svasdssvasds

64 ปี "อายิโนะโมะโต๊ะ" แซ่บนัว คู่ครัวไทย วันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป?

64 ปี "อายิโนะโมะโต๊ะ" แซ่บนัว คู่ครัวไทย วันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป?

เชื่อว่าหลายครัวเรือน และร้านอาหารต่างๆ จะขาด "อายิโนะโมะโต๊ะ" ไม่ได้ เพราะตำนานแห่งความนัวอยู่ที่นี่ รู้หรือไม่ว่า? อายิโนะโมะโต๊ะ อยู่ในไทยกว่า 64 ปี แซ่บนัว คู่ครัวไทยมายาวนาน พามาดูวันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป?

SHORT CUT

  • อาหาร จะให้แซ่บนัว ให้อร่อยถูกปากคนไทย เชื่อว่าหลายคนจะนึกถึงการเติมผงชูรส เพื่อเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น และคนส่วนใหญ่จะนึกถึงอายิโนะโมะโต๊ะ
  • อายิโนะโมะโต๊ะ แซ่บนัว คู่ครัวไทย มา 64 ปี แล้ว ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และ แตกไลน์ธุรกิจใหม่ไปเรื่อยๆ
  • นอกจากนี้ได้เปิด "แอปพลิเคชัน i-LiveWell - แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน" โดยใช้งบลงทุน 10 ล้านบาท 

เชื่อว่าหลายครัวเรือน และร้านอาหารต่างๆ จะขาด "อายิโนะโมะโต๊ะ" ไม่ได้ เพราะตำนานแห่งความนัวอยู่ที่นี่ รู้หรือไม่ว่า? อายิโนะโมะโต๊ะ อยู่ในไทยกว่า 64 ปี แซ่บนัว คู่ครัวไทยมายาวนาน พามาดูวันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป?

เรื่องอาหารการกิน จะให้แซ่บนัว ให้อร่อยถูกปากคนไทย เชื่อว่าหลายคนจะนึกถึงการเติมผงชูรส เพื่อการเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น และคนส่วนใหญ่จะนึกถึง อายิโนะโมะโต๊ะ ที่แซ่บนัว คู่ครัวไทย มานานกว่า 64 ปี แล้ว และยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และ แตกไลน์ธุรกิจใหม่ออกไปเรื่อยๆ จากวันนั้น จนถึงวันนี้ อายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

  • เป็นแบรนด์ที่เข้าชิงตลาดเครื่องปรุงรส 2.5 หมื่นล้าน
  • ปัจจุบันผลประกอบการ 3.2 หมื่นล้าน
  • มีส่วนแบ่งตลาดผงชูรส 93 %
  • มีส่วนแบ่งตลาดรสดี 89 %
  • มีส่วนแบ่งตลาดกาแฟกระป๋อง 54 %
  • ขยายธุรกิจใหม่ แอปฯ i-LiveWell
  • ลุยธุรกิจอาหารเสริม กรดอะมิโน
  • ลุยพันธกิจรักษ์โลก ดังนี้

-ลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 50% ในปี 2030

-เร่งอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ 80% ในปี 2030

-ลดขยะพลาสติกเป็นศูนย์ ในปี 2030

-ลดปริมาณของเสียอาหาร ลง 50% ในปี 2025

-การจัดซื้อจัดจ้างต้องยั่งยืน 100% ในปี 2030

64 ปี \"อายิโนะโมะโต๊ะ\" แซ่บนัว คู่ครัวไทย วันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป?

ล่าสุด นาย อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทอายิโนะโมะโต๊ะประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าตลาดเครื่องปรุงรสไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดผงชูรส 15,000 ล้านบาท และกลุ่มเครื่องปรุงรสอื่นๆ อีก 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ มองว่า ในปัจจุบันตลาดเครื่องปรุงรสกำลังเผชิญกับวิกฤตราคาวัตถุดิบ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกาแฟและมันสำปะหลัง ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในปีนี้

64 ปี \"อายิโนะโมะโต๊ะ\" แซ่บนัว คู่ครัวไทย วันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป?

