ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ชี้ผลตรวจ ATK 72 ชั่วโมงที่แล้วไม่เพียงพอ ควรตรวจอย่างถูกต้องหน้างานเทศกาลปีใหม่ หรือไม่เกิน 12 ชั่วโมง
สถานการณ์การระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ "โอไมครอน" ยังไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งหลายประเทศได้เพิ่มมาตรการป้องกันให้เข้มข้นขึ้น ขณะที่ประเทศไทยได้เตรียมเปิดพื้นที่และคลายล็อกในหลายด้านเพื่อจัดงานปีใหม่ และอีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาประกาศเตรียมเสนอโครงการ "COVID Safe Area" ให้รัฐบาลพิจารณาอนุญาตให้มีการผ่อนปรนการสวมหน้ากากอนามัยในบางพื้นที่ ซึ่งประชาชนได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากมีความห่วงใยในสถานการณ์โควิด-19 และล่าสุดทางรัฐบาลได้ออกกำหนดให้ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมงานปีใหม่ได้ต้องมีผลตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชม.
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า 0 คือผลตรวจ ATK พร้อมๆกับ RT-PCR เป็นบวก และ 2 คือ ATK 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น ผล ATK อันที่ 3 คือ หลังพบบวก RT-PCR ที่ 6 วัน และ ผลสุดท้ายคือ วันที่ 10 หลังตรวจพบด้วย RT-PCR
ผู้ป่วยรายนี้ติดไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน
ATK ที่ Day2 "เข้มมาก" แสดงถึงไวรัสปริมาณมหาศาลพร้อมปลดปล่อย สมมติว่าเป็นกรณีผู้ติดเชื้อในไทย...ถ้าไม่ตรวจซ้ำและนำผลที่ตรวจ Day 0 ซึ่งเป็น "ลบ" ไปยืนยันหน้างาน count down ว่าผลตรวจเมื่อ "48 ชั่วโมง" ที่แล้วเป็นลบ ไม่มีปัญหาปลอดภัย และเข้าไปตะโกนนับถอยหลังรับปีใหม่ ความเสี่ยงจะสูงมาก...แต่ถ้าผู้จัดงานขอผล ATK หน้างานผู้ป่วยคนนี้จะไม่มีโอกาสเข้าไปแพร่เชื้อได้ และ ดูเหมือน ATK จะได้ผลลบอีกทีก็ 10 วัน หลังพบบวกใน RT-PCR ซึ่งตอนนั้น RT-PCR อาจจะยังบวกแบบอ่อนๆ แต่ ความเสี่ยงแพร่กระจายจะเหลือน้อยมากๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• จับตา! โอไมครอน ดร.อนันต์ คาดอีก 7-10 วัน ยอดเสียชีวิตอาจพุ่งถึงหลักร้อย
• ดร.อนันต์ แนะจับตา "โอไมครอน" แนวโน้มผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งหลังช่วงปีใหม่
• ดร.อนันต์ เผย ผลวิจัยพบโควิด “โอไมครอน” หนีภูมิไฟเซอร์ได้มากถึง 41.4 เท่า
คงต้องย้ำอีกทีนะครับ ผล ATK 72 ชั่วโมงที่แล้วไม่เพียงพอ ควรตรวจอย่างถูกต้องหน้างาน หรือ ไม่เกิน 12 ชั่วโมง
Note: n อาจจะเท่ากับ 1 แต่อย่าลืมว่าเคสของ UK ที่เป็นแสนวันนี้ก็เริ่มจาก n =1 เหมือนกัน ข้อเท็จจริงชนะสถิติครับ