SHORT CUT
เข้าถึงความยั่งยืนฉบับสวิตเซอร์แลนด์ Keep The World พาเที่ยวกับ Jungfrau Top of Europe ชวนเจาะลึกความรักษ์โลก ทำยังไงให้เมืองและธุรกิจยั่งยืนได้ขนาดนี้
สวิตเซอร์แลนด์ อีกหนึ่งประเทศในภูมิภาคยุโรปที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความยั่งยืน สปริงนิวส์ในคอลัมน์ Keep The World บทความนี้ ขอพาไปดูความรักษ์โลกในสายเลือดฉบับชาวสวิต โดยขอพาคุณเที่ยวไปกับการคมนาคมที่ทันสมัยที่สุดในเทือกเขาแอลป์กับ Jungfrau Top of Europe
ในความเป็นจริง ยุงเฟรา หรือ ยุงเฟรายอค (Jungfraujoch) หรือจะออกเสียงว่า จุงฟราวก็ได้ เป็นชื่อของยอดเขาแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ และถือว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดบนเทือกเขาแอลป์ ซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลราว ๆ 4,000 เมตร และแน่นอนยอดเขาแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ถ้าใครไม่ได้ไปถือว่ามาไม่ถึงสวิตเซอร์แลนด์
แต่การจะขึ้นไปยังยอดเขาแห่งนี้ได้ อันนี้ต้องซูฮกให้กับกระบวนการและแรงงานก่อสร้างทางรถไฟในอดีต ซึ่ง Jungfrau Top of Europe คือผู้บุกเบิกเส้นทางสู่เทือกเขาแอลป์ดังกล่าวนั่นเอง
การพิชิตเทือกเขาแอลป์ด้วยรถไฟ ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นปี 1869 ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นแค่การเริ่มระดมไอเดียว่าจะสร้างรถไฟแบบไหนจึงจะขึ้นไปได้ จนมาถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 1896 เป็นวันแรกที่เริ่มมีการขุดสร้างเส้นทางภายในภูเขา โดยใช้แรงงานจำนวนมากจากอิตาลี
โดยได้ทำการขุดอุโมงค์ผ่านเขาไอเกอร์ (Eiger) และเขาเมินซ์ (Mönch) เพื่อทะลุไปยังยุงเฟรายอค และในปี 1913 รถไฟขบวนแรกก็ได้เปิดให้บริการพาแขกรับเชิญเดินทางระยะ 9.3 กิโลเมตร ขึ้นไปยังยุงเฟรายอค ซึ่งถือว่าเป็นความภาคภูมิใจด้านวิศวกรรมของชาวสวิตที่ยังคงตราตรึงมาจนถึงทุกวันนี้
นับตั้งแต่มีการสร้างทางรถไฟยุงเฟรา ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารธุรกิจ ยุงเฟราได้สร้างโรงงานไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำ (Hydropower)ไว้ใช้เอง และก็ขายให้กับคนในพื้นที่ด้วย ทำให้ชุมชนและคนในพื้นที่ใช้พลังงานหมุนเวียนได้อย่างง่ายในราคาที่เอื้อมถึง
คุณเรโม เคเซอร์ (Mr Remo Käser) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Jungfrau Top of Europe ได้เล่าให้ฟังว่า ยุงเฟรามีเป้าหมายอยากให้องค์กรลดการใช้น้ำมันอันก่อให้เกิดคาร์บอนให้ได้ 30% ภายใน 1 ปี ซึ่งเค้ายอมรับว่า ธุรกิจเค้าเองยังคงไม่สามารถสร้างธุรกิจไร้คาร์บอนได้ 100% แต่สิ่งที่ต้องทำคือการลดคาร์บอนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สิ่งที่ทำคือ การแทนที่เครื่องยนต์สันดาป จำพวกแก๊สโซลีน น้ำมันต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งไอน้ำ ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากน้ำ ซึ่งใช้น้ำที่ละลายมาจากน้ำแข็งบนภูเขานำมาเข้ากระบวนการให้เกิดเป็นกระแสไฟ
