ย้อนรอย "6 คนดัง" แห่งวงการบันเทิง ที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับด้วย "โรคมะเร็ง" มัจจุราชร้ายใกล้ตัว ที่พรากชีวิตคนนับครั้งไม่ถ้วน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า "โรคมะเร็ง" ยังคงเป็น "โรคร้าย" ที่เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตของประชากรไทย และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย ในส่วนฟากฝั่งวงการบันเทิงไทยเอง จะเห็นได้ว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีข่าวคราวสูญเสียคนดังจำนวนไม่น้อย ที่ต้องจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ เพราะโดนเจ้ามะเร็งร้ายคร่าชีวิต ทั้งนี้จะมีดาวกลับฟ้าดวงไหนบ้างนั้น "สปริงบันเทิง" ได้รวบรวมไว้ให้แล้ว ดังต่อไปนี้
ตั้ว ศรัณยู
เริ่มต้นที่ความสูญเสียครั้งสำคัญของวงการบันเทิงไทย สำหรับการจากไปของ "ตั้ว ศรัณยู" อดีตพระเอก-ผู้กำกับชื่อดัง ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ในวัย 59 ปี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวและคนใกล้ชิดเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ทันได้เตรียมใจ
โดย "ตั้ว ศรัณยู" เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2562 หลังจากที่หกล้มในกองถ่ายละคร มีอาการปวดหลังและกระดูกหลังข้อที่ 3 ยุบและร้าว ต่อมาตรวจพบเป็นมะเร็งตับ จากนั้นก็ทำการรักษา จนอาการดีขึ้นตามลำดับ และสามารถกลับไปทำงานในกองละครได้เหมือนเดิม กระทั่งร่างกายกลับทรุดอีกครั้ง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตลงในวัย 59 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้อย กาญจนา
อีกหนึ่งข่าวเศร้าของคนในวงการบันเทิง เมื่อนักแสดงรุ่นใหญ่และอดีตนางเอกชื่อดัง "อ้อย กาญจนา" วัย 61 ปี ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ และมีโรคมะเร็งแทรกซ้อน เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563 ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ทางด้านลูกสาว ได้ให้สัมภาษณ์ถึงอาการป่วยของคุณแม่ผู้ล่วงลับไว้ว่า คุณแม่ป่วยโรคหัวใจมา 10 ปี แต่ไม่ค่อยมีใครทราบ เพราะคุณแม่ใช้ชีวิตปกติ ซึ่งต่อมาตรวจพบมะเร็งแทรกซ้อน โดยตอนที่เจอแม่สั่งห้ามบอกใคร เพราะไม่อยากให้คนเป็นห่วง แม่พยายามสู้ แต่อาการในช่วงหลังไม่สู้ดี ทำให้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและเพื่อนๆร่วมวงการ
โรเบิร์ต สายควัน
หลายคนคงจำความสูญเสียครั้งนี้ได้ดี กับการจากไปของดาวตลกชื่อดัง "โรเบิร์ต สายควัน" ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด แต่ทำการรักษาจนไม่พบเซลล์มะเร็งแล้ว แต่ต้องรักษาวัณโรคปอดในห้องไอซียูต่อ เพราะปอดเหลือเพียงข้างเดียว ซึ่งมีอาการหนัก น้ำท่วมปอดบ่อยขึ้น
จนกระทั่งคืนของวันที่ 19 กันยายน 2563 "โรเบิร์ต สายควัน" ก็ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 54 ปี นับเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียที่ทำเอาเพื่อนๆ ตลกทั้งวงการ รวมถึงแฟนคลับทั่วประเทศต่างเสียใจและใจหายที่จะไม่ได้เห็นหน้าและผลงานของตลกอันเป็นที่รักอีก
เสนาโค้ก สมชาย
ในส่วนของพิธีกรรุ่นใหญ่ "เสนาโค้ก สมชาย" หรือหลายคนรู้จักในรายการดัง "ยุทธการขยับเหงือก" ได้เข้ารักษาตัวมะเร็งตับระยะสุดท้ายที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนจะเกิดข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง กับการจากไปอย่างสงบของ "เสนาโค้ก" ในวัย 62 ปี เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 15 กันยายน 2564 ท่ามกลางความอาลัยของครอบครัวและเพื่อนๆที่เคยร่วมงาน ต่างแสดงความเสียใจกันเป็นจำนวนมาก
อ๊อด คีรีบูน
มาต่อที่ข่าวเศร้าของวงการเพลงป๊อบ เมื่อต้องสูญเสีย "รณชัย ถมยาปริวัฒน์" หรือที่รู้จักกันดีในนามว่า "อ๊อด คีรีบูน" ศิลปินชื่อดังแห่งยุค 80 เป็นอดีตนักร้องนำและหัวหน้า "วงคีรีบูน" ซึ่งมีบทเพลงที่มีชื่อเสียง อาทิเช่น "รอวันฉันรักเธอ , หากรัก , ปลูกรัก ฯลฯ"
โดย "อ๊อด คีรีบูน" ได้เสียชีวิตลงในวัย 57 ปี ด้วยโรคมะเร็งสมอง ในค่ำของวันที่ 16 ตุลาคม 2564 ซึ่งมีคนในวงการร่วมแสดงความอาลัย และเขียนข้อความระลึกถึง "อ๊อด คีรีบูน" กันมากมาย พร้อมยกให้เป็นศิลปินต้นแบบยุค 80 ที่เป็นแรงบันดาลใจให้นักร้องรุ่นน้องในวงการบันเทิง
ต้อย เศรษฐา
ปิดท้ายที่ข่าวเศร้าครั้งใหญ่ของวงการบันเทิงไทย สำหรับการสูญเสียศิลปินแห่งชาติมากฝีมือ "ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา" หรือที่หลายคนเรียกว่า "อาต้อย" ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 ในวัย 77 ปี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการ รวมทั้งแฟนๆทั่วประเทศที่ช็อกและเสียใจกับการจากไปของศิลปินอาวุโสที่เคารพรัก
โดย "อาต้อย" ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งปอด เมื่อช่วงกลางปี 2562 จึงเข้ารับการรักษาย่างต่อเนื่อง และอาการป่วยดีขึ้นตามลำดับ ต่อมาในเดือนเมษายน 2564 "อาต้อย" ติดเชื้อโควิด-19 ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายสัปดาห์ จนหายดีเป็นปกติและได้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน
แต่เมื่อช่วงปลายปี 2564 "อาต้อย" ต้องกลับไปทำคีโมอีกครั้ง หลังจากหยุดพักไป 3 เดือน หลังหมอตรวจพบว่าก้อนเนื้อดังกล่าวกลับมาเติบโตอีกครั้ง และด้วยความที่เป็นระยะที่ 4 มีการกระจายไปที่อื่นด้วย จึงต้องกลับมาให้คีโมใหม่ เปลี่ยนตัวยา และเพิ่มการให้ยา
และผลจากการทำคีโม ก็ทำให้ "อาต้อย" มีอาการอาเจียน รับประทานอาหารเองไม่ค่อยได้ จนร่างกายซูบผอม หมอจึงใช้วิธีให้อาหารทางสายยาง กระทั่งเช้ามืดของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 "อาต้อย" ก็ได้จากไปอย่างสงบ หลังต่อสู้กับโรคร้ายมานาน