svasdssvasds

คนรวยร้องไห้เก่ง ส่วนคนจนเน้นกัดฟันสู้ ไม่มีเวลาเสียน้ำตา ?

คนรวยร้องไห้เก่ง ส่วนคนจนเน้นกัดฟันสู้ ไม่มีเวลาเสียน้ำตา ?

การศึกษาเผย! คนรวยร้องไห้เก่งกว่าคนจน! เพราะคนจนไม่มีเวลามานั่งคร่ำครวญ ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดอย่างเดียว

SHORT CUT

  • การร้องไห้ไม่ใช่พฤติกรรมของคนยากจนบนโลก แต่เป็นการแสดงถึงสิทธิพิเศษ ของคนในสังคมที่อยู่กันอย่างสะดวกสบาย
  • คนที่อยู่ในประเทศยากจน เมื่อผ่านจุดหนึ่งของความเหนื่อยล้าไปแล้ว ก็ไม่มีพลังงานใดๆ ที่จะนำมาใช้เพื่อแสดงอารมณ์อีกต่อไป
  • ที่คนรวยมักร้องไห้บ่อยกว่า เนื่องจากพวกเขามีโอกาสในการแสดงออกถึงอารมณ์อย่างเต็มที่

 

การศึกษาเผย! คนรวยร้องไห้เก่งกว่าคนจน! เพราะคนจนไม่มีเวลามานั่งคร่ำครวญ ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดอย่างเดียว

การร้องไห้เป็นหนึ่งในปฏิกิริยาที่ช่วยให้เราแสดงอารมณ์ออกไปได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเราต้องเผชิญกับความเศร้าที่เกินจะรับได้ ความรู้สึกนี้อาจเกิดจากหลากหลายสาเหตุ เช่น การสูญเสียคนที่รัก ความผิดหวัง หรือแม้กระทั่งความเครียดในชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ หลายคนอาจคิดว่า คนด้อยโอกาส หรือคนที่มีรายได้น้อย คือกลุ่มที่ต้องร้องไห้เสียใจจากปัญหาในชีวิตต่างๆ มากกว่า คนรวย คนมีอำนาจ ที่อยู่ในสังคมที่เพียบพร้อม แต่จากการศึกษาวิจัย Culture and Crying หรือ ‘วัฒนธรรมและการร้องไห้’ ที่เผยแพร่ในปี 2011 จัดทำโดยทีมนักจิตวิทยาที่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย Tilburg ในเนเธอร์แลนด์ กลับให้คำตอบที่ตรงกันข้าม ! ซึ่งสรุปได้ง่ายๆ ว่า “คนที่อาศัยอยู่ในประเทศร่ำรวย เป็นประชาธิปไตย เปิดกว้าง มีแนวโน้มที่จะร้องไห้มากกว่า”

คนรวยร้องไห้เก่ง ส่วนคนจนเน้นกัดฟันสู้ ไม่มีเวลาเสียน้ำตา ?

ทำไมคนรวยร้องไห้เก่ง ?

ทีมวิจัยได้ ศึกษาการร้องไห้ของผู้ใหญ่ใน 37 ประเทศ โดยเน้นการวิเคราะห์ถึงความแตกต่างด้านวัฒนธรรม ความถี่ในการร้องไห้ และเหตุผลที่ร้องไห้ พบว่า ผู้ชายชาวออสเตรเลียและอเมริกันเป็นกลุ่มคนที่ร้องไห้มากที่สุดในโลก แต่ผู้ชายชาวไนจีเรีย บัลแกเรีย และมาเลเซีย ร้องไห้น้อยกว่า ในขณะที่ผู้หญิงสวีเดนมีความถี่ในการร้องไห้มากที่สุด แต่ผู้หญิงชาวกานาและเนปาล กลับปฏิเสธการร้องไห้ 

นอกจากนี้ในปี 2011 ‘โดเท เจนเซ่น (Dorte Jensen)’ เจ้าหน้าที่โครงการอาหารโลก ของสหประชาชาติ (WFP) ได้เผยว่า ตอนที่เธอประจำการอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยของเคนย่า เธอเห็นแม่และลูกเล็กสองคนได้รับถุงอาหารยังชีพ ที่บรรจุถั่วลิสง ไขมันพืช และโกโก้ ผู้เป็นแม่ฉีกซองอาหารทันทีและแบ่งให้ลูก พวกเขาไม่ได้พูดคุยหรือแสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งแม่และลูกแค่เดินออกไป เธอเล่าเสริมว่า “เมื่อคุณผ่านจุดหนึ่งของความเหนื่อยล้าไปแล้ว ก็ไม่มีพลังงานใดๆ ที่จะนำมาใช้เพื่อแสดงอารมณ์อีกต่อไป”

ต่อมาในปี 2016 ‘ดร. แมทธิว สวีท (Dr. Matthew Sweet) ’ นักศึกษาประวัติศาสตร์วัฒนธรรม และพิธีกรของ BBC ยังได้กล่าวถึงการร้องไห้ไว้ว่า “การร้องไห้ไม่ใช่พฤติกรรมของคนยากจนบนโลก แต่เป็นการแสดงถึงสิทธิพิเศษ ซึ่งเป็นสิทธิเฉพาะของคนในสังคมที่อยู่กันอย่างสะดวกสบาย”

ถึงตรงนี้จึงสรุปได้ว่า คนที่อยู่ในสังคมสะดวกสบาย ประเทศที่ดีพร้อม มีโอกาสร้องไห้สูงกว่า เนื่องจากพวกเขามีโอกาสในการแสดงออกถึงอารมณ์อย่างเต็มที่ ส่วนคนที่อยู่ในประเทศยากจนอาจปรับตัวและเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตโดยไม่แสดงอารมณ์ออกมามากเกินไป 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดก็เป็นการสังเกตจากกลุ่มตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถเหมารวมได้ทั้งหมด แต่ก็ทำให้เราได้เห็นแง่มุมใหม่ๆ ของอารมณ์มนุษย์ที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิด

ที่มา : The Economist AskMen

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

related