สรุปให้ สถานการณ์ชายแดนระอุ กองทัพเมียนมาถล่มเคเอ็นยู ผู้ลี้ภัยทะลักแม่สอด

 จากกรณีที่กองทัพเมียนมาได้บุกเข้าไปยังพื้นที่เมืองเลเกก่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ยึดครองของเคเอ็นยูอย่างน้อย 6 ครั้ง และจับกุมนักกิจกรรมทางการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาลทหารที่ลี้ภัยมาพักพิงในพื้นที่ดังกล่าวไปกว่า 20 คน

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ทวีความตึงเครียด เกิดการปะทะขึ้นหลายระลอก กองทัพเมียนมาได้เริ่มโจมตีกลุ่มที่มีการผสมกันระหว่างกองกำลังปกป้องประชาชน ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงซึ่งเป็นหน่วยงานทางทหารของเคเอ็นยู

วันที่ 16 ธ.ค. ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก รายงานว่ากองกำลังนเรศวรได้ประท้วงไปยังรัฐบาลกองทัพเมียนมา ผ่านช่องทางคณะกรรมการชายแดนระดับท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) จากกรณีที่กระสุนไม่ทราบชนิด/ไม่ทราบฝ่ายที่ตกลงบริเวณริมลำน้ำเมยของฝั่งไทย ให้ระมัดระวังเรื่องของการใช้อาวุธ ทางฝั่งไทยพร้อมตอบโต้ หากมีกระสุนตกฝั่งไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สหประชาชาติร่วมร้องขอให้กองทัพเมียนมาร์ปล่อยตัว "อองซาน ซูจี"

• ไทยแจงงดออกเสียง มติUN ห้ามค้าอาวุธให้เมียนมา ชี้อยากให้เปิดโต๊ะเจรจา

• รัฐประหารเมียนมา ส่งผลกระทบหนักต่อสถานการณ์โควิด19 ในประเทศ

 วันที่ 19 ธ.ค. หลังจากมีกระสุนลอยมาตกบริเวณริมแม่น้ำเมยในฝั่งไทย 7 นัด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 จึงได้ยิงกระสุนควัน 5 นัด เพื่อเตือนให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายทราบว่ามีกระสุนข้ามาตกในฝั่งไทย พร้อมทั้งได้ทำการประท้วงไปยังรัฐบาลกองทัพเมียนมาผ่านช่องทาง TBC

 วันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายพาโด้ ตอยินนี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเคเอ็นยู.ในฐานะโฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ได้ขอให้กองทัพเมียนมาถอนออกจากพื้นที่เคเอ็นยูทั้งหมด และขอรัฐบาลไทยเมตาช่วยดูแลผู้ลี้ภัยเป็นอย่างดี และยังไม่ส่งผู้ลี้ภัยกลับไป จนกว่าเหตุการณ์สู้รบจะสงบอย่างแท้จริง

 กองทัพเมียนมาได้ส่งเครื่องบินรบออกมายิงถล่มใส่หมู่บ้านเลเตอก่อ บ้านโซซีเมียน บ้านมินลาปันและบ้านผาลู ใน จ.เมียวดี ซึ่งอยู่ตรงข้าม อ.แม่สอด เพื่อโจมตีกองกำลังเคเอ็นยู เมื่อเวลาประมาณ 22.45 น. ของวันที่ 23 ธ.ค. หลังจากนั้นก็ส่งเครื่องบินรบโจมตีอีกเป็นระลอก

เสียงปืนจากการสู้รบกันระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลังเคเอ็นยูดังกึกก้องมาถึง อ.แม่สอด อีกทั้งยังมองเห็นเปลวเพลิงและควันพวยพุ่งขึ้นมาจากฝั่งเมียวดี สร้างความหวาดกลัวและตระหนกตกใจให้ประชาชนทั้งในฝั่งไทยและเมียนมา

 พื้นที่เลเก่ก่อ ก่อตั้งขึ้นในฐานะ "เมืองใหม่" ในปี 2557 ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง KNU และกองทัพพม่า โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากมูลนิธิ Nippon Foundation ของญี่ปุ่น

