สมรสเท่าเทียม ผ่านแล้ว LGBTQ+ ต่างชาติมาจดทะเบียนที่ไทยได้ !
รู้หรือไม่ LGBTQ+ ต่างชาติมาจดทะเบียนที่ไทยได้! หาก 'สมรสเท่าเทียม' ประกาศใช้ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบนแผ่นดินไทยจะเป็นคู่สมรสกันได้แบบมีกฎหมายรองรับ
SHORT CUT
- หาก 'สมรสเท่าเทียม' ประกาศใช้เรียบร้อยแล้ว ไทยก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศจุดหมายให้ชาว LGBTQ+ ในต่างแดนเข้ามาจดทะเบียนสมรส ด้วย
- หากชาว LGBTQ+ ต่างชาติ เข้ามาจดทะเบียนสมรสกับคนไทย ก็จะได้รับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายไทย
- หาก เป็นคู่รัก LGBTQ+ ต่างชาติ ที่เลือกมาจดทะเบียนในไทย ก็สามารถนำไปยืนยันสถานะที่บ้านเกิดตัวเองได้ หากเป็นประเทศที่มีกฎหมายรอง
รู้หรือไม่ LGBTQ+ ต่างชาติมาจดทะเบียนที่ไทยได้! หาก 'สมรสเท่าเทียม' ประกาศใช้ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบนแผ่นดินไทยจะเป็นคู่สมรสกันได้แบบมีกฎหมายรองรับ
นับเป็นเรื่องน่ายินดี และถือเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์โดยแท้ เมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านชั้นวุฒิสภาไทยเป็นที่เรียบร้อย และถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน หลังประกาศราชกิจจานุเบกษา หรือในช่วงเดือนกันยายน 2567
ทั้งนี้ เมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมประกาศใช้ จะทำให้พี่น้องชาว LGBTQ+ ได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ สิทธิในการแก้ไขคำว่า ชาย-หญิง-สามี-ภริยา เป็นคำว่า บุคคล-ผู้หมั้น-ผู้รับหมั้น และคู่สมรส เพื่อให้มีสิทธิจัดการทรัพย์สินคู่สมรส สิทธิเป็นผู้จัดการแทนในทางอาญา สิทธิรับมรดกหากอีกฝ่ายเสียชีวิต สิทธิรับบุตรบุญธรรม และอื่นๆ อีกมาก
ต่างชาติเข้ามาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมในไทยได้
ส่วนเรื่องที่ไม่รู้ไม่ได้ และน่ายินดีอย่างยิ่งหาก 'สมรสเท่าเทียม' ประกาศใช้เรียบร้อยแล้ว นอกจากคู่รัก LGBTQ + ชาวไทย จะไม่ต้องเดินทางไปจดทะเบียนสมรสในต่างประเทศแล้ว เพราะสามารถทำที่ไทยได้ ไทยก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศจุดหมายให้ชาว LGBTQ+ ในต่างแดนเข้ามาจดทะเบียนสมรส ด้วยเช่นกัน
หากชาว LGBTQ+ ต่างชาติ เข้ามาจดทะเบียนสมรสกับคนไทย ก็จะได้รับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายไทย ไม่ต่างอะไรกับชาวต่างชาติปกติที่เข้ามาจดทะเบียนกับคนไทย แบบชายรักหญิง
แต่ถ้าหาก เป็นคู่รัก LGBTQ+ ต่างชาติ ที่เลือกมาจดทะเบียนในไทย ก็สามารถนำไปยืนยันสถานะที่บ้านเกิดตัวเองได้ หากเป็นประเทศที่มีกฎหมายรองรับสมรสเท่าเทียม เช่น สหรัฐฯ เบลเยียม เนเธอแลนด์ หรือสหราชอาณาจักร ส่วนในกรณีที่บ้านเกิดไม่มีกฎหมายรองรับสมรสเท่าเทียม แต่การมาจดทะเบียนสมรสที่ไทย ก็ถือว่าเป็นการมาเปิดเผยตัวตนและคู่รักในเชิงสัญลักษณ์ที่สวยงาม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และฟื้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างดี เนื่องจาก ชาว LGBTQ+ เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพทางการใช้จ่ายสูง
นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ของการทำให้ประเทศไทยมีความเท่าเทียมทางเพศในทุกมิติ หลังจากรอคอยกันมากกว่า 1 ทศวรรษ ซึ่งต่อจากนี้ พี่น้อง LGBTQ+ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติบนแผ่นดินไทยจะเป็นคู่สมรสกันได้แบบมีกฎหมายรองรับ ดั่งที่ “นายวราวุธ ศิลปะอาชา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กล่าวในงานเฉลิมฉลองที่ทำเนียบฯ หลังกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน เอาไว้ว่า “If You Want To Get Married, Please Come to Thailand”
ส่วนประเด็นที่ว่า การใช้กฎหมายฉบับนี้จะเกิดปัญหาตามมา หรือเป็นการทำลายสถาบันครอบครัวอย่างที่บางฝ่ายกังวลหรือไม่นั้น คงต้องรอติดตามดูกันต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
