เปิดประวัติ "หม่อง ชิตตู่" กะเหรี่ยงเทา เจ้าพ่อเมียวดี คุมพื้นที่แก๊งคอลฯ

กะเหรี่ยงจอมหักหลัง แจ้งเกิดจากการหักหลังกะเหรี่ยงด้วยกันเอง

หม่องชิตตู่ เดิมเคยเป็นทหารในกองทัพ KNU หรือกองทัพของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง มีเป้าหมายคือปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง ต้องการเขตปกครองตัวเองอย่างอิสระ สู้รบกับกองทัพเมียนมามาโดยตลอด มีการทำงานในเชิงการเมืองและมีกองกำลังติดอาวุธของตัวเอง โดย "ชิต ตู่" เป็นคนชนชาติกะเหรี่ยงที่ร่วมกับ KNU มาก่อน 

จนกระทั่งปี 2538 เกิดความขัดแย้งในกลุ่มผู้นำกะเหรี่ยง "ชิต ตู่" จึงนำพรรคพวกส่วนหนึ่งแยกตัวออกมาตั้งกลุ่ม "D.K.B.A :กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย” แล้วร่วมกับกองทัพเมียนมา (SAC : ตัดมาดอว์) เคยมีข่าวว่าเขานำกำลังโจมตีกะเหรี่ยงที่ค่ายอพยพในปี 2541 เขาแผ่อิทธิพลในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของเมียนมา เขตจังหวัดเมียวดี ติดชายแดนไทย

ปี 2553 หม่องชิตตู่ รับข้อเสนอของกองทัพพม่า ตั้งกองกำลัง BGF : Border Guard Force แยกตัวเองออกมาจากกลุ่ม DKBA รับเงินเดือนและสวัสดิการจากกองทัพพม่า มีหน้าที่ควบคุมความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน
 

รับเงินจีนเทา ส่งกระเป๋ากองทัพเมียนมา

ในปี 2561 กัมพูชากวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในสีหนุวิล ทำให้ “เสอจื้อเจียง” เจ้าพ่อจีนเทาย้ายฐาน และร่วมกับ “หม่องชิตตู่” ลงทุนสร้างเมือง “ชเวโก๊กโก่” ในพื้นที่ตอนเหนือของเมืองเมียวดี จากนั้นไม่นานก็สร้างเมือง “KKPark” เมืองสีเทาอีกแห่งฝั่งทิศใต้ของเมียวดี กับ “ไอ้ฟันหลอ” เจ้าพ่อขบวนการอาชญากรรมใต้ดิน 14K อาชญากรระดับโลกที่ขึ้นบัญชีดำในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร

“หม่องชิตตู่” เป็นผู้คุมกองกำลัง และประสานผลประโยชน์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในพื้นที่สีเทาสีดำริมแม่น้ำเมยเหล่านั้น โดยมีรายงานว่าเขานำส่งผลประโยชน์กว่า 30% กลับเข้ากองทัพเมียนมา สามารถมอบเงินเดือน ดูแลกำลังพลกว่า 8,000 คนของเขาจากเงินสีเทาเหล่านั้น และยังได้รับการชื่นชมจาก พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้นำเมียนมาว่ามีผลงานด้านการทหารดีเยี่ยมในปี 2565
 

เกมยึดเมียวดี พลิกผันเพราะชิตตู่

หากจำกันได้เมื่อเดือนเมษายนปี 2567 กองทัพ KNU และกลุ่ม PDF ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา สามารถเข้ายึดเมืองเมียวดีได้ คนกะเหรี่ยงหลายคนตื่นเต้นยินดีที่สามารถยึดค่ายทหารพม่าได้ นั่นก็เป็นเพราะ “ชิตตู่” เขาเห็นแล้วว่าช่วงก่อนหน้านั้นฝ่ายต่อต้านกำลังรุกคืบ ฝ่ายรัฐบาลเมียนมาเพลี่ยงพล้ำ แพ้ในหลายสมรภูมิ