จึงได้ส่งผลให้บริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ ตัดสินใจปรับขึ้นราคาผงชูรส 4% เฉพาะขนาดถุงใหญ่ ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคาผงชูรสครั้งนี้ถือเป็นการปรับขึ้นรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2565 ที่เคยมีการปรับขึ้นราคาไปประมาณ 10% สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสอื่นๆ ทางบริษัทยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุน เพื่อชะลอการขึ้นราคาสินค้า ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน กลับมาทานอาหารนอกบ้านมากขึ้นส่งผลให้กลุ่มร้านอาหารข้างทางใช้ผงชูรสเพิ่มขึ้น

 

สำหรับแผนลงทุนใหม่ปี 2567-2573 จะมีแผนใช้งบลงทุน 4.4 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะใช้งบในส่วนไหนบ้าง  แต่ปีนี้ทางบริษัทมีแผนจะเน้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีกรดอะมิโน เพื่อรองรับตลาดผู้สูงอายุและรักสุขภาพที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ใน 4 หมวดหมู่ คือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกรดอะมิโนสำหรับการนอนหลับ โภชนาการกีฬา บำรุงร่างกายและบิวตี้ ซึ่งในปีนี้จะมีการออกสินค้าใหม่  2 รายการของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และอีก 10  รายการจากสินค้าอื่นๆ

อย่างไรก็ตามสำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ ยังคงตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำในการสร้างความ "กินดีมีสุข" อย่างยั่งยืน ครอบคลุม 3 มิติ คือ 1) ผู้บริโภค 2) สังคมและสิ่งแวดล้อม 3) พนักงาน โดยปัจจุบัน บริษัทมีผลประกอบการ 32,000 ล้านบาท เป็นเบอร์แปดของกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหาร ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้หลักและครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดคือ ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ 93% รสดี 89% และกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ 53%

64 ปี \"อายิโนะโมะโต๊ะ\" แซ่บนัว คู่ครัวไทย วันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป?

ไม่เพียงเท่านี้ยังเดินหน้าในธุรกิจใหม่อื่นๆ อย่างเช่น นอกจากนี้ได้เปิด "แอปพลิเคชัน i-LiveWell - แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน" โดยใช้งบลงทุน 10 ล้านบาท เพื่อขยายช่องทางการติดต่อใหม่เพื่อรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นจากผู้บริโภคโดยตรง ในการสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมด้วยการเชื่อมต่อกับโซลูชั่นอื่นๆ เช่น แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า และแพลตฟอร์ม e-commerce เพื่อยกระดับพฤติกรรมด้านของผู้บริโภค ในการปรับปรุงการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและขับเคลื่อนกิจกรรมในอนาคตผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล

โดย นายวันนเรศวร์ สุขีลักษณ์ ผู้จัดการแผนกธุรกิจใหม่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่บริษัท ต่อยอดความเชี่ยวชาญจากผู้ผลิตอาหารสู่เซอร์วิส ด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมสุขภาพสำหรับองค์กร แอปพลิเคชัน i-LiveWell - แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน ร่วมมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ Invitrace พัฒนาแอปรุกตลาดการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันด้วยโมเดลธุรกิจแบบ B2B เตรียมเจาะ 50 บริษัททั่วไทยที่มีนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพของพนักงาน

64 ปี \"อายิโนะโมะโต๊ะ\" แซ่บนัว คู่ครัวไทย วันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป?

ทั้งนี้เพื่อปลั๊กอินยกระดับสุขภาพพนักงานออฟฟิศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมไลฟ์สไตล์สร้างความกินดีมีสุข ดูแลสุขภาพกาย-ใจให้ดีแบบองค์รวม โดยมีฟีเจอร์หลักคือ 1) A.I. Personal Health คำนวณแคลอรี่ นับก้าวเดิน ทำอาหาร ออกกำลังกาย การประเมินสุขภาพ ที่เชื่อมโยงกับภารกิจของบริษัท

2) Entertainment Activity เกมและอวตาร คอมมูนิตี้ และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันและดูแลสุขภาพที่ดีแก่พนักงานให้ "กินดีมีสุข" อย่างยั่งยืน โดยเดินเกมขยายธุรกิจด้านบริการอย่างเต็มตัว ตั้งเป้ามีพนักงานผู้ใช้งานกว่า 3,000 คน ภายในปี 2568

ขณะเดียวกันมีผลการสำรวจ พบว่า ผู้บริโภคมองว่าความเป็นอยู่ที่ดีของคนเราจะขึ้นอยู่กับอาหาร ซึ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 20-39 ปี นิยมการสร้าง work-life balance เลือกรับประทานอาหารอร่อยและดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญ ต้องมีหน้าตาสวยงามน่าทาน ในขณะที่กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 45-65 ปี จะหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ใส่น้ำตาล ลดเค็ม ไขมันต่ำ งดอาหารแปรรูป

64 ปี \"อายิโนะโมะโต๊ะ\" แซ่บนัว คู่ครัวไทย วันนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป?

“ผู้บริโภคทั้งสองกลุ่มคิดว่าสิ่งแวดล้อมที่ดีจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของตัวเอง โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องวัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ สะท้อนถึงอินไซต์ของผู้บริโภคว่ามีความใส่ใจเรื่องอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related