ชาวกะเหรี่ยงที่อพยพเข้ามาฝั่งไทย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่หนีภัยการสู้รบมาอยู่บริเวณริมแม่น้ำเมยฝั่งเมียนมา แต่ไม่สามารถเดินทางข้ามมาฝั่งไทยได้เนื่องจากมีทหารไทยตรึงกำลังอยู่ตามแนวชายแดน แต่การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ไทยต้องยอมให้ข้ามมาฝั่งไทยในช่วงเวลา 01.30 น. ของวันนี้ (24 ธ.ค.) ซึ่งการอพยพหนีภัยการสู้รบเป็นไปอย่างทุลักทุเลเนื่องจากมีทั้งเด็ก ผู้หญิงและคนชรา

25 ธ.ค. ยังมีการต่อสู้รุนแรงต่อเนื่องโดยฝ่ายกองทัพเมียนมาพยายามโจมตีฝ่ายเคเอ็นยู และกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ทั้งทางอากาศ และภาคพื้นดิน โดยได้ส่งเฮลิคอปเตอร์กันชิพจำนวน 2 ลำ ยิงใสฝ่ายกะเหรี่ยงที่บ้านโซซิเมียน ตรงข้ามบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง หมู่ที่ 9 ต.แม่กุ อ.แม่สอด โดยยิงเคลียร์พื้นที่ และเปิดทหารราบเข้าไปพื้นที่กะเหรี่ยง 

 ขณะเดียวกันการปฏิบัติทางอากาศส่งผลให้ชาวเมียนมาเชื้อสายกะเหรี่ยงกว่า 1,000 คน หนีตายข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาเขตไทย เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครองไทยได้นำผู้ลี้ภัยไปอาศัยอยู่ชั่วคราวที่สนามกีฬาบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง

เครือข่ายสนับสนุนสันติภาพกะเหรี่ยง (KPSN) ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเร่งด่วนสำหรับชาวบ้านกว่า 10,000 คน ที่หนีภัยจากการโจมตีของกองทัพเมียนมา ซึ่งขณะนี้ผู้หนีภัยครึ่งหนึ่งได้ข้ามแม่น้ำเมยเข้ามายังประเทศไทยแล้ว

 เครือข่ายสนับสนุนสันติภาพกะเหรี่ยง ระบุด้วยว่า ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีของกองทัพเมียนมาครั้งล่าสุดนี้ อันเป็นการละเมิดคำมั่นสัญญาหยุดยิงต่อ KNU และผู้บริจาคสันติภาพจากต่างประเทศ ผู้บริจาคเหล่านี้ควรตัดเงินทุนสำหรับกระบวนการสันติภาพทั่วประเทศที่ล้มเหลวทันที

ในทวิตเตอร์ของชาวเมียนมา ยังมีการเรียกร้องต่อ UN ให้ประกาศ No Fly Zone มาตรการกำหนดเขตห้ามเครื่องบิน บินผ่านเหนือเมียนมา เพื่อปกป้องชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ จากการโจมตีของกองทัพเมียนมา

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ของไทยระบุว่าระหว่างวันที่ 16-21 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีประชาชนในเมียนมาหนีภัยการสู้รบที่เกิดขึ้นข้ามมาฝั่งไทยรวม 4,216 คน ส่วนในเอกสารศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก ก็ได้รายงานว่ามีผู้หนีภัยที่ประสงค์สมัครใจขอเดินทางกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเช้านี้ (26 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าค่ายผู้อพยพลี้ภัยจากสงครามในเมียนมา (พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว) มีอยู่ด้วยกัน 4 จุดหลัก ได้แก่

 • คอกวัวมหาวันเมยโค้ง ต.มหาวัน อ.แม่สอด

 • คอกวัวกำนันปั๋น บ้านไร่ ต.แม่ตาว อ.แม่สอด

 • สนามกีฬาบ้านแม่กุหลวง ต.แม่กุ อ.แม่สอด

 • วัดบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