ช่วงเดือนมกราคม 2567 เขาเหมือนนกรู้ พ.อ.หม่อง ชิต ตู่ นำ BGF ประกาศถอนตัวจากรัฐบาลเมียนมา ขอไม่รับเงินเดินและสวัสดิการทั้งหมดจากรัฐบาล ถอนกำลังออกจากพื้นที่ยุทธศาสตร์ และ “ประกาศวางตัวเป็นกลาง” ไม่เข้ากับฝ่ายต่อต้าน และไม่ภักดีกับรัฐบาลเหมือนเคย รีแบรนด์ชื่อเป็นกองกำลัง KNA นั่นทำให้ฝ่ายต่อต้านเข้ายึดเมียวดีได้

แต่หลังจากยึดค่ายผาซองได้ไม่นาน เมืองเมียวดีถูกโจมตีด้วยเครื่องบินรบจากกองทัพพม่า เขย่าหัวใจหม่องชิตตู่ ถูกขู่ว่าถ้าไม่ยอม พื้นที่ต่อไปที่จะถูกโจมตีคือ “ชเวโก๊กโก่” หรือ “KKPark” แหล่งเงินแหล่งทองที่ไม่สามารถสูญเสียไปได้ ในจังหวะนั้นฝ่ายต่อต้านกลุ่มอื่น ฝากเมืองเมียวดีไว้กับ KNA “ชิตตู่” จึงทรยศต่อกะเหรี่ยงอีกครั้ง ด้วยการอำนวยความสะดวกทหารเมียนมา กลับยึดค่ายผาซอง ปลดธงกะเหรี่ยง เมียวดีกลับสู่สภาพเดิมเหมือนที่เคยผ่านมา

เล่นบทคนดี แต่ตีบทไม่แตก

ทันทีที่เรื่องเมืองบาป “ชเวโก๊กโก่” และ KKPark ได้รับความสนใจจากรัฐบาลจีนและรัฐบาลไทยมากขึ้น โดยเฉพาะหลัง “ซิงซิง” นักแสดงจีนถูกหลอกข้ามไป เขาพยายามจะรับบทคนดี ออกมาหน้าสื่อ เรียกประชุมทำทีขึงขังจะขจัดแก๊งค้ามนุษย์ออกไปจากเมืองเมียวดีให้หมด มีการส่งคืนเหยื่อ(บางส่วน)กลับมาทางประเทศไทยเพื่อจะเอาใจจีน

เขาทำทุกทางเพื่อจะรักษาอำนาจในพื้นที่สีเทา แหล่งผลประโยชน์นี้เอาไว้ ในตอนนี้พื้นที่เหล่านี้ถูดตัดไฟฟ้า ตัดการส่งน้ำมันและก๊าซไปแล้ว บีบคั้นสถานการณ์ในพื้นที่ของเขามากเต็มที และยังมีเรื่องที่เราไม่รู้ว่า “ชิตตู่” กำลังต่อรองอะไรกับรัฐบาลเมียนมา รัฐบาลจีน หรือรัฐบาลไทยอยู่หรือไม่ แต่เชื่อว่าคงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า “เขาคือกะเหรี่ยงเทา” ผู้ควบคุมพื้นที่นรกแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่สูบเลือดเนื้อคนทั้งโลกอยู่นั่นเอง

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำไมธงเมียนมาขึ้นยอดเสาเมียวดี? "หม่องชิตู่" ตัวแปร(พักต์) เปลี่ยนเกมส์

รู้จัก "ชเวโก๊กโก่" เมืองทุนสีเทา แหล่งค้ามนุษย์ กาสิโน และแก๊งคอลเซนเตอร์

เปิดประวัติ "เสอจื้อเจียง" จีนเทาเจ้าพ่อชเวโก๊กโก่ สู่เรือนจำคลองเปรม