svasdssvasds

รีวิว A Quiet Place Day One ดินแดนไร้เสียงวันที่หนึ่ง สิบเต็มให้กี่คะแนน?

รีวิว A Quiet Place Day One ดินแดนไร้เสียงวันที่หนึ่ง สิบเต็มให้กี่คะแนน?

รีวิว “A Quiet Place: Day One” ฉบับนี้คือฟูลรีวิว โดยส่วนตัวชื่นชอบ และยังไม่เต็มสิบนัก แต่น้องแมวเอาไปเลยเต็มล้าน มีซีนและ น่ารักมากๆๆ เรื่องราวของภาคนี้ จะย้อนไปในตอนก่อนเกิดเหตุ สัตว์ประหลาดหัวดอกไม้บุกโลก!

SHORT CUT

  • รีวิว “A Quiet Place: Day One” ฉบับนี้คือฟูลรีวิว โดยส่วนตัวชื่นชอบ แต่ยังไม่เต็มสิบนัก ส่วนน้องแมวเอาไปเลยเต็มล้าน
  • เนื้อเรื่องดำเนินการเล่าเรื่องได้ดีโดยส่วนตัว เปิดด้วยความสดใสแห่งนครเมืองนิวยอร์กนี้ ที่มีการแสดงละครหุ่น ดึงมู้ดคนดูโดยการฮีลใจ
  • ดึงดูดใจคนได้มากก็คงเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร ก็ต้องยอมรับว่าหนังเขาก็เล่าได้ดี ออกแนวปรัชญานิดๆด้วยซ้ำ และ น้องแมวไม่ตุย

รีวิว “A Quiet Place: Day One” ฉบับนี้คือฟูลรีวิว โดยส่วนตัวชื่นชอบ และยังไม่เต็มสิบนัก แต่น้องแมวเอาไปเลยเต็มล้าน มีซีนและ น่ารักมากๆๆ เรื่องราวของภาคนี้ จะย้อนไปในตอนก่อนเกิดเหตุ สัตว์ประหลาดหัวดอกไม้บุกโลก!

รีวิว “A Quiet Place: Day One”

ย้อนกลับไปสู่ปฐมบทของทุกสิ่งอย่าง เมื่อมหานครนิวยอร์กถูกรุนรานโดยสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่ออกตามล่าด้วยเสียง หญิงสาวที่ชื่อว่า แซมมี่ ก็พยายามที่จะเอาชีวิตรอดจากมหันตภัยในครั้งนี้ นำแสดงโดย ลูพิต้า เอ็นยองโง รับบท แซมมี่ , โจเซฟ ควินน์ รับบท อีริก , อเล็กซ์ วูลฟ์ รับบท รูเบ็น , ดิจิมอน ฮาวน์ซู รับบท เฮนรี ,
เอเลียน อูเฮียร์ รับบท เซนา

A Quiet Place: Day One

อุกกาบาตลูกแรกพุ่งชนโลก จุดเริ่มต้นแห่งความพังพินาศ

เนื้อเรื่องดำเนินการเล่าเรื่องได้ดีโดยส่วนตัว เปิดด้วยความสดใสแห่งนครเมืองนิวยอร์กนี้ ที่มีการแสดงละครหุ่น ดึงมู้ดคนดูโดยการฮีลใจ แสดงถึงความใช้ชีวิตอันแสนปกติสุข ความสวยงามของบ้านเมือง และความธรรมชาติ เข้าใจว่าหนังพยายามเล่าเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดหัวดอกไม้นี่ ว่าบุกมาแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะทุกอย่างคือการใช้ชีวิตโดยปกติ และดำเนินเรื่องโดย ลูพิต้า เอ็นยองโง ชื่อว่า "แซมมี่" ซึ่งเป็นการเล่นกับจิตใจคนอย่างหนึ่งโดยการที่ผูกโรคประจำตัว ให้ตัวละคร ทำให้การใช้ชีวิตนั้นเหลือน้อยเต็มที พร้อมกับเลี้ยงเจ้าเหมียวอีก 1 ตัว น้อง "โฟรโด้" และการเข้าเมืองเพื่อที่จะไปกินพิซซ่า ความฝันเพียงหนึ่งเดียวที่มีก่อนจะตาย

