อดีตพระเอกดังระดับตำนาน "สรพงศ์ ชาตรี" เสียชีวิตด้วยป่วยโรคมะเร็งปอดอย่างสงบ สิริยายุ 73 ปี สปริงบันเทิง ชวนทำความเข้าใจมะเร็งปอดโรคร้ายที่ไม่มีสัญญาณเตือน
ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของเพื่อนพ้องในวงการบันเทิงและแฟนคลับกับการเสียชีวิตของอดีตพระเอกดัง สรพงศ์ ชาตรี โดยเมื่อครั้งที่มีชีวิตอยู่คู่พี่น้องฝาแฝดคนบันเทิง บิณฑ์-เอกพัน บรรลือฤทธิ์ ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงถึงอาการของพระเอกรุ่นพี่
“พี่เอกป่วยมะเร็งปอด ไม่ใช่มะเร็งสมองตามตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้อยู่ไอซียู ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะ เกิดสำลักอาหาร ล่าสุดอาการดีขึ้น ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว”
“ต้องย้อนกลับ 5 ปีที่แล้วพี่เอกเป็นมะเร็งที่ปอด แล้วพี่เอกก็ตัดไปประมาณสัก 4-5 นิ้ว เพราะเป็นชิ้นมะเร็งก็ตัดออกไปที่ปอดด้านซ้าย และรักษาตามอาการมาตลอด จนกระทั่งพี่เอกก็แข็งแรงดีก็กลับไปถ่ายละคร ถ่ายนั่นถ่ายนี่ ก็ทำงานได้ปกติ”
“มะเร็งปอดที่เดิมมันกลับมากำเริบแล้วก็มีเชื้อที่มันกระจายตามร่างกาย คุณเดือน (ภรรยาของสรพงศ์) ก็บอกว่าตอนนี้กำลังให้ยาระงับอยู่ มันต้องใช้เวลา ตั้งแต่มีนาคมปีที่แล้วจนตอนนี้ก็เกือบปีแล้ว อาการก็ทรงๆ ก็ดีขึ้นตลอด”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
7 สัญญาณอันตราย! โรคมะเร็งสมอง จากกรณีของ สรพงศ์ ชาตรี อดีตพระเอกชื่อดัง
ล่าสุดจากข่าวเศร้าจากการสูญเสียพระเอกนักบุญ สรพงศ์ ชาตรี ด้วยป่วยเป็นมะเร็งปอดทำให้หลายๆ คนเริ่มสนใจและอยากทำความเข้าใจให้มากขึ้นกับโรคมะเร็งปอด สปริงบันเทิง จะขอพาไปทำความเข้าใจมะเร็งปอดโรคร้ายที่ไม่มีสัญญาณเตือน
รู้จักกับมะเร็งปอด
มะเร็งปอด เกิดจากเซลล์เนื้อเยื่อบุผิวเจริญเติบโตผิดปกติอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ และเกิดเป็นก้อนเนื้อร้ายในที่สุด โดยเชื้อร้ายนี้นอกจากจะแทรกซึมและทำลายปอดแล้วยังมีการรุกรานไปที่อวัยวะอื่น ๆ อย่างรวดเร็วอีกด้วย กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัวว่าตัวเองเป็น เชื้อร้ายมักจะทำลายปอดจนยากที่รักษาเสียแล้ว
อาการของมะเร็งปอด
ปกติแล้วโรคมะเร็งปอดในระยะแรกเริ่มจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลย กว่าจะแสดงอาการก็ต่อเมื่อเข้าสู่ระยะที่ 3-4 แล้ว ซึ่งผู้ป่วยจะสามารถสังเกตอาการได้ดังนี้
- ไอเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีอาการไอเป็นเวลานาน มีเสมหะเป็นเลือด เสียงแหบ เจ็บหน้าอกเมื่อไอ
- ปัญหาด้านการหายใจ ผู้ป่วยมักจะมีอาการหายใจลำบาก รู้สึกเหนื่อยหอบตลอดเวลา หายใจมีเสียงหวีด
- เบื่ออาหาร เพราะเนื้อร้ายจะไปกดเบียดหลอดอาหารทำให้ผู้ป่วยกลืนอาหารลำบากจึงไม่อยากทานอาหาร อ่อนเพลีย และส่งผลให้น้ำหนักลดลงอย่างผิดปกติ
- อาการอื่น ๆ เมื่อเชื้อมะเร็งลุกลามไปที่อื่นจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการอื่น ๆ ตามมาด้วย เช่น มีไข้ หนาวสั่น ปวดตามข้อ ปวดกระดูก ตาเหลือง ตัวเหลือง เลือดอุดตันที่ใบหน้าทำให้หน้าบวม เป็นต้น
การป้องกันตัวเองให้ห่างจากโรคมะเร็งปอด
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าสาเหตุที่สำคัญของการเกิดมะเร็งปอดกว่า 81 % คือ การสูบบุหรี่ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการงดสูบบุหรี่ หรือหลีกเลี่ยงการรับควันบุหรี่มือสองเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้สิ่งที่ควรปฏิบัติคือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ที่มา : โรงพยาบาลเพชรเวท