายให้กับการไฟฟ้าเมียนมา แต่เขาไปส่งใคร มันเกินอำนาจอธิปไตยที่เราจะไปยุ่งได้” อนุทินกล่าว
ขณะที่ทางด้านฝ่ายค้าน รังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชนให้สัมภาษณ์กับช่อง คม ชัด ลึก เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า การบอกว่าเราไม่สามารถยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับเมียนมาได้ ต้องพิจารณาจากความจริงว่า เมียนมามีพลวัตรค่อนข้างมาก มีชนกลุ่มน้อยและกลุ่มต่างๆ ซึ่งหลายกลุ่มก็ทำกิจกรรมผิดกฎหมายเพื่อนำเงินไปใช้แตกต่างกันไป
“ดังนั้น จะบอกว่าเราทำสัญญา (ซื้อขายไฟฟ้า) กับทางการ เราต้องเชื่อทางการ มันก็ไม่ใช่ เราต้องพิจารณาจากความเป็นจริงว่าคู่สัญญาที่เราทำด้วยอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมายด้วย” โรมกล่าว
ขณะที่ทางด้านฝั่งวิชาการ พวงทอง ภวัครพันธุ์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็นว่า การยกเลิกสนธิสัญญาส่งไฟฟ้าที่ทำกับ SMTY สามารถทำได้และมีความชอบธรรม ด้วยเหตุผล 2 ประการ
1. กองกำลังกะเหรี่ยง BGF ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ ไม่มีสถานะทางกฎหมายในเมียนมา ข้อตกลงซื้อขายจึงไม่ใช่สนธิสัญญาระหว่างประเทศ
2. มีรายงานจากทั้ง Justice for Myanmar และ USIP ที่ยืนยันว่า กลุ่มกะเหรี่ยง BFG มีความเกี่ยงข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น สแกมเมอร์
พวงทองเสริมว่า นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย แต่คือปัญหาเรื่องความกล้าของทางการไทยมากกว่า
ยังต้องติดตามเรื่องนี้ต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร แต่ในวันที่ 29 ม.ค. จะมีการประชุมร่วมกันระหว่าง กมธ.ความมั่นคงชายแดน, กฟภ. และหน่วยงานความมั่นคง โดยคาดว่าผลลัพธ์มีความเป็นไปได้ 3 แนวทางคือ ขายไฟต่อไป, ต่อขยายสัญญาบางส่วน และตัดไฟ