“สุดารัตน์” ลงพื้นที่สวนจตุจักร รับฟังปัญหาผู้ค้า เรียกร้อง กทม. ทบทวนมาตรการของสำนักงานตลาดฯ สุดช็อกถูกยกเลิกสิทธิ์และเก็บค่าปรับสูงถึง 1800% โดยไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส่ จ่อขอพบผู้ว่า กทม. พร้อมยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบการบริหาร หลังกระทบผู้ค้ารายย่อยนับพันชีวิต
เย็นวานนี้ (1 ก.พ. 2568) ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยทีมไทยสร้างไทย กรุงเทพมหานคร ทีมกฎหมาย และทีมโฆษกพรรค ลงพื้นที่สวนจตุจักร เพื่อรับฟังปัญหาพร้อมรับหนังสือและหลักฐานการร้องเรียนจากผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักร ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยเฉพาะการยกเลิกสิทธิ์แผงค้า 529 ราย โดยไม่มีเหตุผลชัดเจนไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า รวมถึงการเรียกเก็บค่าปรับในอัตราที่สูงเกินจริง และการจัดการพื้นที่ที่ไม่เป็นธรรม
ผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักรร้องเรียนว่า เดิมทีตลาดแห่งนี้ถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่ค้าขายสำหรับพ่อค้าแม่ค้ารายเล็ก ภายใต้มติคณะรัฐมนตรี ปี2561 ซึ่งให้สิทธิ์ในการเช่าพื้นที่ในราคาที่เหมาะสม แต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา กทม. กลับประกาศยกเลิกสิทธิ์ผู้ค้าจำนวน 529 ราย พร้อมเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลพื้นที่แทน และจากข้อมูลยังพบอีกว่าผู้ที่เข้าประมูลเป็นเอกชนรายใหญ่เพียงรายเดียว
ผู้ค้ายื่นหนังสือร้องเรียนด้วยว่ามีการเก็บค่าปรับที่ผู้ค้าจ่ายล่าช้าในอัตราที่สูงถึง 1,800% ต่อปี เสมือนเป็นการรีดไถ และเป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับผู้ค้ารายย่อย รวมถึงการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าขายเกินพื้นที่ ค่าขายริมฟุตบาท และค่าประกัน โดยไม่มีความชัดเจนและไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าทุกเดือน ซึ่งถือเป็นยุคที่หนักหนาและยากลำบากที่สุด ตั้งแต่ขายของในตลาดแห่งนี้มากว่า 40 ปี
คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า การดำเนินการของ กทม. ในกรณีนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ค้านับพันชีวิต ซึ่งเป็นกลุ่มคนตัวเล็กที่กำลังดิ้นรนทำมาหากิน การยกเลิกสิทธิ์โดยไม่มีการหารือหรือหาทางออกร่วมกันอย่างเป็นธรรม ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ของประชาชน พร้อมตั้งคำถามว่า เงินค่าเช่าที่ผู้ค้าจ่ายมาตลอดหลายปีนั้นหายไปไหน เพราะจากการตรวจสอบพบว่า สำนักตลาดอ้างว่าให้ผู้ค้าขายฟรี ทั้งที่ความเป็นจริงผู้ค้า จ่ายเงินค่าเช่าทุกเดือน ซึ่งพบว่าสำนักตลาดไม่มีการลงบัญชีรายรับในส่วนนี้เลย จึงเกิดคำถามตามมาว่าเงินที่เก็บจากผู้ค้าทุกเดือนหายไปไหน ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติและส่อว่าอาจมีการทุจริตหรือไม่
ดังนั้น พรรคไทยสร้างไทย ทั้งในส่วนของทีม กทม.และฝ่ายกฎหมาย จะเร่งดำเนินการใน 3 แนวทางเพื่อช่วยเหลือผู้ค้าสวนจตุจักร ได้แก่
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า ตลาดนัดสวนจตุจักรเป็นพื้นที่ค้าขายสำคัญของคนตัวเล็ก ที่ไม่ควรถูกแปรสภาพไปเป็นแหล่งทำกำไรของกลุ่มทุนโดยผลักภาระให้ประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ผู้ว่า กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนการบริหารจัดการตลาดให้เป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมกับผู้ค้า
พรรคไทยสร้างไทย จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะสรุปข้อมูลพร้อมยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม