SHORT CUT
Exhuma (เอ็กซ์ซูม่า) หนังแนวลึกลับ สยอง ของเกาหลี ที่ว่าด้วยเรื่องของความเชื่อ อิงสร้างจากเรื่องจริงในช่วงสงครามที่ญี่ปุ่นบุกเกาหลี แล้วมีคนบางกลุ่มทรยศชาติตัวเอง
หนังเรื่อง Exhuma ภายในเรื่องนั้นสร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง อิงประวัติสาสตร์ นั่นก็คือในสมัย สนธิสัญญาญี่ปุ่น-เกาหลีฉบับที่สอง ปี 2448" หรือ "สนธิสัญญาอึลซา" เป็นสนธิสัญญาที่กระทำขึ้นระหว่างจักรวรรดิญี่ปุ่นกับจักรวรรดิเกาหลี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1910 ณ กรุงฮันซอง สนธิสัญญาฉบับนี้ทำให้เกาหลีหมดสิ้นอำนาจการปกครองตนเองโดยสมบูรณ์
ในสมัยนั้นมี นายกรัฐมนตรี ฮัน กยู-ซอล คือ ฝ่ายต่อต้านพร้อมด้วยรัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรียุติธรรมที่ต่อต้านต่อต้าน แต่เสียงของเขาไม่มีอำนาจพอจะต่อต้านได้ เพราะมี "คนขายชาติ" ในคณะรัฐมนตรียอมทำตามญี่ปุ่น
รัฐมนตรีทั้งห้า คือ อี วัน-ยง, อี กึน-แท็ก, อี จี-ยง, ควอน จุง-ฮย็อน และพัค เจ-ซุน ร่วมกันลงนามยอมรับ "สนธิสัญญาญี่ปุ่น-เกาหลีฉบับที่สอง ปี 2448" หรือ "สนธิสัญญาอึลซา" แม้ว่าพระเจ้าโคจงจะทรงปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญาด้วยตัวเอง ทำให้เกาหลีตกเป็นรัฐอารักขาของญี่ปุ่นเพราะ "คนขายชาติทั้งห้าแห่งสนธิสัญญาอึลซา" เมื่ออิโต ฮิโรบูมิ ดำรงตำแหน่งเป็นข้าหลวงใหญ่ของญี่ปุ่นประจำเกาหลี พวกคนขายชาติทั้งห้าต่างก็ได้ดิบได้ดีกันถ้วนหน้า
เล่ากันว่า อี กึน-แท็ก หนึ่งในรัฐมนตรีขายชาติหลังจากลงนามในสนธิสัญญาอึลซาแล้วกลับมาบ้าน บอกกับคนในบ้านด้วยความยินดีกว่า
ครอบครัวเราจะรวยกันใหญ่แล้วนับจากนี้ เราจะมีวาสนาไม่สิ้นสุดในภายภาคหน้า เมื่อคนครัวที่กำลังแล่เนื้อได้ยินเข้าก็สับมีดลงบนเขียงดังปัง แล้ววิ่งออกจากบ้านไปพลางร้องตะโกนว่าตัวเขามารับใช้คนขายชาติเสียแล้ว ส่วนคนรับใช้ที่ทำหน้าที่เย็บผ้าก็ประณามเจ้านายแล้วออกจากบ้านไปเช่นกัน
คนเกาหลีมีความโกรธแค้นคนขายชาติเหล่านี้มาก และตั้งกลุ่มลอบสังหารขึ้นมา เช่นกลุ่ม "ซันอินโจ อัมซัลดัน" แม้แต่อิโต ฮิโรบูมิ ก็ถูกลอบสังหารด้วย หนึ่งใน5คนขายชาติ ตายไปแล้วศพก็ถูกฝังสุสานที่ภูเขานังซันอันห่างไกล ในที่สุดในปี 2522 ทายาทสายตรงได้ ทำลายสุสานทั้งหมดและศพก็ถูกเผา ส่วนหลุมฝังศพของเขาถูกแปลงเป็นเหมืองหินไม่เหลือร่องรอยอีกเลย
สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนขายชาติ ก็เหมือนกับการประนาม แต่สิ่งที่คล้ายกับตำนานของคนไทยเรานั้นไม่ใช่ลอบสังหารแต่อย่างใด แต่ลงเอยแบบเดียวกันนั่นก็คือการ "สร้างเสาหลักเมือง"
การ "สร้างเสาหลักเมือง" หรือในตำนานที่รู้กันว่า การ "ฝังคนทั้งเป็น" ไม่ใช่เพียงรับรู้กันในหมู่คนไทย ชาวต่างชาติที่เคยเข้ามาในไทย หรือสื่อต่างชาติที่เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองไทยก็คงรับรู้และกล่าวถึงคติความเชื่อนี้เช่นกัน
การตั้งเสาหลักเมือง เมื่อจะมีการสร้างเมืองขึ้นใหม่นั่นเอง ถึงแม้ว่าธรรมเนียมการตั้งเสาหลักเมือง จะเป็นพิธีทางศาสนาพราหมณ์ก็ตามที แต่ชาวไทยเราก็ได้ปฏิบัติกันมาจนแทบจะกลายเป็นประเพณีไทยไปแล้ว และบันทึกตามตำนาน อิน จัน มั่น คง
เรื่องราวที่เล่าสืบกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โบราณถือว่า พิธีสร้างพระนคร หรือ สร้างบ้าน สร้างเมือง โดยในพิธีนั้น จะมีการฝังเสาหลักเมือง และเสามหาปราสาท โดยจะต้องเอาคนที่มีชีวิตทั้งเป็นฝังลงในหลุม เพื่อให้เป็นผู้เฝ้ามหาปราสาทบ้านเมือง ป้องกันอริราชศัตรู มิให้มีโรคภัยเกิดแก่เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ผู้ปกครองนครบ้านเมือง
ซึ่งการทำพิธี ต้องนำเอาคนที่มีชื่อ อิน จัน มั่น คง ฝังลงหลุมจะถือว่าศักดิ์สิทธิ์ เมื่อถึงเวลาทหารจะเรียกชื่อ อิน จัน มั่น คง ตามบ้านเรือน และหากใครโชคร้ายขานรับขึ้นมา จะถูกนำตัวไปเลี้ยงดูอย่างดี กินอิ่ม นอนหลับ โดยไม่บอกอนาคตล่วงหน้า ว่าจะเจอกับอะไร
และเมื่อได้ฤกษ์ก็จะแห่ (อิน จัน มั่น คง) ไปที่หลุม และทำการสั่งเสียกับพวกเขา ว่า ให้คอยเฝ้ารักษาประตูเมือง และพระราชวังไว้ และให้แจ้งข่าวให้รู้กันทั่ว หลุมเสาหลักเมืองนั้น จะผูกเสาคานใหญ่ ชักขึ้นเหนือหลุมนั้นในระดับสูงพอสมควรและ โยงไว้ด้วยเส้นเชือกสองเส้น และเมื่อถึงวันกำหนด เขาก็ตัดเชือกปล่อยให้เสาหรือซุงหล่น ลงมาบนศีรษะผู้เคราะห์ร้ายที่ตกเป็นเหยื่อของการถือโชคถือลางนั้น
สุดท้ายนี้ถึงแม้ว่า จะเป็นสิ่งที่ลงเอยเหมือนกัน แต่รูปแบบต้นตอนั้นช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิงของทางเกาหลีเป็นการทรยศและขายชาติ แต่ทางของเรากลับเป็นการเฝ้าสมบัติของชาตินั่นเอง อย่างน้อยเรื่องราวปัจจุบันในทุกวันนี้ ก็ช่วยให้เราได้รู้ประวัติศาสตร์ ผ่านรูปแบบของการดูหนัง และ เรื่องราวที่เล่าสืบทอดต่อกันมา