SHORT CUT
สเนปควรเป็นคนดำหรือไม่? เมื่อความหลากหลายทางเชื้อชาติ ในโลกเวทมนตร์อาจกลายเป็นภาระของนักแสดงผิวสี มันคุ้มหรือไม่ ?
แฟนๆ Harry Potter คงทราบกันดีแล้วว่า ‘พาพา เอสซิเอ็ดู (Paapa Essiedu)’ นักแสดงชาวอังกฤษเชื้อสายกานา จะได้รับบท ‘เซเวอรัส สเนป’ ในซีรีส์ เวอร์ชันใหม่ของ HBO ซึ่งจุดชนวนดราม่าในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว
นี้ นักวิจารณ์ผิวดำและคนผิวสีจำนวนไม่น้อยกลับแสดงความกังวลเช่นกัน ว่าการให้คนดำรับบทตัวละครที่ “มีคนเกลียด” มากที่สุดในเรื่องนั้น อาจไม่ใช่การเปิดพื้นที่ให้ความหลากหลาย แต่อาจการผลักภาระให้กับนักแสดง !
แม้การคัดเลือกคนผิวดำมารับบทเด่นในซีรีส์ดังจะดูเป็นชัยชนะของการ “เป็นตัวแทน” (representation) แต่ในความเป็นจริง นักแสดงผิวสีมักถูกปล่อยให้รับมือกับกระแสด่าทอเพียงลำพัง
อย่างที่เกิดขึ้นกับ โนมา ดูเมซเวนี (Noma Dumezweni) นักแสดงผิวดำที่เคยรับบท เฮอร์ไมโอนี่ (Hermione Granger) ในละครเวที Harry Potter and the Cursed Child ซึ่งต้องเผชิญกับแฮชแท็ก #NotMyHermione และถ้อยคำเหยียดผิวตลอดระยะเวลาที่แสดง
หรืออย่าง ลิอาห์ ซาวา เจฟฟรีส์ (Leah Sava Jeffries) ที่รับบท แอนนาเบธ (Annabeth) ใน Percy Jackson เวอร์ชันใหม่ ก็เคยถูกโจมตีหนักจน ริก ไรออร์แดน (Rick Riordan) ผู้เขียนนิยายต้นฉบับ ต้องออกโรงปกป้องและประณามการเหยียดเชื้อชาติอย่างตรงไปตรงมา
ประเด็นที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ คือ “ตัวตน” ของ เซเวอรัส สเนป เอง เขาเป็นตัวละครที่มีความมืดมน เย็นชา และถูกเขียนให้อยู่ในตำแหน่งที่คลุมเครือทางศีลธรรม
สเนปยังถูกตราว่าเป็น “เจ้าชายเลือดผสม” (Half-Blood Prince) ซึ่งถือเป็นชนชั้นรองจากพ่อมดเลือดบริสุทธิ์ที่แฝงอยู่ในโลกของ Harry Potter
เมื่อใส่คนผิวดำเข้าไปในบทนี้ ความซับซ้อนทางเชื้อชาติและสังคมที่อาจตามมา ก็อาจกลายเป็นช่องให้แฟนคลับเหยียดสีผิวมี “ข้ออ้าง” ในการโจมตีได้ง่ายขึ้น
การเปลี่ยนสีผิวของตัวละครโดยที่ “เรื่องเล่าไม่รองรับ” มักเป็นเพียงเปลือกนอกของความหลากหลายที่ข้างในไร้แก่นสาร ในขณะที่งานสร้างน้อยเรื่องนัก ที่เขียนตัวละครผิวดำให้มีมิติและเป็นศูนย์กลางของเรื่องอย่างแท้จริง
น่าเสียดายที่หลายโปรเจกต์ยังไม่ก้าวข้ามการใช้ “คนผิวดำเป็นพร็อพ” ไปได้ โดยเฉพาะเมื่อผู้สร้างอย่าง เจ.เค. โรว์ลิ่ง (J.K. Rowling) เองยังมีประวัติการแสดงความเห็นที่กีดกันความหลากหลายอื่น เช่น กลุ่มคนข้ามเพศ
การเห็น พาพา เอสซิเอ็ดู ได้รับบทสำคัญในซีรีส์ระดับโลกควรเป็นสิ่งน่ายินดี แต่ถ้าราคาที่เขาต้องจ่ายคือการถูกเหยียดหยาม ถูกลดทอนความเป็นมนุษย์ และไม่ได้รับการปกป้องจากทีมงาน เราควรนิยามสิ่งนั้นว่า “การเป็นตัวแทน” ได้จริงๆหรือ?
ในโลกที่นักแสดงคนผิวดำยังคงถูกวิจารย์ว่าอยู่ผิดที่ผิดทาง ทำไมทางคณะผู้สร้างถึงยังให้นักแสดงผิวดำต้องมารับบทตัวละครที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้แฟนๆ ไม่พอใจ นี่คือ "ความเท่าเทียม" หรือแค่การเอานักแสดงมาแขวนไว้ให้โดนเกลียด และ
สุดท้าย ตัวของ ‘พาพา เอสซิเอ็ดู’ จะได้รับผลกระทบขนาดไหน คงต้องติดตามอีกทีตอน ซีรีส์ออกฉายเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง