เลขาฯ กกต. เผยต้องรับรอง ‘พิธา’ เป็น ส.ส. ไปก่อน ชี้หลังประกาศผลหากถือหุ้นไอทีวีผิดจริง ฟันโทษ มาตรา 151 พร้อมส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตีความสถานะ ส.ส.ได้
อนาคต ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 จะเป็นอย่างไรกันแน่! เลขากกต.ยอมรับต้องรับรอง ’พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นส.ส.ก่อน เหตุไร้ช่องดำเนินการ ทำได้แค่เอาผิดอาญา รู้ไม่มีสิทธิ แต่ยังลงรับเลือกตั้ง 2566
นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. กล่าวถึงการพิจารณาคำร้องตรวจสอบกรณีการถือหุ้นของบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า กรณีนี้มีปัญหาทางเทคนิคอยู่คือผู้ร้องมายื่นร้องก่อนวันเลือกตั้งเพียง 2 วัน ซึ่งเรื่องคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ต้องยื่นร้องภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง สำนักงานฯต้องพิจารณาว่าสิ่งที่ร้องมีเหตุหรือมีมูลที่จะดำเนินการต่อไปหรือไม่ เพื่อเสนอให้กกต.พิจารณา ส่วนกกต. จะรับไว้พิจารณาหรือไม่เป็นอีกประเด็น และถ้ารับแล้วจะผิดหรือถูกก็เป็นอีกประเด็น ดังนั้นเรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของสำนักงานฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า จะดำเนินการ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ข้อหารู้อยู่แล้วว่า ไม่มีสิทธิลงสมัครเลือกตั้ง 2566 แต่ยังคงลงสมัคร เป็น ส.ส. นายแสวง กล่าวว่า การมีลักษณะต้องห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง หากเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งต้องส่งศาลฎีกาวินิจฉัย แต่หลังเลือกตั้งก่อนการประกาศผล ยังเป็นช่องโหว่อยู่ ซึ่งสำนักงานคิดว่า หากมีการยื่นจะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งสามารถทำเป็นคดีอาญา ตามมาตรา 151 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ได้ ถ้าประกาศรับรองผลไปแล้วการให้พ้นจากส.ส. ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 คือ สมาชิกรัฐสภาหนึ่งใน 10 เข้าชื่อ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงกกต.ก็สามารถยื่นได้แต่เราต้องมีพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง
เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้กกต.กำลังพิจารณา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ควบคู่ ระหว่างคดีอาญาตามมาตรา 151 และคดีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่
นายแสวง กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าคดีคุณสมบัติยังพิจารณาไม่ได้ตอนนี้ พิจารณาได้เฉพาะคดีอาญา ตามมาตรา 151 แต่คดีคุณสมบัติทำไม่ได้เพราะยังไม่เป็นส.ส.
“ตามคำร้องยื่นร้องว่า คุณไม่มีคุณสมบัติในการลงสมัครส.ส เพราะมีลักษณะต้องห้าม ที่กฎหมายกำหนด เมื่อคุณไม่มีคุณสมบัติก็จะไปสู่ข้อหารู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติแต่ยังลงสมัคร ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 151 แต่เรื่องของการพ้น เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ซึ่งตอนนี้ยังเป็นอนาคตที่มาไม่ถึง ยังไงก็ต้องประกาศผลให้เป็นส.ส.ไปก่อน เพราะพ้นในช่วงการยื่นของศาลฎีกามาแล้ว กกต.ไม่มีอำนาจไม่ประกาศ แต่สามารถพิจารณาคดีอาญาได้ ” นายแสวง กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลก้าวไกล ที่จะมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ คนที่ 30 จะยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ แม้ว่าจะผ่านการเลือกตั้ง 14 พฤษาคม มาแล้ว เป็นเวลา เกือบ 1 เดือน แล้ว , และแถมยังมีอุปสรรค ที่ดูเหมือนจะขวากหนาม ฉุดรั้ง ก็ตาม ซึ่งหากเปรียบเทียบไทม์ไลน์กับเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำ และมี พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ ครั้งนั้น เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ใช้เวลาตั้งรัฐบาลทั้งสิ้น 73 ในการมี นายกฯ คนใหม่ นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง โดย เลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 และ พลเอกประยุทธ์ ได้รับการเลือกจากทั้ง 2 สภา ในวันที่ 5 มิ.ย. 2562