เนื่องในวันแห่งความรัก Spring News ชวนย้อนดูภาพยนตร์เรื่อง My Best Friend's Wedding ผลงานสุดคลาสสิคจากยุค 90s ที่บอกเล่าเรื่อง 'เพื่อนรักเพื่อน' เราได้เรียนรู้อะไรจากภาพยนตร์เรื่องนี้
My Best Friend’s Wedding เป็นภาพยนตร์ โรแมนติก-คอเมดี้ ผลงานมาสเตอร์พีชจากยุค 90s บอกเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์แบบ "เพื่อนรักเพื่อน"
ภาพยนตร์จะพาเราติดตามไปกับ จูเลียน (จูเลีย โรเบิร์ท) นักเขียนวิจารณ์อาหาร ร้อยยิ้มสวย รวยเสน่ห์ และเจ้าเพื่อนสนิทสุดฮ็อตอย่าง ไมเคิล (เดอร์มอท มัลโรนี่) นักข่าวกีฬาผู้เป็นอดีตคนรักและกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเธอ
ความพิเลนของเพื่อนสนิทคู่นี้คือ จูเลียนและไมเคิลเคยให้คำมั่นกันไว้ว่า หากพวกเราทั้งคู่อายุครบ 28 ปี แล้วตอนนั้นยังโสดอยู่ ทั้งสองจะแต่งงานกัน ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ก็คิดว่าแค่พูดเล่น ๆ
แต่ความวายป่วงก็เกิดขึ้นเมื่อ จู่ ๆ ไมเคิลก็โทรมาแจ้งว่า "ผมกำลังจะแต่งงานในอีก 4 วันข้างหน้า" หลังจากนั้น จะเป็นเรื่องราวของ การทวงคืนผู้ชายคืนของจูเลียน
เนื่องในวันแห่งความรัก ผู้เขียนคิดว่า หากเราหยิบแง่มุมด้านความรัก มาพูดคุยกัน น่าจะได้แง่มุมอะไรบางอย่างกลับไป
*มีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์
หลังจากที่จูเลียนได้ยินจากปากของไมเคิลเองว่า “ฉันกำลังจะแต่งงานในอีก 4 วันนี้” อาหารหึงหวงก็เข้าครอบงำจูเลียนทันที เอาแค่เฉพาะตรงนี้เราในฐานะคนดูก็เกิดคำถามแล้วว่า แล้วที่ผ่านมา 9 ปี เอ็งทำอะไรอยู่ จูเลียน!
จากนั้น หนังก็พาเราเดินทางไปพร้อมกับจูเลียน เพื่อดูภารกิจ “ทวงคืนไมเคิล” จากคิมมี่ สาวบ้านรวย ผมบลอนด์ เรียนไม่จบ ร้องเพลงก็ไม่เก่ง แถมเพิ่งเจอกันไม่นาน จะมาแต่งงานกันได้อย่างไร เหมือนที่จูเลียนบอกว่า “ใครมาก่อนมีสิทธิ์”แล้วมาดูกันว่างานนี้หัวใจของใครจะเจ็บปวดมากกว่ากัน
หนึ่งฉากที่เผยให้เห็นด้านร้ายของจูเลียนคือ ฉากที่ทั้งสามคนรวมตัวกันที่ร้านคาราโอเกะ แผนการของจูเลียนคือ ต้องการทำให้คิมมี่รู้สึกอับอาย ด้วยสกิลการร้องเพลงของเธอที่จัดว่า ‘ห่วยเข้าขั้น’ เพื่อเติมเชื้อไฟ ให้ไมเคิลฉุกคิดอีกครั้งว่าเขา ‘เลือกผิด’
แต่ก็นะ... สุดท้ายคนร้ายก็พ่ายภัยตัวเอง แทนที่คิมมี่จะอับอาย ซึ่งก็เป็นแบบนั้นอยู่ชั่วครู่ จากเสียงโห่ของคนในร้าน ก็เปลี่ยนกลายเป็นเสียงปรบมือเอาใจช่วย ใบหน้าของไมเคิลที่ส่อว่า ‘อีหยังวะ’ กลับฉีกยิ้มออกมาเฉยเลย เป็นไงล่ะจูเลียน หารู้ไม่...เขาจะรักกันกว่าเดิมอีก