อย่างไรก็ตาม นอกจาก Jungfrau Top of Europe จะมีโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเป็นของตนเองแล้ว ตอนนี้กำลังมีโปรเจกส์ใหม่คือการติดตั้งโซลาร์เซลล์ นำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของพลังงานร่วมกับพลังงานน้ำ ซึ่ง Jungfrau Top of Europe ไม่ได้ให้บริการแค่รถไฟเท่านั้น แต่ยังมีกระเช้าไฟฟ้า เครื่องเล่น กิจกรรมแอดเวนเจอร์ รวมไปถึงบริการทัวร์ มีไกด์ส่วนตัวให้ สถานีและร้านค้าในเทอมินัล (Terminal) ที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนพึ่งพาพลังงานสะอาดของยุงเฟราทั้งสิ้น
นอกจากสิ่งแวดล้อมที่ต้องแคร์แล้ว ยังมีเรื่องคนที่ก็ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เราถามคุณเรโมว่า เราเห็นว่า สายเคเบิลของยุงเฟราได้พาดผ่านตัวหมู่บ้านเพื่อขึ้นไปยังภูเขา (กรณีเปิดให้บริการกระเช้าไฟฟ้าไอเกอร์ Eiger Express) ซึ่งอาจบดบังวิวทิวทัศน์และกระเช้าอาจมีการพาดผ่านบ้านของผู้คนขึ้นไป อาจทำให้ความเป็นส่วนตัว ไม่ค่อยส่วนตัวนัก เรื่องนี้เป็นปัญหาหรือไม่ แล้วคุณจัดการได้อย่างไร จนสามารถก่อสร้างมาได้จนเปิดให้บริการ
คุณเรโมเล่าว่า แน่นอนว่าในช่วงแรกน่ะ มีความขัดแย้งนิดหน่อย หลายบ้านไม่ค่อยโอเคที่จะมีกระเช้าผ่านเหนือบ้านตัวเอง แต่ทางยุงเฟราก็มีการเจรจาเรื่อยมา เพราะการจะทำโครงการใด ๆ นั้นใช้เวลานาน เรามีการวางแผน รวมไปถึงใช้วิธีการลงคะแนนเสียง ให้ชาวบ้านมาโหวตว่าต้องการหรือไม่ต้องการกระเช้า และเราต้องให้คำมั่นด้วยว่า การดำเนิธุรกิจของเราจะไม่สร้างผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนในหมู่บ้าน ผลคือมีคนลงคะแนนเห็นด้วย อนุมัติให้สร้าง 70% ส่วนคนไม่เห็นด้วยเราก็ต้องพยายามต่อรอง นั่นเลยเป็นเหตุผลให้เราใช้เวลานานกว่าจะเริ่มก่อสร้างได้
แต่ที่ผ่านมา เรายังให้ความสำคัญกับผู้คนเสมอ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว การคมนาคมของเรา สามารถสร้างรายได้ให้กับหมู่บ้านจากการท่องเที่ยว รวมไปถึงการสร้างงาน ให้คนที่อยู่ที่นี่มาทำงานกับ Jungfrau Top of Europe ไม่ต้องเดินทางไกลไปทำงานต่างเมือง ซึ่งตอนนี้เรามีคนในพื้นที่ทำงานให้ 2,000 คนแล้ว
ทริปในครั้งนี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนหลายแห่ง และเข้าใจนิยามที่ว่า “ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย” อย่างถ่องแท้เลย และหากใครเป็นสายธรรมชาติ ชอบเล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์กับวิวขุนเขาพาโนรามา เราขอแนะนำ เฟียร์ส (First) ภูเขาแห่งกิจกรรม outdoor Adventure สามารถขึ้นไปได้ด้วยกระเช้าไฟฟ้าจากสถานีกรินเดิลวาลด์ (Grindelwald) ภูเขาแห่งนี้มีเครื่องเล่นให้คุณจุก ๆ 4 แบบ ทั้ง
