svasdssvasds

เดนมาร์กเป็นประเทศแรกของโลก เปิดให้คู่รักเพศเดียวกัน จดทะเบียนสมรส

เดนมาร์กเป็นประเทศแรกของโลก เปิดให้คู่รักเพศเดียวกัน จดทะเบียนสมรส

เดนมาร์กเป็นประเทศแรกของโลก เปิดให้คู่รักเพศเดียวกัน จดทะเบียนสมรส เมื่อ 35 ปี ก่อนสะท้อนคุณค่าของมนุษย์ที่มากกว่าเรื่องเพศสภาพ

SHORT CUT

  • สมรสเท่าเทียมเป็นเรื่องสำคัญที่โลกให้ความสำคัญมานาน เพราะเป็นการสะท้อนคุณค่าของมนุษย์ ที่ไม่ได้ยึดติดกับเพศสภาพ แต่ให้คุณค่ากับความเป็นคน
  • เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ในอดีต เดนมาร์กก็มีระบบความเชื่อและค่านิยมที่ชายเป็นใหญ่ ผู้หญิง รวมถึง LGBTQ มีบทบาทจำกัดในสังคม
  • ในที่สุดปี ค.ศ. 1989 เดนมาร์กได้เป็นประเทศแรกของโลกที่ให้การรับรองสถานภาพคู่รักเพศเดียวกันในฐานะ Domestic Partners หรือการอยู่กินด้วยกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เดนมาร์กเป็นประเทศแรกของโลก เปิดให้คู่รักเพศเดียวกัน จดทะเบียนสมรส เมื่อ 35 ปี ก่อนสะท้อนคุณค่าของมนุษย์ที่มากกว่าเรื่องเพศสภาพ

วันที่ 1 ตุลาคม ดูเหมือนจะเป็นวันทั่วๆ ไปสำหรับใครหลายคน แต่ที่เดนมาร์กเมื่อ 35 ปี ก่อนนั้นไม่ใช่วันธรรมดา เพราะเป็นวันที่ประเทศเดนมาร์เปิดจดทะเบียนคู่รักเพศเดียวกันตามกฎหมายเป็นที่แรกของโลก

และเมื่อไม่นานมานี้ประเทศไทยได้มีการประกาศราชกิจจานุเบกษา ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2025

เป็นที่แน่ใจแล้วว่าเรื่องสมรสเท่าเทียมเป็นเรื่องสำคัญที่โลกให้ความสำคัญมานาน เพราะเป็นการสะท้อนคุณค่าของมนุษย์ ที่ไม่ได้ยึดติดกับเพศสภาพ แต่ให้คุณค่ากับความเป็นคนมากกว่านั่นเอง

 

สังคมเดนมาร์กก่อนมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม

ต้องบอกก่อนว่าเดนมาร์กในปี ค.ศ. 1989 หรือเมื่อ 35 ปีก่อน เป็นสังคมชาวคริสต์ทั่วๆ ไป ที่ยังมีความเคร่งในเรื่องของศาสนา

เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ในอดีต เดนมาร์กก็มีระบบความเชื่อและค่านิยมที่ชายเป็นใหญ่ ผู้หญิงมีบทบาทจำกัดในสังคม และถูกกำหนดให้ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจง เช่น งานบ้าน เลี้ยงลูก เป็นต้น การเหยียดเพศในอดีตอาจแสดงออกในรูปแบบที่แตกต่างจากปัจจุบัน เช่น การจำกัดสิทธิในการศึกษา การทำงาน การมีทรัพย์สิน หรือการตัดสินใจในครอบครัว

ประกอบกับระบบความเชื่อ ในอดีต มีความเชื่อที่ว่าผู้หญิงมีบทบาทรองจากผู้ชาย และควรทำหน้าที่ดูแลบ้านและครอบครัว โครงสร้างทางสังคม โครงสร้างที่เอื้อต่อการแบ่งแยกทางเพศ ผู้ชายมีอำนาจในการตัดสินใจในครอบครัวและสังคม กฎหมายและนโยบายในอดีตมักจะเอื้อประโยชน์ต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิง รวมถึง LGBTQ+

 

การเหยียด LGBTQ+ ของเดนมาร์กในอดีต

ในขณะที่สังคมเดนมาร์กเป็นสังคมที่ไม่เท่าเทียมระหว่างชายกับหญิงนั้น LGBTQ+ เนื่องจากความเชื่อทางศาสนา ในอดีตศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ซึ่งเป็นศาสนาหลักของเดนมาร์ก มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของคนในสังคมอย่างมาก โดยมองว่าความหลากหลายทางเพศเป็นสิ่งผิดบาป

ค่านิยมทางสังคมในอดีตให้ความสำคัญกับครอบครัวแบบดั้งเดิม และมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่ไม่ปกติและไม่เป็นที่ยอมรับ

กฎหมายและนโยบายในอดีตมักจะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มคนส่วนใหญ่ และไม่ได้ให้ความคุ้มครองแก่กลุ่ม LGBTQ+ ประกอบกับความไม่รู้และความกลัวต่อสิ่งที่แตกต่าง ทำให้เกิดอคติและการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่ม LGBTQ+

เดนมาร์กในวันที่ก้าวสู่ประเทศจดทะเบียนคู่รักเพศเดียวกันตามกฎหมายเป็นที่แรกของโลก

แต่กระนั้นยุคสมัยเปลี่ยนไป ประกอบกับความเชื่อทางศาสนามีอิทธิพลน้อยลงในสังคมเดนมาร์ก และการศึกษาในยุโรปมีส่วนกระตุ้นให้คนรู้สึกถึงความเป็นปัจเจก สิทธิในการดำรงอยู่ของตนเอง และยอมรับสังคมที่หลากหลาย

ทำให้ภาคประชาชน รวมถึงกลุ่ม LGBTQ+ เรียกร้องความเท่าเทียมในประเทศด้านการจดทะเบียนสมรสอย่างถูกกฎหมาย

ในที่สุดปี ค.ศ. 1989 เดนมาร์กได้เป็นประเทศแรกของโลกที่ให้การรับรองสถานภาพคู่รักเพศเดียวกันในฐานะ Domestic Partners หรือการอยู่กินด้วยกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการยอมรับความหลากหลายทางเพศในยุโรป

โดยรัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมในสมัยนายกรัฐมตรี เพาล์ ชลูเทอร์ ที่ให้การสนับสนุน ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ

หลังจากเดนมาร์กเริ่มนำร่อง ประเทศอื่นๆ ในยุโรปรวมถึงทั่วโลกก็ทยอยให้การรับรองสิทธิในการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันมีหลายสิบประเทศทั่วโลกที่อนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานกันได้

อ้างอิง

ข่าวต่างประเทศ / Hmong /

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related