'กงสุลใหญ่' เตือนคนไทยอพยพหนีไฟป่าแอลเอ แนะระวังการปล้นสะดม
'กงสุลใหญ่' เตือนคนไทยอพยพหนีไฟป่าแอลเอ แนะระวังการปล้นสะดม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคำสั่งอพยพ น้ำประปาในบางพื้นที่ เริ่มมีสารปนเปื้อน ทำให้ไม่สามารถใช้ดื่มได้ทันที ต้องมีการต้มน้ำให้เดือดก่อน
จากกรณีไฟป่ายังลุกลามอย่างหนักในหลายพื้นที่ของลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามดับไฟ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 16 ราย สูญหาย 13 ราย บ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างถูกไฟเผาผลาญไปแล้วกว่า 10,000 หลัง
ล่าสุดนายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส อัปเดตสถานการณ์ไฟป่าผ่านอินสตาแกรม @thaiconsulatela ระบุข้อความว่า
วันที่ 6 ของสถานการณ์ไฟป่าในนครลอสแอนเจลิส ขณะนี้ดีขึ้นมากแล้ว โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ในหลายๆ จุด ขณะเดียวกัน บางจุดก็สามารถดับเพลิงได้ 100% ส่วนคุณภาพอากาศโดยรวมนั้น ดีขึ้นกว่าหลายวันที่ผ่านมา แต่ยังคงเฝ้าระวังด้วยความไม่ประมาท เพราะคำสั่งอพยพในหลายพื้นที่ยังมีอยู่ ทำให้ประชาชนไม่สามารถกลับเข้าไปในพื้นที่ได้
โอกาสนี้จึงขอขอบคุณและขอชื่นชมอาสาสมัครชาวไทยทุกท่านที่ออกมาระดมความช่วยเหลือ และสนับสนุนพี่น้องคนไทยด้วยกัน
ขอแนะนำให้ประชาชนติดตามข่าวสาร และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมระมัดระวังการปล้นสะดม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคำสั่งอพยพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเข้าไปควบคุมสถานการณ์แล้ว โดยส่งหน่วย National Guard เข้าไป เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายฉวยโอกาสในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ขอเตือนเรื่องการบริโภคน้ำประปาในบางพื้นที่ เนื่องจากเริ่มมีสารปนเปื้อน ทำให้น้ำไม่สามารถใช้ดื่มได้ทันทีจึงต้องมีการต้มน้ำให้เดือดก่อน นอกจากนี้ ยังขอให้ระวังลมกระโชกแรงด้วย พยากรณ์อากาศ แจ้งว่าระหว่างวันที่ 13-15 ม.ค. นี้ ลมจะกลับมารุนแรงขึ้น จึงอาจส่งผลให้มีโอกาสเกิดไฟป่าอีกครั้ง
สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในการช่วยเหลือคนไทยแล้ว ทั้งนี้ หากมีผู้ประสบภัย สามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 323-962-9574 หรือที่หมายเลขฉุกเฉิน 323-580-4222 ตลอด 24 ชั่วโมง
คำแนะนำสำหรับผู้ประสบภัย
- โทรศัพท์แจ้งหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง หรือหมายเลข 911
- ประเมินสถานการณ์หากต้องเตรียมการอพยพออกจากพื้นที่/รับฟังข่าวสารจากทางราชการ
- นำเอกสาร/สิ่งของสำคัญไว้ในกระเป๋าเดินทาง มีความพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่
- จัดเตรียม Emergency Kit ให้พร้อม
ช่องทางการติดตามข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับไฟป่า (คลิ๊กที่นี่)
ที่มา : IG thaiconsulatela
