ชวนรู้จัก วิถี sustainNEOvation ใช้นวัตกรรมสร้างความยั่งยืน ตั้งแต่ต้นทางสู่ปลายทาง จาก NEO เจ้าของสินค้าอุปโภคชั้นนำของไทย
หลายคนน่าจะรู้จัก บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO ผู้ทำการตลาด ผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศไทย ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2532 เจ้าของ 8 ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในตลาด ทั้งผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน Fineline, Smart, Tomi ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล BeNice, TROS, Eversense, Vivite และผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็ก อย่าง D-nee กันอยู่แล้ว
และในขณะที่หลายบริษัทปรับตัว ปรับวิธีดำเนินธุรกิจ ให้เป็นไปตามกระแสโลกเกี่ยวกับการสร้างความยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) แต่สิ่งเหล่านั้นกลับเป็นสิ่งที่ผู้บริหารและผู้ร่วมงานของ NEO ปฏิบัติมามากกว่าสิบปี ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง และส่งต่อความแคร์คืนสู่สังคม ผ่านไอคอน NEO CARE ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน
ภายใต้วิถี sustainNEOvation และแนวคิด “Innovation from Core to Care - คิดดีเพื่อโลก นวัตกรรมดีเพื่อคุณ”
ทั้ง 2 คำนี้มีความสำคัญอย่างไร?
คุณสุทธิเดช ถกลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) ให้คำเฉลยไว้ว่า เป็นแนวทางการจัดการแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำอย่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงกระบวนการผลิต การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการขนส่งสินค้า โดย NEO จะมีทีมด้าน ESG โดยเฉพาะที่เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมนี้ให้ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด นำไปสู่ทุกความร่วมมือในองค์กรพร้อมสร้างความแข็งแกร่งร่วมกัน
“ทั้งหมดไม่เพียงแต่คำนึงถึงความใส่ในในการดูแลสิ่งแวดล้อม แต่ยังหมายรวมถึงการแบ่งปันความรู้ให้สังคม และการบริหารด้วยหลักธรรมาภิบาล กลายเป็นวิถีที่เราให้นิยามกันว่า ‘sustainNEOvation’ การสร้างความยั่งยืนให้ประเทศและโลกด้วยการใช้นวัตกรรมในแบบของ NEO ในทุกๆ กระบวนการจากต้นทางสู่ปลายทาง เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าเราแคร์ในคุณภาพผลิตภัณฑ์และเพิ่มความสบายใจในทุกๆ ครั้งที่ได้นำผลิตภัณฑ์ของเราไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ” คุณสุทธิเดชกล่าว
แต่แค่คำพูดสวยหรูอย่างเดียวอาจไม่พอ รูปธรรมที่ NEO ดำเนินการเพื่อความยั่งยืนมีอะไรบ้าง?
คุณปัทมา ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการพาณิชย์ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พันธกิจด้าน ESG ของเรามุ่งเน้นในเรื่องของเป้าหมายที่ชัดเจน โดยทีม ESG จะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายในองค์กร เพื่อการบรรลุถึงเป้าหมายดังกล่าว เช่น
“ซึ่งความสำเร็จของเป้าหมายเหล่านี้ล้วนมาจากวิสัยทัศน์อันชัดเจนของ NEO ที่ได้ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน”
คุณปัทมายังกล่าวว่า นอกจากเป้าหมายด้าน ESG แล้ว NEO ยังมุ่งทำธุรกิจที่เริ่มต้นจากความใส่ใจในคุณภาพชีวิตของผู้คน โดยมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนให้แนวคิดกลายเป็นจริง
โดย NEO ได้ให้ความสำคัญกับ 4 หัวข้อใหญ่ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคโดยตรงครบ ทั้งระบบนิเวศน์ของการดูแลทั้งสิ่งแวดล้อมและสังคม
น้ำ – เพราะหัวใจหลักของสินค้าในเครือ NEO ก็คือน้ำ เราจึงให้ความสำคัญกับคุณภาพของน้ำ ทั้งน้ำในการผลิตและน้ำเสีย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการพัฒนาคุณภาพน้ำอย่างจริงจัง โดยจะไม่มีการปล่อยน้ำเสียออกสู่ภายนอกเลย โดยมีการนำน้ำมาผ่านกระบวนการให้เอากลับมาใช้ต่อ เช่น นำไปรดน้ำพืชผักสวนครัวในโรงงาน รวมถึงการจัดตั้งโครงการธนาคารน้ำใต้ดินต้นแบบที่ส่งต่อความรู้เรื่องการจัดการน้ำให้กับชุมชนต่างๆ
