แนะนำยี่ห้อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี พร้อมการรับมือกับอาการบวมหลังฉีด

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมเต็มสาร ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่เรียกกัน HA เป็นการสารที่สร้างขึ้นโดยการเลียนแบบจากธรรมชาติ ซึ่งจะทำการฉีดเขาไปบริเวณใต้ตาที่มีรอยคล้ำหรือต้องการแก้ไขข้อบกพร่องบริเวณรอบดวงตา ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีจากอายุมีมากขึ้นทำให้กระดูกใต้ตายุบลง เนื้อเยื่อที่หุ้มก็จะหย่อนคล้อยตาม ถ้าได้รับการเติมเต็มของฟิลเลอร์เข้าไปแล้วจะทำให้กลับมามีใบหน้าที่สดใสดูอ่อนกว่าวัย

รอยหมองคล้ำใต้ตามาจากสาเหตุอะไร

เป็นโรคภูมิแพ้ : โรคภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดรอยคล้ำบริเวณใต้ตา คือระบบการทำงานของเลือดติดขัด บางทีอาการตาบวมก็เป็นการปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดได้ จนทำให้เกิดเลือดคลั่งในชั้นใต้ผิวหนังตา ซึ่งผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ก็มักจะมีอาการคันบริเวณตา ทำให้ต้องขยี้อยู่เป็นประจำ จึงเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รอบดวงตาคล้ำ

อายุ : เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นจะทำให้เกิดร่องแก้มลึก ตาโหล ตาดำ และเมื่อเจอแสงความชัดก็จะเห็นมากขึ้น ในบางคนอาจมีไขมันถุงใต้ตามากเกินไป

พักผ่อนไม่เพียงพอ : คนที่ไม่มีเวลาพักผ่อนหรือพักผ่อนน้อยจะส่งผลให้รอบดวงตาคล้ำ ไม่สดชื่น ตาดูล้า และวิธีที่ง่ายที่สุดต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยไม่ต่ำกว่าวันละ 6-8 ชั่วโมง ไม่เพียงแต่การพักผ่อนเท่านั้นการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาคล้ำได้

พันธุกรรม : ส่วนหนึ่งสาเหตุใต้ตาคล้ำ ตาโหล ตาดำ ก็มาจากพันธุกรรม เพราะลักษณะโครงหน้าของบางคน เช่น คนชาวตะวันตกมีเบ้าตาที่ลึกโครงหน้าดูเหมือนแขก และเมื่อเจอแสงกระทบทำให้ดูตาคล้ำ

ถุงใต้ตามีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร

การแก้ไขปัญหาเรื่องตาคล้ำ มีถุงใต้ตานั้นมี 2 วิธีที่แนะนำ

• ฉีดไขมันใต้ตา : ซึ่งเป็นการใช้ไขมันส่วนต่างๆของร่างกายตัวเองมาฉีดไม่ว่าจะเป็นไขมันต้นขา ไขมันหน้าท้อง โดยการนำมีฉีดบริเวณใต้ตาแทน จะเหมาะกับคนที่มีร่องตาลึกและกว้าง จนทำให้ใต้ตาดูกระชับเป็นธรรมชาติ
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา : จะเป็นการฉีดสารไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เข้าไปเติมเต็มบริเวณร่องใต้ตา ซึ่งจะช่วยเติมเต็มใต้ตาให้ดูเป็นธรรมชาติ ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นใต้ตาได้

ใครบ้างที่เหมาะกับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

• คนที่มีใบหน้าดูไม่สดใส พักผ่อนน้อย จนทำให้มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา
• คนที่อายุมากขึ้น กระดูกใต้ตายุบตัวลงจนทำให้ตาดูลึก
• คนที่ตาโบ๋ ตาลึก บางคนมาจากพันธุกรรมของตัวเอง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ข้อบกพร่องได้อย่างไร

เมื่ออายุของแต่ละคนเพิ่มมากขึ้น กระดูกบริเวณใต้ตาก็จะยุบตัวลง เนื้อหุ้มก็หย่อนคล้อย ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเข้ามาช่วยเติมเต็มข้อบกพร่องตรงนี้

• ตาโหล เบ้าตาลึก เกิดจากการยุบตัวของโครงกระดูกใต้ตา
• ขอบตาดำ ตาคล้ำ บริเวณใต้ตา
• ถุงใต้ตาที่หย่อนคล้อย ให้ให้เกิดริ้วรอย
• ริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา

ใช้ฟิลเลอร์ปริมาณแค่ไหนในการฉีดใต้ตา

ตามปกติแล้วคนทั่วไปจะใช้ปริมาณของฟิลเลอร์ในการฉีดแต่ละครั้งอยู่ประมาณ 1-3 CC แต่สำหรับคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปอาจจะต้องใช้ถึง 4 CC เพราะกระดูกบริเวณกลางหน้าเกิดการยุบลงไปเยอะ หรืออาจจะใช้ปริมาณมากกว่านี้ในบางรายได้ โดยผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ขึ้นกับสภาพผิว ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้และรุ่นฟิลเลอร์ที่ฉีด

ส่วนใหญ่แล้วเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร

ตามสถานบริการความงามโดยทั่วไป แพทย์จะเลือกใช้ แบรนด์ Juvederm รุ่น Voluma เพราะเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับระดับต้นๆของอเมริกา แต่ก็ยังมีอีกหลายยี่ห้อที่ผ่านอย.ในไทย และสามารถใช้ได้เช่นกัน ได้แก่ Restylane , Bolotero(ฟิลเลอร์จากฝั่งยุโรป), Neuramis (ฟิลเลอร์เกาหลี) สามารถเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมตามงบประมาณคนไข้ได้

อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์

อาการข้างเคียงการฉีดฟิลเลอร์มีเพียงอาการบวมเป็นรอยแดงจากการถูกเข็ดจิ้มเข้าไปเพียงเท่านั้นเอง แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆหายเองประมาณ 2-3 วัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน

โดยมาตรฐานส่วนใหญ่ของฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid หรือ HA แต่ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนั้นจะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ด้วย ซึ่งฟิลเลอร์จะเป็นสารที่เลียนแบบจากธรรมชาติสามารถสลายได้เองตามกระบวนการโดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังทำเห็นผลลัพธ์ได้ทันที : ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไป และยังสามารถปรับแก้ไขได้ในทันทีหลังทำ

ไม่ต้องผ่าตัด : ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัดกลัวว่าผ่าตัดแล้วจะมีผลข้างเคียงแล้วแก้ไขอยาก

ไม่ต้องพักฟื้น : การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการใช้เข็มฉีดเข้าไปบริเวณใต้ตาจะมีเพียงแค่แผลเข็มจิ้มเล็กๆ และรอบบวมเล็กน้อย หลังทำเสร็จก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้น

ไม่ว่าจะเลือกการรักษาใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือการผ่าตัดนั้น ควรเลือกและศึกษาข้อมูลไม่ดีก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะหากทำไปแล้วเกิดข้อผิดพลาดจะแก้ไขได้อยาก และรีวิวผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันไปแต่ละบุคคล ซึ่งผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่อง