อินเดียกำลังจะรวย เมื่อพวกเขาพบว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 5 หมื่นล้านรูปี หรือราว 2 หมื่นล้านบาท
ขยะอิเล็กทรอนิกส์ของอินเดียกำลังกลายเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เมื่อมีรายงานระบุว่า การสกัดโลหะจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ มีศักยภาพทางเศรษฐกิจราว 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 52,096 ล้านรูปี (20,288 ล้านบาท) ขณะที่อินเดียได้กลายเป็นผู้ผลิตขยะอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสหรัฐอเมริกา
ขยะอิเล็กทรอนิกส์ของอินเดียยังเพิ่มปริมาณมากขึ้นเกือบสองเท่าตัวในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จาก 2 ล้านเมตริกตัน ในปี 2014 เป็น 3.8 ล้านเมตริกตันในปี 2024 สาเหตุมาจากการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว และประชาชนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มผู้บริโภคซึ่งรวมถึงภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจมีส่วนรับผิดชอบในฐานะผู้ก่อให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์ในอินเดียเกือบ 70% เมื่อปี 2024
แนวโน้มสำคัญในการสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์คือการเปลี่ยนแปลงการใช้วัสดุ แม้ว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ๆ มักจะมีขนาดเล็กและเบากว่ารุ่นเดิม แต่จำนวนอุปกรณ์ที่ถูกทิ้งเป็นขยะกลับเพิ่มมากขึ้น ทำให้การรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพมีความสำคัญมากกว่าที่เคย
มีการคาดการณ์ว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์จะยังคงมีปริมาณเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และมูลค่าโลหะในขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นจะยิ่งทำให้อินเดียมีโอกาสสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพการรีไซเคิล และวางตำแหน่งตัวเองในฐานะผู้นำด้านการสกัดโลหะอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันอินเดียมีโรงงานรีไซเคิลที่สามารถจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคได้เพียง 16% เท่านั้น แม้จะคาดว่าภาคส่วนรีไซเคิลอย่างเป็นทางการจะเติบโตที่อัตรา CAGR 17% ภายในปี 2035 แต่คาดว่าจะจัดการได้เพียง 40% ของขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดในอินเดียเท่านั้น