คุณภาพชีวิต – ความตั้งใจในการยกระดับคุณภาพชีวิตคือแนวคิดหลักในการทำงานของ NEO เราพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ชีวิตของผู้บริโภคสะดวกสบายยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการดูแลโลกได้ง่ายขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ D-nee กับการออกแบบสูตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, ผลิตภัณฑ์ BeNice มีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ (Virgin Plastic) และเน้นการใช้พลาสติกรีไซเคิลทดแทน หรือ Fineline ที่ได้พัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มให้มีกลิ่มหอมติดผ้ามากขึ้นในปริมาณการใช้ที่น้อยลง และผลิตภัณฑ์ซักผ้าเข้มข้นที่ถูกพัฒนาให้ลดการใช้น้ำตั้งแต่ในกระบวนการผลิต แต่ยังคงคุณภาพในการทำความสะอาดได้ดีเยี่ยม เป็นต้น
พลังงาน – เราเน้นการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนสำหรับกระบวนการผลิตสินค้าในโรงงานสีเขียวของ NEO อย่างเช่นการติดตั้งแผ่นโซลาร์เซลล์ที่โรงงานเพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง และมีการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นทุกปีเพื่อลดมลพิษที่เกิดขึ้นด้วย
ชุมชน – เราได้นำความรู้ที่มีส่งต่อไปยังชุมชนโดยรอบโรงงาน เพื่อพัฒนาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงการร่วมมือกับคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง นำองค์ความรู้ไปช่วยต่อยอดให้กับชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ
คุณณิชมน ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายนวัตกรรมธุรกิจ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) แกนนำสำคัญของทีม ESG ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นจริงจังของพันธกิจนี้ว่า สิ่งนี้เหล่านี้เป็นมากกว่าแค่การทำตามเทรนด์ของโลก แต่มีผลมาจากความต่อเนื่องในการลงมือปฏิบัติของเรามาอย่างยาวนานนับสิบปี โดยมีนวัตกรรมขับเคลื่อนให้นโยบายต่างๆ กลายเป็นความจริง ซึ่งเราเชื่อว่าสามารถนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงของสังคมได้
“ในวันที่โลกกำลังเข้าสู่สถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่น่าเป็นห่วงมากขึ้นทุกปีทุกปี เราจึงอยากชักชวนผู้บริโภคที่ต้องการจะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมที่ดีมีคุณภาพ มาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีแบบ “sustainNEOvation” เพื่อยกระดับความสุขในทุกๆ วันให้กับทุกคนอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ สามารถติดตามเรื่องราวด้าน ESG ของ NEO ได้ที่ www.neo-corporate.com และทางเฟซบุ๊ก NEO Corporate รวมถึงกิจกรรม NEO Care ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
โครงการ Sustainable Packaging มีแผนที่จะยกเลิกการใช้ PVC (PVC Elimination) ในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด ภายในปี 2568 เพื่อช่วยลดผลกระทบของการใช้ PVC ต่อสิ่งแวดล้อม
โครงการ Benice Roadmap เปลี่ยนวัสดุบรรจุภัณฑ์แบบพลาสติกบริสุทธิ์ (Virgin Plastic) เป็นเม็ดพลาสติกที่ถูกผลิตขึ้นจากพลาสติกที่ผ่านการใช้งานแล้ว (Post-Consumer Recycled Resin: PCR) ในสัดส่วนร้อยละ 30 ของวัสดุในบรรจุภัณฑ์ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการใช้ PCR ในสัดส่วนดังกล่าวให้ครอบคลุมร้อยละ 20 ของบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2568 บริษัทยังมีโครงการบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน (Sustainable Packaging) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณการใช้พลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้
การนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดมาผลิตเป็นน้ำประปา โดยการใช้เทคโนโลยีการกรองผ่านเยื่อบางในระบบ UF (Ultrafiltration system) ซึ่งสามารถลดการใช้น้ำจากภายนอกได้ทั้งหมดปริมาณ 140,112 ลบ.ม.ต่อปี