"สุดารัตน์" แท็กทีม "สุรเกียรติ์" หนุน ไทย Reskilll ดีกว่าเอาเงินไปแจก

ที่ Sasin school of Management คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานหลักสูตร Mission We ร่วมเสวนา The Next Chapter "เจาะลึกบทใหม่ ในโลกใบเดิม" โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ดร.สันติธาร เสถียรไทย นักเศรษฐศาสตร์ และคณะกรรมการนโยบายการเงิน ร่วมพูดคุย

เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าข้อสอบเขียนจากคนหรือมาจาก Chat GPT หรือเปล่า นี่เป็นคำพูดของ ศ.พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ มองถึงยุคสมัยแห่งการ เปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วบนโลกใบนี้

โดย อ.สุรเกียรติ์มองว่า เรื่องสังคมผู้สูงวัยที่เป็นกระแสทั่วโลกและในประเทศไทยทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่แก่แต่ไม่รวย แต่เมื่อมอในอาเซียนและเอเชียเราควรเป็นประเทศที่มีการ Reskill และมีสวัสดิการเพราะประเด็นผู้สูงอายุเป็นประเด็นที่ถูกพูดตลอดว่าประเทศไทยเป็นประเทศคนแก่แต่เพื่อนบ้านเป็นประเทศที่เป็นสังคมหนุ่มสาวอยู่

อ.สุรเกียรติ์ มองว่าปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ผ่านมา 5 ปี เป็นสงครามแบบใหม่คือสงครามแบบเศรษฐกิจ เช่นการแข่งขันทางการค้าระหว่าง สหรัฐอเมริกาและจีน หรือแม้กระทั่งเรื่องใกล้ตัวอย่างการซื้อมหาวิทยาลัยและความแข็งแกร่งของค่าเงินหยวน

ส่งผลให้รัฐตอนเหนือของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จีนได้รับการสนับสนุนให้ปลดแอกและต้องการอิสระไม่ว่าจะเป็นกองทัพอาระกันในยะไข่เป็นประเด็นที่เห็นได้ชัด

หรือถามว่าเมียวดีสำคัญอย่างไรต้องบอกว่าเมียวดีนั้นแทบไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามภายในเมียนมาเพราะเป็นพื้นที่ธุรกิจสีดำ สีเทาของทุกฝ่ายหากถล่มเมียวดีนี้ทั้งหมด ก็ต้องสร้างใหม่ภายใน 10 ปี

อ.สุรเกียรติ์มองว่าที่จริงแล้วประเทศแม่น้ำโขงเป็นประเทศที่มีความเซ็กซี่มีโอกาสมากมายแต่ปัจจุบันโอกาสได้หายไปพร้อมกับความร่วมมือของประเทศลุ่มแม่น้ำโขง

สงครามใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นมันเป็นสงครามที่ร่วมกับสงครามแบบเดิมในยุคนี้เป็นเรื่องที่เชื่อมกันจึง

จึงขอเรียกร้องให้เอาเงินที่จะแจกไม่ว่าจะกี่บาทควรเอาไปให้มหาวิทยาลัย Reskill คนในประเทศเสียยังดีกว่า

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ มองว่าผลกระทบการเมืองโลกทางทางอ้อมและทางตรงล้วนส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในประเทศไทยเองที่มีผู้สูงอายุ 19% แต่ไม่ได้ตื่นตัวกับสิ่งนั้นเลยพูดได้ว่าไทยแก่เป็นอันดับสองในอาเซียนรองจากสิงคโปร์

ถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรีจะเดินสายไปไหนอย่างไรก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะไม่ได้แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างแล้วนักลงทุนที่ไหนจะมาลงทุนเพราะสังคมไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่าคนไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะ “แก่ จน เจ็บ” อัตราการเกิดอยู่ในภาวะต่ำอย่างมากในรอบ 71 ปีหากปล่อยให้เป็นแบบนี้จนถึงปี พ.ศ.2585 จะเหลือคนไทยเพียงครึ่งเดียวจากจำนวนประชากรทั้งหมด

\

คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่าเด็กทั้งหมด 57% เกิดในครอบครัวที่ยากจนนั่นเป็นเพราะคุณภาพชีวิตที่ตกต่ำทำให้เกิดการเกิดน้อยโจทก์ใหญ่ที่ต้องแก้คือเรื่องสวัสดิการของประชาชนไม่ใช่นโยบายแจกเงินที่ไม่สามารถดึงจีดีพีได้แต่ต้องแก้ที่โครงสร้าง

น่าคิดว่าตอนนี้เศรษฐกิจโลกมุ่งสู่เอเชียแต่เขาจะเลือกประเทศไทยหรือไม่เพราะประเทศไทยอยู่ในสภาวะแก่แต่ขณะที่ประเทศรอบข้างอยู่ในสภาวะหนุ่มกว่าเราเสียด้วยซ้ำ คุณหญิงกล่าว