นอกจากนี้บริเวณเฟียสต์ยังมีร้านอาหารและกิจกรรมเดินดูธรรมชาติอีกมากมาย รวมไปถึง เฟียสต์คลิฟฟ์วอลก์ บายทิสโซต์ (First Cliff by Tissot) ให้คุณได้เดินเลียบหน้าผาด้วยสะพานขึง ชมวิวของยอดเขาไอเกอร์สุดลูกหูลูกตา
และที่ห้ามพลาดคือ สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ ที่ต้องนั่งไอเกอร์ เอ็กซ์เพรส รถกระเช้าแบบเคเบิลที่ทันสมัยที่สุดในโลก เพื่อไปท่องยังยอดของยุงเฟรายอค ประตูสู่โลกอัลไพน์ เป็นสถานที่ฮอตฮิตที่มีหิมะตกตลอดทั้งปี
จริง ๆ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก ที่อยู่ระหว่างเส้นทางการเดินรถไฟของ Jungfrau Top of Europe กดติดตาม Keep The World และ Springnews ไว้ แล้วเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังในบทความต่อไป กับเรื่องราวของภาวะโลกร้อนต่อธารน้ำแข็ง ต้นกำเนิดสายน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตชาวสวิตฯ
1.โปรโมชั่น ตั๋วเครื่องบิน เส้นทาง กรุงเทพ-ซูริค ไป-กลับ สายการบิน Turkish Airlines ชั้นประหยัด เริ่มต้น 39,040 บาท
จอง 1 พ.ย.67 – 30 มี.ค.68 - เดินทาง 2 พ.ย.67 - 31 มี.ค.68
2.บัตรโดยสารขนส่งสาธารณะในสวิตเซอร์แลนด์ Swiss Travel Pass
2.1 แพ็กเกจเดินทางแบบใช้ต่อเนื่อง
ที่นั่งชั้น 2 ราคาเริ่มต้น 9,720 บาท/ท่าน
ที่นั่งชั้น 1 ราคาเริ่มต้น 15,490 บาท/ท่าน
2.1 แพ็กเกจเดินทางแบบยืดหยุ่น
ที่นั่งชั้น 2 ราคาเริ่มต้น 11,110 บาท/ท่าน
ที่นั่งชั้น 1 ราคาเริ่มต้น 17,720 บาท/ท่าน
จอง 1 พ.ย.67 – 27 ก.พ.68 - เดินทาง 2 พ.ย.67 - 28 ก.พ.68
3.โปรโมชั่นยอดเขายุงเฟรา (Jungfraujoch) จุดสูงสุดของยุโรป | สวิตเซอร์แลนด์
3.1 ตั๋วไป-กลับ สถานีอินเตอร์ลาเคน ออสต์ - ยุงเฟรายอค
3.2 ตั๋วไป-กลับ | สถานีกรินเดลวัลด์ – ยุงเฟรา
3.3 ตั๋วไป-กลับ | เลาเทอร์บรุนเนน - ยุงเฟรายอค
จอง 1 พ.ย.67 – 13 ธ.ค.67 - เดินทาง 2 พ.ย.67 - 14 ธ.ค.67
4.ห้องพักที่โรงแรมซันสตาร์ กรินเดลวาลด์ สำหรับ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า เริ่มต้น คืนละ 11,600 บาท
จอง 1 พ.ย.67 – 30 มี.ค.68 - เดินทาง 2 พ.ย.67 - 31 มี.ค.68
จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถเช่า และกิจกรรม ที่ KTC WORLD บริการข้อมูลการเดินทางและท่องเที่ยว ดำเนินการโดย บริษัท เวิลด์ เอ็กซ์พลอเรอร์ จำกัด
ระยะเวลาการจองและแลกรับส่วนลด : 1 ม.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67
สอบถามและปรึกษาเพิ่มเติม
โทร. 02 123 5050
ทักแชท >> https://ktc.cards/KWT-addline-FB
ตั้งแต่ 08.00 - 22.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
*กรณีฉุกเฉิน โทร. ติดต่อได้ตลอด 24 ชม.