ศรีลังกาเศรษฐกิจพังยับ น้ำมันหมดประเทศ ต้องหาเงินสำรอง 75 ล้านเหรียญ

เป็นข่าวร้ายจากนายกรัฐมนตรีศรีลังกา รานิล วิกรามาสิงหะ ได้ออกมายอมรับและแจ้งกับคนในประเทศว่า ขณะนี้น้ำมันในประเทศได้ไม่พอใช้แล้ว และไม่มีสำรองเพื่อใช้ในวันต่อๆไป ซึ่งหากจะซื้อน้ำมันในประเทศได้พอ ต้องหาเงินถึงวันละ 75 ล้านเหรียญ (ประมาณ 2,594,062,500 บาท)

ปัญหาน้ำมันขาดแคลนในประเทศศรีลังกาไม่ได้เพียงส่งผลกระทบกับการเดินทางโดยรถยนต์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อระบบขนส่งในประเทศไม่ว่าจะเป็นการเดินทางและการนำเข้าส่งออกสินค้า เครื่องจักรในการทำการเกษตรต่างๆ ทำให้รายได้ของคนในประเทศหยุดชะงัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• ศรีลังกาตัดไฟวันละ 13 ชั่วโมง เวียดนามเตือนเจอวิกฤตเช่นกัน
• อากาศอินเดียร้อนหนัก ข้าวสาลีไหม้ กระทบวิกฤตอาหารโลก
• พึ่งพาพลังงานทางเลือก กู้วิกฤติค่าไฟแพง

ครั้งนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายปี และประจวบเหมาะกับปีนี้ศรีลังกาครบกำหนดจ่ายหนี้ต่างประเทศราว 4 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงพันธบัตรต่างประเทศ 1 พันล้านดอลลาร์ ที่ครบกำหนดในเดือนก.ค.นี้ และภาระดอกเบี้ยสองรายการที่ครบกำหนดวันที่ 18 เม.ย.65

ซึ่งประเทศศรีลังกามีความจำเป็นต้องแก้ไขด้วยการขายสายการบิน ศรีลังกา แอร์ไลน์ เนื่องจากสภาวะขาดทุนของสายการบินแห่งชาติ ความผิดพลาดของประเทศศรีลังกาที่ผ่านมาได้มีทั้ง การบริหารการเงินที่ผิดพลาดของรัฐฯ ไม่สามารถส่งออกได้ต่อเนื่องหลายปีเนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ และการบริหารราชการแผ่นดิน ท่ีเน้นประชานิยม และทุ่มในโครงการก่อสร้างที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในประเทศ รวมถึงการคอรัปชั่นนั่นเอง

ประชาชนศรีลังกาได้มีการออกมาประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมในการอยู่รอด ขับไล่รัฐบาล จุดเผาเพลิงบ้านนายกรัฐมนตรี มหินทา ราชปักษา ที่ได้ลาออกไปก่อนหน้านี้ และนี่เป็นอีกแง่คิดหนึ่งที่ศรีลังกาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันทีด้วยการเปลี่ยนแปลงผู้นำในประเทศ เพราะเศรษฐกิจต่างๆรวมถึงสถานการณ์ที่ได้บีบให้ศรีลังกาเกิดความยุ่งยากในการจัดการประเทศ ก่อให้เกิดปัญหาตามมาอย่างมากที่สุด

นายกฯรานิล วิกรามาสิงหะ ได้ออกมาแถลงกับประชาชนอย่างจริงใจว่า สถานการณ์ความลำบากที่แท้จริงไม่ใช่ช่วงนี้ แต่จะเป็นอีก 2-3 เดือนข้างหน้าที่วิกฤติของศรีลังกาจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นอีก เพราะประเทศศรีลังกายังคงต้องหาเงินสำรองที่ใช้ชำระหนี้แบบเดือนต่อเดือนเลยทีเดียว

ในประเทศไทยเราคงต้องเตรียมพร้อมรับมือกันอย่างจริงจังสำหรับสถานการณ์ทั้งเงินเฟ้อ โรคระบาดที่ยังไม่คลี่คลายดี และผลกระทบจากสงครามรัสเซีย ยูเครนที่ยังคงปะทุอย่างต่อเนื่อง