SHORT CUT
ชุดลงเครื่องก็สำคัญ ย้อนดูความเป๊ะปังของ 2 สตรีระดับโลก ทั้งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และสมเด็จพระราชินีนาถของไทย
การทูตระหว่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญในห้วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาของการแข่งขันทางการเมืองระดับโลก รวมถึงด้านเศรษฐกิจ ที่จะต้องต่อรองเจรจาผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน
เพราะฉะนั้นมารยาทการเข้าหา รวมถึงการแต่งตัวเพื่อพบปะผู้นำประเทศของประเทศที่ไปเยือนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก รวมถึงเรื่องการแต่งกายที่เปะปัง และให้ถูกต้องตามสากล
แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้นำโลกทุกคนต้องรับรู้ถึงมารยาทสากลว่าต้องแต่งตัวและวางตัวเช่นไร ตัวอย่างเช่น มากาเร็ต แทชเชอร์ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอังกฤษ เจ้าของสมญานามนายกรัฐมนตรีหญิงเหล็ก และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ต่างแต่งตัวอย่างสง่างาม และถูกต้องตามมารยาทสากล ถูกกล่าวขานว่าเป็นผู้ที่วางตัวเหมาะสมในการไปเยือนต่างประเทศเสมอมา
อีกคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าแต่งกายอย่างเหมาะสมในการไปเยือนมิตรประเทศ คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 12 สตรีที่แต่งกายงามที่สุด
ในห้วงบริบทที่พระองค์เยือนต่างประเทศประเทศไทยอยู่ในยุคสงครามเย็น และต้องดำเนินนโยบายทางการทูตมากมาย ทำให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงงานหนักเพื่อจะสานสัมพันธ์กับนานาประเทศ
การแต่งกายของพระองค์ล้วนมีวัตถุประสงค์ และทำให้เหมาะสมกับมารยาทสากลเสมอมา ที่สำคัญพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างมาก ทรงนำเอาศิลปะและลวดลายไทยมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบเครื่องแต่งกาย ทำให้เกิดชุดไทยพระราชนิยมที่งดงามและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
พระองค์ทรงติดตามแฟชั่นโลกอย่างใกล้ชิด และนำเอาแนวคิดใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้กับการออกแบบชุดไทย ทำให้ชุดไทยมีความทันสมัยและไม่ตกยุค
พระองค์ทรงมีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ ทรงออกแบบชุดแต่งกายเองหลายชุด และทรงเลือกใช้วัสดุที่หลากหลาย ทำให้เกิดชุดแต่งกายที่สวยงามและไม่ซ้ำใคร
พระองค์ทรงมีพระราชดำริที่จะส่งเสริมผ้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล จึงทรงนำเอาผ้าไทยมาใช้ในการตัดเย็บชุดแต่งกายในโอกาสสำคัญๆ ทำให้ผ้าไทยได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาด
อิทธิพลที่เห็นได้ชัด
ชุดไทยพระราชนิยม คือชุดไทยที่ทรงออกแบบขึ้นเอง มีความสวยงามสง่าและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
การนำผ้าไทยมาประยุกต์ใช้ ทรงนำเอาผ้าไทยมาใช้ในการตัดเย็บชุดแต่งกายในหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผ้าไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับสากล
การส่งเสริมงานหัตถกรรม ทรงสนับสนุนให้ช่างฝีมือไทยได้พัฒนาทักษะและสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
และในการเสด็จพระราชดำเนินไปต่างประเทศพระองค์ทรงรู้มารยาทสากล และแต่งกายเป็นที่จดจำและประทับใจอยู่เสมอมา
มาร์กาเร็ต แทชเชอร์ เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 1925 ที่แคว้นลินคอร์นเชียร์ทางตอนเหนือของอังกฤษ เธอมีแววของการเป็นผู้นำมาตั้งแต่สมัยเรียนเธอศึกษาวิชาเคมีที่วิทยาลัยซอมเมอร์วิลล์ เมืองอ็อกฟอร์ด และดำรงตำแหน่งประธานสมาคมอนุรักษ์แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด โดยเป็นผู้หญิงคนที่ 3 ที่ดำรงตำแหน่งนี้
ปี 1949 แทชเชอร์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในนามของพรรคอนุรักษนิยมในการชิงที่นั่งในเมืองดาร์ทฟอร์ท มณฑลเค้นท์แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะไม่ชนะการเลือกตั้งแต่เธอได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนอย่างล้นหลามจนโดดเด่น และถูกสื่อมวลชนจับตามองในนักการเมืองรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง
ครั้งหนึ่งเธอเคยตอบคำถามของพิธีกรรายการโทรทัศน์ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่วันหนึ่งเธออาจจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษในตอนนั้นนางแธตเชอร์บอกว่า เธอไม่เชื่อว่าในชีวิตเธอจะได้เห็นผู้หญิงขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ 6 ปีหลังจากที่เธอเอ่ยประโยคนี้เธอได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอังกฤษ
แทชเชอร์ได้ฉายา "สตรีเหล็ก" หรือ Iron Lady จากสื่อมวลชนของรัสเซียเมื่อปี 1976 เนื่องจากเธอวิจารณ์นโยบายของอดีตสหภาพโซเวียตอย่างเผ็ดร้อนทำให้หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวโดยเรียกเธอว่า "สตรีเหล็ก" เป็นฉายาที่สะท้อนบุคลิกภาพของเธอได้อย่างชัดเจนในฐานะผู้นำหญิงที่บริหารด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
ด้วยบุคลิกภาพของเธอ ทำให้เธอดูเป็นคนเด็ดเดี่ยว และน่าเกรงขาม จนบางคนขยาดเธอ แต่กระนั้นในยุคของเธอ เธอได้บินไปพบปะผู้นำโลกมากมายและแต่งตัวเหมาะสม และดึงดูดสายตาสื่อเสมอจากการที่เธอปรากฏกายขณะลงเครื่องบิน และชุดของเธอยังสะท้อนถึงความเป็นสากล และการให้เกียรติประเทศที่ไปเยือนเสมอมา
อ้างอิง
มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ / NYTimes /
ข่าวที่เกี่ยวข้อง