“สรุปว่าเธอรักเขาจริง ๆ หรือแค่อยากเอาชนะ”
แต่หลังจากนั้น จูเลียนก็งัดไม้เด็ดออกมาอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปลอมอีเมล ทำตัวสนิทสนมให้คิมมี่รู้สึกกลายเป็นคนนอก พลั่งพลูเรื่องราวที่มีแค่ ‘เธอและไมเคิล’ เท่านั้นที่รู้
บอกตรง ๆ ถึงตรงนี้ เราเริ่มรู้สึกว่าจูเลียนเริ่มไม่น่ารัก และที่สำคัญเลยนะ ไม่อยากให้จูเลียนสมหวังกับไมเคิลอีกแล้ว แต่ถ้าจะยอมรับกันจริง ๆ มันก็มีให้เห็นอยู่ถมไป ด้วยเหตุผลเดียวเลยคือ ความเป็น ‘มนุษย์’ หัวใจ ความรู้สึก เพราะบ่อยครั้งที่ตรรกะใด ๆ ก็ใช้ไม่ได้กับหัวใจ
หนึ่งในฉากเรียกน้ำตา และอาจเรียกได้ว่าเป็นฉากสำคัญของเรื่อง คือ ฉากที่จูเลียนและไมเคิลไปล่องเรือกัน พร้อมกับบทสนทนาธรรมดา ๆ ที่เป็นเหมือนหัวใจของภาพยนตร์เรื่องนี้
สถานการณ์ตอนนี้ ทำให้เราลุ้นว่าความรู้สึกข้างในของจูเลียน เธอจะเอ่ย ‘คำ ๆ นั้น’ ต่อหน้าไมเคิลหรือไม่ ซึ่งขณะดูเราก็มั่นใจว่า หากจูเลียนเอ่ยออกไปไมเคิลก็พร้อมจะทลายการแต่งงานครั้งนี้ทันที
กระทั่งเรือลอดผ่านสะพาน ในสภาวะไร้แสงแดด ไร้คนสนใจ ไมเคิลรอจูเลียนเอ่ยคำ ๆ นั้นอย่างใจจดใจจ่อ แต่สุดท้าย แสงแดดก็สาดส่อง และไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจำปากของจูเลียน ซึ่งหากจูเลียนเอ่ยออกไปจริง ๆ คุณคิดว่าไมเคิลจะจัดการกับก้อนความรู้สึกตรงนี้อย่างไร ไมเคิลต้องการคำ ๆ นี้มาตั้ง 9 ปี มิใช่หรือ
“คิมมี่บอกผมว่า หากเรารักใคร ให้เอ่ยออกมาดัง ๆ ก่อนที่โอกาสนั้นจะหลุดลอยไป” ไมเคิลบอกจูเลียน
มีหลายอารมณ์มากที่ผู้เขียนรู้สึกกับภาพยนตร์เรื่อง My Best Friend’s Wedding ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นบทเรียนได้ไหม แต่หลังจากที่ได้ดู ผู้เขียนรู้สึกว่าจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปแบบเปล่าประโยชน์ กับทุกเรื่องเลย โดยเฉพาะเรื่องหัวใจ
ไม่ได้บอกว่าชอบใครก็พุ่งไปบอกชอบโต้ง ๆ นะ แต่หมายความว่า เราจะกล้าทำในสิ่งที่เชื่อมากขึ้น ซึ่งนั่นต้องเป็น Choice ที่ผ่านการคิดมาอย่างถี่ถ้วนจนเรามั่นใจแล้ว
อีกอย่างคือ ต้องฝึกยอมรับความจริง หลายครั้งที่ความจริงมักไม่ค่อยตรงกับสิ่งที่หัวใจเราคาดหวัง แต่จงทำใจเอาไว้นะ เพราะความจริงจะเกิดกับเราทั้งชีวิต จะสุขหรือทุกข์ อยู่ที่หัวใจเราจะจัดการ
ขอให้ทุกคนกล้าทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อนะ และที่สำคัญ สุขสันต์วันวาเลนไทน์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง