ว้าว ! ชินคันเซ็น E10 ต้านแผ่นดินไหวได้ชิว ๆ คาดให้บริการในปี 2030
รถไฟชินคันเซ็น E10 รุ่นใหม่ ความเร็ว 320 กม./ชม. ต้านแผ่นดินไหว ใช้สีเขียวสะท้อนธรรมชาติ ภายในอบอุ่น กว้างขวาง และจุดชาร์จทุกที่นั่ง คาดให้บริการปี 2030
SHORT CUT
- ชินคันเซ็น E10 ความเร็ว 320 กม./ชม. มาพร้อมระบบต้านแผ่นดินไหว ลดความเสี่ยงจากแผ่นดินไหวกว่า 1,500 ครั้งต่อปี ระบบกันสั่นสะเทือนช่วยป้องกันการตกราง และระบบบำรุงรักษาอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดพลังงาน
- ออกแบบโดย Tangerine จากอังกฤษ ตัวรถใช้สีเขียว 2 เฉด “Tsugaru Green” และ “Evening Elm” สื่อถึงธรรมชาติภูมิภาคโทโฮกุ พร้อมลวดลายซากุระที่สะท้อนวัฒนธรรมญี่ปุ่น สร้างความโดดเด่นให้กับขบวนรถไฟ
- ภายในรถไฟออกแบบให้มีบรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย ด้วยแสงไฟสีนวล เบาะที่นั่งนุ่มสบายแบบ 2+2 เพิ่มพื้นที่ใช้สอย มีที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง และจุดชาร์จอุปกรณ์ทุกที่นั่ง รองรับการเดินทางไกล คาดเปิดให้บริการปี 2030 บนเส้นทางโทโฮกุ
รถไฟชินคันเซ็น E10 รุ่นใหม่ ความเร็ว 320 กม./ชม. ต้านแผ่นดินไหว ใช้สีเขียวสะท้อนธรรมชาติ ภายในอบอุ่น กว้างขวาง และจุดชาร์จทุกที่นั่ง คาดให้บริการปี 2030
บริษัท East Japan Railway (JR East) เผยภาพชุดแรกของ “รถไฟชินคันเซ็น E10” รุ่นใหม่แกะกล่อง ความเร็ว 320 กม./ชม. มาพร้อมเทคโนโลยีต้านแผ่นดินไหว แถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาดเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2030 (เส้นทางโทโฮคุ)
ต้องบอกว่าแค่บริษัทออกแบบก็น่าสนใจแล้ว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่บริษัทต่างชาติได้รับเลือกให้ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของชาวญี่ปุ่น โดยผู้ออกแบบรถไฟหัวกระสุน E10 คือ Tangerine บริษัทที่ปรึกษาด้านการออกแบบจากอังกฤษ
เจาะ คอนเซปต์ & ดีไซน์ รถไฟชินคันเซ็น E10
บริษัท Tangerine อธิบายว่าคอนเซปต์ของรถไฟชินคันเซ็น E10 ได้แรงบันดาลใจจากทิวทัศน์ธรรมชาติ ท้องทะเล และเสน่ห์ของเมืองต่างๆ มาหลอมรวมเข้ากับแนวคิดด้านการเดินทางที่คำนึงถึงผู้โดยสารเป็นศูนย์กลาง
ภายนอกฉาบทาด้วยสีเขียวนวล และไม่ได้มีแค่เขียวเดียว แต่มีถึง 2 เขียว เขียวแรก (อ่อน) มีชื่อว่า “Tsugaru green” เขียวที่สอง (เข้ม) มีชื่อว่า “Evening Elm” สีเขียวทั้งสองเฉดนี้สะท้อนถึงทิวทัศน์ภูเขา และธรรมชาติในภูมิภาคโทโฮกุ และถ้ามองลงไปใกล้ ๆ จะเห็นลวดลายดอกซากุระ ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่ทั้งโลกเห็นที่ไหน เมื่อไหร่ก็ต้องนึกถึงญี่ปุ่น
เดินเข้ามาภายในรถไฟ E10 ได้รับการออกแบบให้มีแสงไฟสีนวล เพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย สนิทอิงกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึก cozy ยามก้าวเข้ามา มาหย่อนก้นลงนั่งคุณจะได้สัมผัสกับเบาะผนัง และเบาะไล่ระดับอ่อนนุ่ม
แต่เดินทางก็ต้องมาสัมภาระ ภายในของรถไฟ E10 ถูกออกแบบให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง ด้วยที่นั่งแบบ 2+2 ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น สะดวกสบาย ไม่รู้สึกคับแคบทั้งทางกายภาพ และความรู้สึก ส่วนเรื่องการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็มีให้ครบทุกที่นั่ง
รถไฟชินคันเซ็น E10 มีเทคโนโลยีเด่นอะไรบ้าง ?
- เทคโนโลยีต้านแผ่นดินไหว : ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวเฉลี่ย 1,500 ครั้งต่อปี ดังนั้น เทคโนโลยีจะช่วยให้ผู้โดยสารเดินทางได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล
- เทคโนโลยีกันสั่นสะเทือน : นอกจากตัวรถไฟแล้ว จะมีการติดตั้งระบบกันแรงสั่นสะเทือนไว้ที่ราง เพื่อป้องกันรถไฟตกราง รวมถึงมีการยกระดับระบบเบรกให้กับรถไฟ E10 อีกด้วย
- เทคโนโลยีบำรุงรักษาอัจฉริยะ : นี่เป็นระบบช่วยประหยัดพลังงาน ซึ่งแน่นอนว่าสามารถลดต้นทุน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ที่มา: Designboom
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
