SHORT CUT
การเมืองในที่ทำงานฉุดรั้งประสิทธิภาพคนรุ่นใหม่ ปัญหาช่องว่างระหว่างวัยและทางออก ที่องค์กรควรรู้แลแก้ไข
การเมืองในที่ทำงานเป็นปรากฏการณ์ที่พบได้ทั่วไป เกิดจากความขัดแย้งทางความคิด อุดมการณ์ และผลประโยชน์ของคนในองค์กร ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม ยิ่งในยุคปัจจุบันที่คนรุ่นใหม่ Gen Y และ Gen Z ก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงาน ความขัดแย้งระหว่างวัยกลายเป็นประเด็นร้อนที่ส่งผลต่อบรรยากาศและประสิทธิภาพการทำงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
งานวิจัยจาก London School of Economics (LSE) ร่วมกับ Protiviti เผยให้เห็นว่า ความขัดแย้งในที่ทำงานระหว่างเจ้านายรุ่นใหญ่และลูกน้องรุ่นใหม่ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่น Gen Y และ Gen Z ผลสำรวจพนักงานออฟฟิศในอังกฤษและสหรัฐอเมริกาเกือบ 1,500 คน พบว่าพนักงานรุ่นใหม่ที่อายุห่างจากหัวหน้างานโดยเฉลี่ย 12 ปี มีแนวโน้มที่จะรายงานผลงานของตนเองว่าแย่กว่าความเป็นจริงถึง 1.5 เท่า และมีความรู้สึกไม่พอใจในงานเกือบ 3 เท่า
ต้นตอของปัญหามาจากช่องว่างระหว่างวัย ที่ทำให้ หัวหน้างานรุ่นใหญ่ ไม่เข้าใจ ไม่อยากเปิดใจรับฟัง และไม่สนับสนุนคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ ความตึงเครียดในที่ทำงานเพิ่มสูงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น หัวหน้างานรุ่นใหญ่ยังไม่ให้ความช่วยเหลือในการปรับตัวให้พนักงานรุ่นใหม่ รวมถึงมีการแสดงความไม่พอใจคนรุ่นใหม่ออกมาอย่างชัดเจน เช่น กรณีของ Jodie Foster ที่วิพากษ์วิจารณ์ Gen Z ว่าน่ารำคาญ ขาดความกระตือรือร้น และไม่มีความรับผิดชอบเรื่องเวลา ผลสำรวจจาก Vitality ระบุว่า พนักงานรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี สูญเสียวันทำงานที่มีประสิทธิภาพไปถึง 60 วันต่อปี โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปัญหาสุขภาพจิต สะท้อนให้เห็นถึง การสูญเสียแรงจูงใจในการทำงาน
Rick Mercer นักแสดงตลกวัย 54 ปี ให้ความเห็นว่า ไม่ควรคาดหวังให้คนรุ่นก่อนเข้าใจคนรุ่นใหม่ เพราะเติบโตมาในสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกัน โดยยกตัวอย่างว่าในอดีต คนรุ่นก่อนสามารถซื้อบ้านและรถยนต์ได้ด้วยเงินเดือนเพียงปีละ 30,000 ดอลลาร์ ในขณะที่คนรุ่นใหม่ แม้จะเรียนจบปริญญาโทและทำงานหนัก ก็ยังไม่สามารถซื้อแม้กระทั่งอพาร์ทเม้นต์ขนาดเล็กได้
ทางออกของปัญหา
แม้ความขัดแย้งระหว่างวัยจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงานของคนรุ่นใหม่ แต่งานวิจัยของ LSE ชี้ให้เห็นว่า องค์กรสามารถแก้ไขปัญหานี้ และเพิ่มผลผลิตได้อย่างมาก โดยการลงทุนในการอบรมทักษะให้หัวหน้างานรุ่นใหญ่ เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างคนต่างรุ่น และสร้างบรรยากาศการทำงานที่ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะการส่งเสริมให้หัวหน้างานรุ่นใหญ่ เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างรุ่น เปิดใจรับฟัง และ สนับสนุนพนักงานรุ่นใหม่ รวมถึง สร้างนโยบายและออกแบบการทำงานที่คำนึงถึงความหลากหลายทางวัย
จะเห็นได้ว่าการเมืองในที่ทำงานที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างวัย ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของคนรุ่นใหม่อย่างรุนแรง การแก้ไขปัญหาต้องอาศัยความเข้าใจ การเปิดใจ และความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย โดยองค์กรมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันระหว่างคนต่างรุ่น เพื่อให้ทุกคนสามารถปลดปล่อยศักยภาพในการทำงานได้อย่างเต็มที่ นำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและความสำเร็จขององค์กรในที่สุด
อ้างอิง