ทำความรู้จัก "พระตำหนักเวนคอร์ต" สถานที่ที่ "รัชกาลที่ 7-สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ" ทรงประทับหลังการสละราชสมบัติ ช่วงปี 2480-2482 หลังเจ้าของประกาศขายราคา 172 ล้านบาท
จากกรณีที่เว็บไซต์ขายบ้านในประเทศอังกฤษ inigo.com ได้มีการประกาศขายพระตำหนักเวนคอร์ต พระตำหนักที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ที่เคยประทับหลังการสละราชสมบัติ ในช่วงระหว่างปี 2480-2482 ประกอบด้วยห้องนอน 7 ห้อง ห้องนั่งเล่นและห้องอเนกประสงค์หลายห้อง บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 5.36 เอเคอร์ ล้อมรอบด้วยสวนและสระอันเงียบสงบ พร้อมสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส และโรงจอดรถสำหรับรถ 4 คัน โดยเจ้าของปัจจุบันได้ปรับปรุงซ่อมแซมอย่างครอบคลุม และตั้งราคาขายไว้ที่ 3,950,000 ปอนด์ (ประมาณ 172,988,470 บาท)
พระตำหนักเวนคอร์ท ณ หมู่บ้านบิ้ดเด็นเด็น ใกล้เมืองแอชฟอร์ด ในจังหวัดเคนท์ ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 200 ไมล์ โดยที่บริเวณนั้นอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีอากาศบริสุทธิ์ ร่มรื่นสวยงาม และภูมิอากาศที่ดีกว่าเวอร์จิเนียร์ วอเตอร์ เพราะใกล้ทะเลมากกว่า
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเข้าประทับเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2480 ลักษณะของพระตำหนักเวนคอร์ตเป็นตึกผนังปูนสีขาวประกบท่อนไม้โอ้ค ทาสีดำแบบทิวเดอร์ คานค้ำพื้นชั้นบนที่เพดานเป็นท่อนซุงใหญ่ เช่นกัน ความเก่าแก่ทำให้พื้นมีความลาดเอียงถึงขนาดที่สิ่งใดอยู่บนพื้นกลิ้งไปอีกห้องหนึ่งได้
ณ พระตำหนักเวนคอร์ตนี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงพระสำราญมาก พระจริยวัตรประจำวันที่ทรงโปรดปรานมากที่สุด คือ เสด็จลงทำสวนและปลูกต้นคาร์เนชั่น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงวางผังปลูกต้นไม้และไม้ดอกด้วยพระองค์เองทั้งสองพระองค์ทรงช่วยกันปลูก และแยก ตัดใบ คอยดูแลรักษาต้นคาร์เนชั่นที่ทรงปลูกไว้ในเรือนกระจก ที่มีไฟฟ้าให้ความร้อนให้ภายในเรือนกระจกอบอุ่นและมีอุณหภูมิที่สม่ำเสมอ ดอกคาร์เนชั่นจึงงดงามและมีสีสันต่าง ๆ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงตัดดอกไม้มาปักแจกันไว้ตามห้องต่าง ๆ ในพระตำหนักทุกวัน
ทั้งสองพระองค์โปรดเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรดอกไม้ในสวน มีสะพานเล็ก ๆ มีบ่อน้ำทรงเลี้ยงเป็ดเทศไว้หลายพันธุ์ ทรงประทับริมบ่อน้ำและประทานขนมปังโยนลงให้เป็ด
ทรงเพลิดเพลินในการทอดพระเนตรพวกเป็ดเทศสีสวย ซึ่งว่ายวนอยู่ระหว่างกอไผ่ที่อยู่กลางสวนดอกไม้ บางตัวก็เดินขึ้นไปบนบกเข้าไปในบ้านเล็ก ๆ ที่สร้างไว้บนเนินเขาเตี้ย ๆ ริมบ่อให้เป็นที่พักและฟักไข่ได้
ขณะที่ หนังสือพิมพ์ Sunday Dispatch เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2481) ได้รายงานจากหมู่บ้านบิ้ดเด็นเด็น ระบุว่า “บรรดาชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ต่างรักและเทิดทูนพระองค์ด้วยทรงพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาคุณ (generosity and kindness) พวกเขาได้เฝ้าฯ บ่อย ๆ เพราะแทนที่จะทรงสั่งซื้อของและให้ร้านในเมืองไปส่งที่พระตำหนัก กลับทรงจักรยานตามถนนเล็ก ๆ ของหมู่บ้าน เพื่อทรงจับจ่ายจากร้านในหมู่บ้าน โดยคำนึงถึงความเป็นธรรมมาก เพราะสัปดาห์หนึ่งจะทรงซื้อของที่ร้านหนึ่ง อีกสัปดาห์หนึ่งที่อีกร้านหนึ่ง อีกสัปดาห์ที่อีกร้านหนึ่ง โปรดที่จะทรงซื้อช็อคโกแลตที่ร้านกาแฟประจำหมู่บ้านทำเองและบางครั้งเสวยพระกระยาหารมื้อย่อมๆ ที่ร้านนั้นด้วยในช่วงฤดูร้อน ทรงพระกรุณาทำหน้าที่ ‘มูลนาย’ (Squire) ประจำหมู่บ้าน โดยทรงเป็นองค์ประธานพระราชทานถ้วยรางวัลในงานประกวดดอกไม้ และงานแข่งม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ประทับอยู่ที่เวนคอร์ตระหว่างเดือนตุลาคม พ.ศ.2480 ถึงประมาณเดือนกันยายน พ.ศ.2482 ครั้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2484 ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ จะเสด็จสวรรคตในวันที่ 30 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2484 พระตำหนักนี้ถูกยึดครองโดยฝ่ายทหารอังกฤษเพื่อใช้เป็นกองบัญชาการแห่งหนึ่ง จากนั้นได้เปลี่ยนเจ้าของหลายครั้งโดยครั้งหนึ่งเคยอยู่ในมือเจ้าของบริษัทขายเมล็ดพันธุ์ดอกไม้และพืชผัก ปัจจุบันเป็นบ้านส่วนบุคคล
ที่มา : ห้องสมุด มสธ. , inigo.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง