เปิดใจ "กฤษอนงค์" ปัดตบทรัพย์เหยื่อ "ดิไอคอน" รู้จักบอสพอล 10 ปีแต่ไม่สนิท
"กฤษอนงค์" เปิดใจปัดตบทรัพย์ดิไอคอน แค่ช่วยผู้เสียหายให้ได้เงินคืน รับรู้จัก "บอสพอล" มาเกือบ 10 ปี แต่ถึงขั้นไม่สนิท พร้อมเตือนให้แก้ธุรกิจ ไม่อย่างนั้นจะเอาไม่อยู่
ถือได้ว่าเป็นอีกตัวละครใหม่ในคดีใหญ่ระดับประเทศอย่าง “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” สำหรับ “กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” หัวหน้าพรรคสุวรรณภูมิ และนักเคลื่อนไหวต่อต้านธุรกิจแชร์ลูกโซ่ และเจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ “กฤษอนงค์ต้านโกง”
โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา “กฤษอนงค์” ออกมาเคลื่อนไหวอยู่ข้าง “ผู้เสียหาย” ในคดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” เคยไปแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านรายการชื่อดัง อย่างไรก็ดีถัดจากนั้นไม่นาน มีการปล่อยข่าวมาว่า นักร้องเรียนหญิงรายหนึ่งอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแชร์ ตบทรัพย์จาก ดิไอคอนกรุ๊ป 10 ล้านบาท
ประเด็นดังกล่าวทำให้มีการเชื่อมโยงไปยังนักร้องเรียนหญิงหลายคน ซึ่งทั้งหมดต่างออกมาปฏิเสธ เช่นเดียวกับ “กฤษอนงค์” ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการชื่อดังหลายแห่ง ปฏิเสธข้อเท็จจริงเรื่องนี้เช่นกัน แต่ยอมรับว่า เคยรู้จักกับ “บอสพอล” วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของอาณาจักร “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” มานานจริง เนื่องจากเคยเป็นคนวงการเดียวกัน แต่ไม่ได้สนิทสนมกัน นอกจากนี้เธอยังยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับการตลาดแบบตรงจริง แต่เลิกกิจการมานานมากแล้ว
หลังจากเรื่องดิไอคอนกรุ๊ปมีการร้องเรียน อดีตภรรยาของบอสพอลได้ติดต่อเข้ามา ขอให้ตนมาเคลียร์กับบอสพอล พร้อมเสนอเงินให้ แต่ไม่ได้ระบุจำนวน จากนั้นก็ได้นัดวันคุยกันตามปกติ ซึ่งในวันที่คุยกันบอสพอลก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ตนจึงบอกว่าจะไม่ผิดได้อย่างไร มีผู้เสียหายมาร้องเรียนหลายราย ถ้าจะเคลียร์ต้องไปเคลียร์กับผู้เสียหาย ตนจึงให้มีการเคลียร์กันที่ออฟฟิศระหว่างผู้เสียหาย และบอสพอล ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีทนายความอยู่ด้วย
โดยย้อนหลังไปเมื่อ 3-4 เดือนก่อนที่ดิไอคอน จะเป็นคดีความ มีผู้เสียหายประมาณกว่า 80 คน ติดต่อมาว่าให้ช่วยเรียกร้องค่าเสียหายจากดิไอคอนฯ ตนจึงเป็นตัวกลางไปคุยกับบอสพอล โดยมีค่าเสียหายรวม 15 ล้านบาท แต่บอสพอลเจรจาขอจ่ายครึ่งหนึ่ง คือ 8 ล้านบาท ผู้เสียหายก็ยินยอม และนัดกันไปจ่ายเงินที่สำนักงานของตน
หลังเจรจาไปเจรจามา บอสพอลขอจ่ายค่าเสียหายครึ่งหนึ่ง จนเหลือจ่ายตรงไปยังผู้เสียหายจำนวน 8 ล้านบาท เงินเข้าผู้เสียหาย ไม่ได้เข้ามาที่ตนแต่อย่างใด และตนได้บอกผู้เสียหายว่าเบื้องต้นไม่ต้องจ่ายอะไรให้ กลับกันตนเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำผู้เสียหายเป็นเดือนผ่านเงินกองทุนของตน ตลอด 3 วันที่มีการเจรจาตนก็เป็นคนดูแล
โดยบรรดา 3 บอสก็นำเงินสดใส่ซองมายื่นให้ผู้เสียหายเอง ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรเลย แต่ก็มีผู้เสียหาย 5 ราย ที่ไม่สามารถมารับเงินเองได้ ดิไอคอนจึงโอนเงินเข้ามาที่บัญชีมูลนิธิฯ 450,000 บาท ซึ่งตนก็โอนต่อให้ผู้เสียหายทันที
หลังจากนั้นผู้เสียหายได้มาถามตนว่ามาช่วยเหลือครั้งนี้แล้วคุณกฤษอนงค์ได้อะไร ตนก็บอกไปว่าสิ่งนี้เป็นนโยบายพรรคตนที่ทำมานาน การช่วยเหลือครั้งนี้นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังเป็นการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือการแก้กฎหมาย
ประเด็นเรื่องส่วนแบ่ง 20% ที่ถูกกล่าวอ้างว่าจ่ายให้กับผู้ร้องเรียน กฤษอนงค์ชี้แจงว่าผู้เสียหายได้ถามว่าแล้วตนเองได้อะไรจากการช่วยเหลือ ซึ่งทางผู้เสียหายหลังจากได้เงินแล้วก็อยากจะสนับสนุนตนเอง โดยตนเองไม่ได้บังคับให้มีการโอน ไม่มีการพูดว่า ต้องโอนให้ตนเอง 20% มีแกนนำของผู้เสียหาย ที่มีการพูดคุยตกลงในกลุ่มผู้เสียหายว่าให้โอนสนับสนุน จึงให้โอนเงินผ่านกองทุนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี money game แชร์ลูกโซ่ ซึ่งเงินเหล่านี้ก็จะนำไปใช้ช่วยเหลือผู้เสียหายรายอื่นๆ ต่อไป
ตนมีกองทุน หากอยากสนับสนุนให้มีเงินไปช่วยคนอื่นต่อ อยากทำงานวิชาการ อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ หากอยากสนับสนุนก็บริจาคมาตามสะดวก ไม่บังคับการเป็นพอ ซึ่งตนก็เป็นเหมือนตัวกลางในการเคลียร์ระหว่าง 2 ฝ่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
