จับตา! โอไมครอน ดร.อนันต์ คาดอีก 7-10 วัน ยอดเสียชีวิตอาจพุ่งถึงหลักร้อย

เรียกได้ว่าทั่วโลกกำลังจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" ที่จำนวนผู้ติดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และตามมาด้วยตัวเลขผู้เสียชีวิตจาก "โอไมครอน" ที่ก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยที่พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" เช่นซึ่งส่วนมากเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

ล่าสุด ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้ออมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Anan Jongkaewwattana ระบุว่า...ตัวเลขคนป่วยหนักและเสียชีวิตวันนี้เกิดจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้สักประมาณ 1-2 อาทิตย์ ข้อมูลสัปดาห์ที่แล้ว(13 ธค) UK มียืนยันโอมิครอน 4700+ และมีแนวโน้มประมาณ 11,000+ ป่วยหนัก 14 เสียชีวิต 1... 7 วัน ต่อมา UK มียืนยันโอมิครอน 45,000+ แต่ มีที่มีแนวโน้มแบบยังไม่ยืนยันที่ เกือบ 125,000 คือ ประมาณ 10 เท่า ของ 7 วันก่อน ตัวเลขผู้ป่วยหนักคือ 129 และ เสียชีวิต 14 คน...เหตุการณ์เกิดขึ้นภายใน 7 วัน ของการระบาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• อนุทิน เตรียมเคลียร์นักท่องเที่ยวค้างในระบบ 2 แสนคน ก่อนปรับมาตรการใหม่

• Update : แผนมาตรการจากต่างประเทศ รับมือโควิดโอไมครอน

• เจาะลึกวัคซีน mRNA กับการสร้างเกราะป้องกันไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์

ซึ่ง ดร.อนันต์ ยังได้เผยอีกว่าส่วนตัวผมไม่คิดว่าอีก 7 วันตัวเลขของผู้ติดเชื้อจะไต่ขึ้นไปอีก 10 เท่าจากวันนี้อีก เพราะดูจะไวเกินไป แต่ก็สามารถเป็นไปได้ครับกับไวรัสที่มีศักยภาพในการแพร่กระจายลักษณะนี้ สิ่งหนึ่งที่ไม่น่าเกินคาดคือ ผู้เสียชีวิตอาจจะขึ้นหลักร้อยในอีก 7-10 วันจากผลของการติดเชื้อวันนี้ครับ

เนื่องจากตัวเลขประชากรที่ได้รับวัคซีนเข็ม เพิ่มขึ้นจาก 28,060,874 มาที่ 28,978,244 ภายใน 1 วัน ซึ่งไวกว่าอัตราการการแพร่กระจายของโอมิครอน แต่วัคซีนใช้เวลาหลายวันอยู่กว่าภูมิจะขึ้นสูงสุดจนพอที่จะต้านการติดเชื้อ หรือ อย่างน้อยลดการกระจายเชื้อต่อ ตัวเลขอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้าจะเริ่มเห็นชัดขึ้นครับว่า ผลจากวัคซีนเข็มกระตุ้น กับ ไวรัสหนีภูมิขั้นเทพอย่างโอมิครอนจะเป็นอย่างไร ... วิธีการที่สำคัญที่สุดคือ Act fast...Act now ครับ

ทั้งนี้ บริษัท Moderna เปิดเผยผลการทดลองจากห้องปฏิบัติการโดยผู้ได้รับวัคซีนของบริษัท Moderna ครบ 2 โดส และเข็มกระตุ้น ปริมาณ 100 ไมโครกรัม สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ถึง 83 เท่า ส่วนผู้ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ปริมาณ 50 ไมโครกรัม สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ 37 เท่า ซึ่งสามารถป้องกันอาการป่วยแบบเข้าโรงพยาบาลได้ ทั้งนี้ โฆษกของบริษัท Moderna เปิดเผยว่า บริษัทยังคงจะพัฒนาวัคซีนเฉพาะสำหรับสายพันธุ์ Omicron ต่อไป และคาดว่าจะเริ่มทดสอบในมนุษย์ภายในต้นปี 2565
ที่มา: สำนักข่าวกรองแห่งชาติ