"มาเด้คอลลาเจน" ต่างกับการฉีดเมโสหน้าใสอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน จุดเด่นจะช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิวหนัง ลดผิวอักเสบ ลดผื่นแพ้ ลดสิว และช่วยให้หน้าขาวใสขึ้น
การบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวหน้าด้วยการฉีดมาเด้คอลลาเจนถูกจัดหมวดหมู่ให้อยู่ในกลุ่มของเมโสที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ในเรื่องของการดูแลผิวหน้า ช่วยทำให้ใบหน้าดูใสขึ้น ฟื้นฟูสภาพผิว ให้กลับมาแข็งแรง และยังสามารถช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในผิวหนังได้ ทั้งยังช่วยรักษาเรื่องการชะลอวัยให้กับผิว
มาเด้คอลลาเจน คืออะไร
มาเด้คอลลาเจน (made collagen) คือ ชื่อยี่ห้อของยาที่ฉีดผลิตจากประเทศอิตาลี ถูกจะใช้ในการทำเมโสหน้าใส โดยการฉีดด้วยเทคนิค 16 จุดทั่วใบหน้า ซึ่งจุดเด่นจะช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิวหนัง ลดผิวอักเสบ ลดผื่นแพ้ ลดสิว และช่วยให้หน้าขาวใสขึ้น
มาเด้คอลลาเจนต่างจากเมโสหน้าใส
เมโสหน้าใสมีหลายยี่ห้อและเทคนิคในการฉีดที่แตกต่างกัน ซึ่งมาเด้คอลลาเจนก็เป็นชื่อเมโสยี่ห้อหนึ่ง การฉีดเมเด้คอลลาเจนจะใช้เทคนิคการฉีด 16 จุด บนใบหน้า จะเป็นจุดที่มีการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองให้การทำงานดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
เมโสหน้าใสมีส่วนผสมทำให้หน้ากระจ่างใส ลดรอยด่างดำบนใบหน้า และจะช่วยกระชับรูขุมขนได้ดี ส่วนมาเด้คอนลาเจน ช่วยลดสิว ผดผื่น อาการอักเสบ และช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายออกมา จึงเหมาะสำหรับการฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาแข็งแรงขึ้น
มาเด้คอลลาเจน ช่วยอะไรบ้าง
มาเด้คอลลาเจน ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้า เช่น ผื่น สิว รอยกระ ฝ้า ริ้วรอย และจุดด่าดำ ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากสภาวะมลพิษหรือสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย มาเด้คอลาเจนเหมาะมากเพราะถูกออกแบบมาเพื่อขับล้างสารพิษในร่างกายโดยเฉพาะ
ฉีดมาเด้คอลลาเจน กี่ครั้งเห็นผล
การฉีดมาเด้คอลลาเจนสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกว่าผิวนุ่มลื่นขึ้น แต่ถ้าต้องการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น ควรฉีดต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยจะต้องทำการฉีด 5 ครั้งขึ้นไปอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
มาเด้คอลลาเจน อยู่นานแค่ไหน
หลังจากทำการฉีดมาเด้คอลลาเจนไปแล้ว 1 ครั้ง แพทย์จะแนะทำให้ทำการฉีดอย่างต่อเนื่องคือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ใน 1 เดือนแรก จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ได้ 1-2 เดือน และหลังจากนั้นก็ลดลงเหลืออย่างน้อย 2 อาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง เพื่อให้สภาพผิวคงสภาพไปเรื่อยๆ
ฉีดมาเด้คอลลาเจนกี่วันเห็นผล
หลังการฉีดมาเด้คอนลาเจน จะเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวใน 3 วัน สำหรับคนที่มีปัญหาไม่หนักมาก แต่จะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างมากขึ้นในการฉีดครั้ง 1-2 แต่สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องผิวมากจะเห็นผลในระยะเวลา 4-5 สัปดาห์หลังจากทำ
การดูแลตนเองหลังฉีดมาเด้คอลลาเจน
หลังการฉีดมาเด้คอลลาเจนสามารถกลับมาให้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งในกรณีที่ผิวบอบบาง อาจมีรอยแดงบริเวณที่เข็มจิ้มลงไป แต่จะจางหายเองใน 2-3 ชั่วโมงหลังจากนั้น ไม่ควรไปสัมผัส เช็ดหรือถูบริเวณนั้น ซึ่งการฉีดมาเด้คอนลาเจนจะช่วยทำให้สุขภาพผิวดีขึ้น ขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายออกมาผ่านระบบการไหลเวียนของน้ำเหลือง หลังทำควรเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงและดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย
ฉีดมาเด้คอลลาเจนดีไหม
คนส่วนใหญ่มักมีคำถามอยู่เสมอว่ามาเด้คอลลาเจนดีไหมเป็นอันตรายหรือเปล่า ซึ่งมาเด้คอลลานเจนนั้นเป็นสารสกัดที่มาจากธรรมชาติสามารถสลายหมดไปเองได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย แต่ที่ควรระวังคือ มาเด้คอลลาเจนของปลอม ซึ่งตัวยาจะมีสารเจือปนอันตราย ทำให้ผิวเกิดการอักเสบมีผื่นคันได้ เพื่อความปลอดภัยควรเลือกใช่สถานบริการที่ได้รับมาตรฐานเท่านั้น
หลังฉีดมาเด้คอลลาเจนจะมีสิวอีกไหม
ส่วนใหญ่แล้วที่ผ่านมายังไม่มีใครได้รับอันตรายจากการฉีดมาเด้คอลลาเจน แต่อาจจะมีเพียง รอยแดงจากรอยเข็มเท่านั้น ส่วนที่ฉีดไปแล้วจะเป็นเกิดสิวไหม ถ้ากรณีที่เป็นสิวอาจได้รับตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือขั้นตอนในการฉีดที่ไม่สะอาด ซึ่งปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นหากผู้เข้ารับบริการเลือกสถานบริการที่ได้รับมาตรฐานอย่างถูกต้องและใช้ตัวยาที่มีคุณภาพผ่านการรับรองจาก อย.
หากหลังจากฉีดมาเด้ไปแล้วเกิดสิวจะต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล บางคนหลังฉีดไปแล้วเกิดการละเลยการดูแลผิวก็สามารถทำให้สิวเกิดขึ้นได้สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง และอยากได้ผลลัพธ์ที่เร็วกว่าการทาครีม การฉีดมาเด้คอลลาเจนถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก แต่สำหรับคนที่มีปัญหาผิวเรื้อรัง หรือมีอายุมากก็อาจจะต้องใช้ระยะเวลา หากจะทำการหยุดฉีดมาเด้คอลลาเจนต้องให้แพทย์ประเมินก่อน
เลือกสถานที่เข้ารับบริการอย่างไรดี
ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนในการดูแลสุขภาพผิว ควรประเมินความเหมาะสมตามที่ตัวเองสะดวก และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลผิวก่อนทุกครั้งเสมอ
รีวิวผลลัพธ์หลังการทำมาเด้คอลลาเจน ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันไปแต่ละบุคคลและผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการดูแลตัวเองด้วยวิธีการนอกเหนือจากการฉีดมาเด้คอลลาเจนก็ช่วยให้ผิวหน้าสุขภาพดีกระจ่างใสได้ชัดเจน เช่น การทำเลเซอร์หน้าใส การฉีดวิตามินผิว โดยสามารถปรึกษาปัญหาผิวกับผู้เชี่ยวชาญประจำคลินิกได้เลย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีตามต้องการ