A Quiet Place: Day One

หนังก็เริ่มดึงมู้ดคนดูโดยการที่กำลังทุกอย่างเริ่มจะโกลาหล เพราะ อุกกาบาต บุกมาแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้เกิดความงุนงง มาถึงตรงนี้เชื่อว่าทุกคนที่ดู คงคิดแล้วว่าเราน่าจะได้เห็นอะไรมันส์ๆเป็นแน่หลังจากนี้ ทว่าไม่เลยหนังดำเนินไปแบบเอื่อยๆ เล่าการเริ่มต้นแบบเนืองๆ จนขณะนั่งดูอยู่ก็รู้สึกว่าจะหลับ มันไม่เร้าใจแบบที่คิดไว้ แต่ก็สามารถเข้าใจได้เราจะไปเปรียบเทียบภาคก่อนๆคงเป็นไปไม่ได้ การจะได้เห็นวิ่งแบบ survival เรียกได้ว่าน้อยๆมาก ในภาค Day One นี้ 

มาถึงกลางเรื่องก็ได้มาเจอเพื่อนร่วมทาง ส่วนใหญ่เป็นการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครและความพยายามเอาชีวิตรอดของ 2 นักแสดงหลัก จริงๆแล้วสิ่งที่ทุกคนคาดหวังว่า เห้ย หนังเรื่องนี้มันคือเอเลี่ยนบุกโลก และแน่นอนเราจะต้องเห็นการตอบโต้จากมนุษย์ แต่สิ่งที่หนังสื่อมานั้นคือการตั้งรับ ซึ่งถ้าเทียบกับความเป็นจริงนั้น เราก็คือรอแต่ความช่วยเหลือ และทุกอย่างดูเอื้อเจ้าสัตว์ประหลาดหน้าดอกไม้นี่มาก คือ หูดีเหลือเกินน 

A Quiet Place: Day One

แต่สิ่งที่น่าจะดึงดูดใจคนได้มากก็คงเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร ก็ต้องยอมรับว่าหนังเขาก็เล่าได้ดี ออกแนวปรัชญานิดๆด้วยซ้ำ การที่ทำให้รู้สึกถึงเห็นอกเห็นใจ ความเป็นตัวถ่วง ความอยู่รอดของใครสักคน ก็ถือว่าเล่าโอเคเลยนะคะ แต่แน่นอนเราจะไปอวย เราต้องตามเนื้อภาพ ให้คะแนนน้องแมวและนักแสดงล้วนๆ ทุกๆคนสื่ออารมณ์ได้ดีมาก ทั้งคู่ไม่ว่าจะเป็น ลูพิต้า เอ็นยองโง และ โจเซฟ ควินน์ 

แน่นอนว่ามันคือหนังเงียบ พวกเขาสองคนก็สื่ออารมณ์ผ่านสีหน้าและแววตาได้ดีมากๆ ยอมรับบเลย และคนสุดท้ายที่เราไม่พูดถึงไม่ได้ในเรื่องนี้ ก็คือน้อง "โฟรโด้" ปล่อยมาทีก็เอาเราตัวเกร็งไปตามๆกัน กลัวน้องจะร้องมั่งอะไรมั่ง ไปในที่ๆไม่ควรมั่ง คือน้องก็ทำเสียวๆนิดๆ แต่นั่นแหละค่ะ ถ้าใครหวังเรื่องซึ้งกินใจก็ยังพอได้ แต่ถ้าหวังว่าจะได้เห็นเอเลี่ยนบุกโลกมันส์ๆล่ะก็ คงต้องไปดูเรื่องอื่นกันแล้วแหละ สุดท้ายยังไงก็นี่เป็นแค่รีวิวส่วนตัว ควรจะต้องไปดูด้วยตาตัวเอง อย่างน้อยๆก็ไปดูความน่ารัก ของน้องเหมียว "โฟรโด้" กันแค่นี้ก็น่าจะคุ้มแล้วว แอบกระซิบน้องไม่ตุยนะ...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related