SHORT CUT
สหรัฐอเมริกาส่งคืน "ภาชนะบ้านเชียง" อายุมากกว่า 2,000 ปี สู่ทางการไทย ในวันสากลเพื่อต่อต้านการลักลอบค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรม
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย องค์การยูเนสโก้ และทางการไทย ได้จัดพิธีส่งคืนโบราณวัตถุบ้านเชียงเนื่องในวันสากลเพื่อการต่อต้านการลอบค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรม เนื่องในโอกาสวันสากลเพื่อต่อต้านการลักลอบค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรม
วัตถุโบราณดังกล่าวเป็นภาชนะเครื่องปั้นสมัยบ้านเชียง ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี โดยก่อนหน้านี้กรมศิลปากรได้รับการประสานงานจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยว่า ได้พบวัตถุโบราณเก็บรักษาไว้ในสำนักงาน ซึ่งคาดว่ามีผู้นำไปมอบให้แก่บุตรชายของอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509
กรมศิลปากรได้ไปตรวจพิสูจน์โบราณวัตถุจึงพบว่าเป็นภาชนะสมัยบ้านเชียงที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปีจริง โบราณวัตถุดังกล่าวมีลวดลายเขียนสีแดงเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องปั้นดินเผาจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนว่าเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอส่งคืนให้กับทางการไทย
แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง เป็นที่ตั้งรกรากและสถานที่ฝังศพของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี มีอายุมากกว่า 3,500 ปี โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางของวิวัฒนาการทางวัฒนธรรม สังคม และเทคโนโลยีของมนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างอิสระในพื้นที่อนุภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
หลังจากนี้ ทางการไทยได้มีการประสานขอคืนโบราณวัตถุจากสหรัฐอเมริกาอีก 2 ชิ้น ซึ่งมีลักษณะเป็นประติมากรรมรูปเคารพในศาสนาฮินดู มีหลักฐานว่าถูกนำออกไปจากประเทศไทย โดยจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิสูจน์ประวัติศาสตร์ศิลปะ และเข้าสู่คณะกรรมการเพื่อพิจารณาขอรับโบราณวัตถุคืน โดยไทยมีความร่วมมือทางวัฒนธรรมที่ดีและแน่นแฟ้นมากขึ้นกับสหรัฐอเมริกา