The Myth ภาค 2 โดนวิจารณ์หนัก ใช้ AI วาดหน้าเฉินหลงวัยหนุ่มให้ดูฝืนเกินไป ?
A Legend หนังที่ยกย่องว่าเป็น The Myth ภาค โดนวิจารณ์หนัก เพราะผู้กำกับใช้ AI วาดหน้าเฉินหลงวัย 27 ปีให้ดูออกมาฝืนเกินไป ?
SHORT CUT
- The Myth มีภาค 2 แฟนๆ กลับไม่ค่อยถูกใจ เพราะในเรื่องมีการใช้หน้า AI แทนตัวละครเฉินหลงตอนอายุ 27 ปี
- ชาวเน็ตหลายคนคอมเมนต์ไปในทิศทางเดียวกันว่า เทคโนโลยีทำให้ใบหน้าของเฉินหลง ดูไม่เป็นธรรมชาติ และไม่สามารถแสดงอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม ทำฉากเศร้าให้กลายเป็นตลก
- นักวิจารณ์รายหนึ่งถึงขั้นกล่าวว่า หากผู้ชมซื้อตั๋วโดยคาดหวังว่าจะได้เห็นเฉินหลงใน วัย 70 ปี แสดงฉากเสี่ยงๆ แต่กลับได้เห็นตัวแสดงแทนที่มีใบหน้าผ่านการแปลงโฉมด้วยAI พวกเขาจะรู้สึกเหมือนถูกหลอก”
A Legend หนังที่ยกย่องว่าเป็น The Myth ภาค โดนวิจารณ์หนัก เพราะผู้กำกับใช้ AI วาดหน้าเฉินหลงวัย 27 ปีให้ดูออกมาฝืนเกินไป ?
เชื่อว่าหลายคน น่าจะยังจำความโด่งดังของ The Myth หรือชื่อไทย ‘ดาบทะลุฟ้า ฟัดทะลุเวลา’ ที่ออกฉายในปี 2005 นำแสดงโดย ‘เฉินหลง (Jackie Chan) ’ ดาราที่ดังที่สุดคนหนึ่งของฮ่องกง และ ‘คิมฮีซอน (Kim Hee-sun) ’ นักแสดงหญิงแถวหน้าจากเกาหลีใต้ ที่ทำให้ผู้ชมทั่วเอเชียซาบซึ้งกับความรักทะลุมิติจนลืมไม่ลง และได้ฝากผลงานเพลงชื่อดังที่ทั้งสองช่วยกันร้องไว้อย่าง Endless Love ซึ่งยังคงติดหูจนถึงทุกวันนี้
The Myth มีภาค 2 แล้ว
ล่าสุด The Myth มีภาค 2 แล้ว ชื่อว่า A Legend ที่นำแสดงโดยเฉินหลง ซึ่งปัจจุบันอายุ 70 ปี โดยภาพยนตร์มีทุนสร้าง 50 ล้านเหรียญฯ และเข้าฉายรอบพิเศษที่ประเทศจีนไปแล้ว เมื่อต้นเดือน ก.ค. 67 ที่ผ่านมา แต่แฟนๆ กลับไม่ค่อยถูกใจภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่สานต่อตำนานเดิมเรื่องนี้เท่าไหร่นัก เพราะในเรื่องมีการใช้หน้า AI แทนตัวละครเฉินหลงตอนอายุ 27 ปี
มีการปล่อยภาพใบหน้าเฉินหลงที่สร้างโดย AI เต็มโลกอินเทอร์เน็ต ทำให้ทั้งชาวเน็ตและคนที่ไปดูมาแล้ว วิจารณ์ว่า การทำพยายามใช้ภาพ AI ใน A Legend ล้มเหลวในการสร้างความประทับใจให้พวกเขา และดูฝืนมากๆ
ดราม่า ดาบทะลุฟ้า ฟัดทะลุเวลา 2 ดูปลอม ?
ชาวเน็ตบางคนบอกว่า เฉินหลงที่ถูก AI ความอ่อนเยาวนั้น ดูเหมือน 'เจซี ชาน' ลูกชายของเฉินหลงมากกว่า ตัวของเฉินหลงสมัยหนุ่มๆ และชาวเน็ตหลายคนก็คอมเมนต์ไปในทิศทางเดียวกันว่า เทคโนโลยีทำให้ใบหน้าของเฉินหลง ดูไม่เป็นธรรมชาติ และไม่สามารถแสดงอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม บางครั้งทำให้ฉากจริงจังกลายเป็นฉากตลกโดยไม่ตั้งใจซะงั้น
หนึ่งในคนที่ไปดูรอบพิเศษกล่าวว่า “ขออภัย แต่ AI ตัวนี้น่ากวนใจเกินไป เมื่อมีตัวละครอื่นตายในเรื่อง ใบหน้าของเฉินหลง ที่เป็น AI ดูเหมือนกำลังยิ้มเยาะ มันทำให้คนทั้งโรงหนังหัวเราะกันไปหมด”
ทั้งนี้บางคนออกมาปกป้องภาพยนตร์เรื่องนี้ ด้วยการโชว์ภาพ เฉินหลงสวมชุดเกราะและขี่ม้าจริงๆ เข้าฉาก เพื่อให้เห้นว่าเขายังคงเล่นจริง เจ็บจริงเหมือนในอดีต แต่ฝั่งที่เห็นต่างก็ตอบโต้ด้วยการโชว์ภาพของตัวแสดงแทนของเฉินหลงที่ใช้สำหรับถ่ายทำจากระยะไกล และบอกว่าเฉินหลงเวลานี้ ขี้เกียจเล่นหนังด้วยตัวเองแล้ว
นักวิจารณ์รายหนึ่งถึงขั้นกล่าวว่า “การนักแสดงสูงอายุที่ใช้ตัวแสดงแทนในฉากอันตรายถือเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่หากผู้ชมซื้อตั๋วโดยคาดหวังว่าจะได้เห็นเฉินหลงใน วัย 70 ปี แสดงฉากเสี่ยงๆ แต่กลับได้เห็นตัวแสดงแทนที่มีใบหน้าผ่านการแปลงโฉมด้วยAI พวกเขาจะรู้สึกเหมือนถูกหลอก”
ขณะที่ทางฝั่ง ผู้กำกับ อย่าง ‘สแตนลี่ ตง (Stanley Tong Kwai) ’ และซีอีโอของ Bona Film Group ที่ร่วมงานกับ เฉินหลงมาหลายเรื่องก็ยืนยันถึงเหตุผลที่ใช้ AI ตั้งแต่ช่วงโปรโมทภาพยนตร์แล้วว่า ‘ “เทคโนโลยี AI ได้ทำลายข้อจำกัดของเอฟเฟกต์พิเศษแบบดั้งเดิม ทำให้การสร้างภาพยนตร์มีความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด และทำให้นักแสดงได้มีโอกาสลึกถึงช่วงวัยเยาว์ของตนเองได้” แต่หลังจากมีดราม่าเรื่องใบหน้าเฉินหลงที่ฝืนๆ ของ AI ทาง สแตนลี่ และทีมงานคนอื่นๆ ก็ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นอะไรในประเด็นนี้
ส่วนทางฝั่งประเทศไทย ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีการนำ A Legend มาฉายโรงหรือไม่ หรือคนไทยจะได้ดูทางสตรีมมิ่งแทน ?
ที่มา : South China Morning Post
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
